เผด็จการรูปแบบใหม่???


เพิ่มเพื่อน    

                                                                                                                                             (1)

            ความดัง ความเป็นที่รู้จัก หรือ ความเป็นซัมบอดี้  ฯลฯ แล้วแต่จะเรียกอะไร...อันอาจถือเป็น สรณะ ของคนรุ่นใหม่ ยุคใหม่ รุ่นสไลด์นิ้ว รุ่นถากไถมือถือ แบบ รูดปรื๊ด...รูดปรื๊ด อะไรประมาณนั้น เท่าที่ลองสังเกตจากผู้ที่พยายาม เว้นระยะห่าง จากคนรุ่นนี้ ยุคนี้ ประมาณสี่-ห้าร้อยโยชน์ หรือแสนเจ็ดหมื่นแปดสองร้อยสิบห้าวาด้วยกัน ดูๆ มันจะมี ลักษณะพิเศษ อยู่อย่าง คือมักจะ วูบๆ-วาบๆ ดังเร็ว และ ดับเร็ว หาอะไรที่ค้างเติ่ง ค้างฟ้า แทบไม่ได้เอาเลยทีเดียวเจียว...

                                                                                                                                 (2)

            จะด้วยเหตุเพราะที่มา-ที่ไป ด้วยแรงส่ง แรงขับเคลื่อน ที่มันออกจะเกี่ยวพันกับความก้าวหน้า ก้าวไกล ของ เทคโนโลยี หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังไม่อยากสรุปเอาไว้ก่อนล่วงหน้า คือด้วยความเป็นยูทูบ เป็นทวิตเตอร์ เป็นเฟซบุ๊ก  ฯลฯ อะไรทำนองนั้น ที่ออกจะมีส่วนไม่มาก-ก็น้อย ในการช่วยให้ความเด่น ความดัง สามารถระเบิดเถิดเทิงพอๆ กับ  บิ๊กแบง เอาเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะถ้าหากมีผู้ตามไปกดแชร์ กดไลก์ กันเป็นล้านๆ ถึงขั้นสิบล้าน ยี่สิบล้าน ฯลฯ แต่อาจด้วยเหตุเพราะเพจ เพราะเว็บไซต์ หรือเพราะด้วยช่องทางต่างๆ ในการเข้าไปไลก์ เข้าไปแชร์ มันอาจปาเข้าไปนับพันๆ ล้าน แสนๆ ล้าน ไปแล้วก็มิอาจรู้ได้!!! บรรดาความเด่น ความดัง เหล่านี้ มันเลยมักจะ ละลาย ออกอาการ พร่ามัว หรือ วูบหายๆ ไปก่อนกำหนดการซะเป็นหลักใหญ่...

                                                                                                                                 (3)

            ดังนั้น...ไม่ว่าจะ ดัง แค่ไหน ระเบิดเถิดเทิงไปถึงขั้นไหน แต่สุดท้ายก็มัก แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ เหือดแห้ง สูญสลายหายไปได้เร็วมาก จนอาจไม่ถึงกับเป็น อันตราย มากมายซักเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะถ้าสามารถ ตั้งรับ สามารถ ประเมิน แนวโน้มความเป็นไปเหล่านี้เอาไว้ก่อนล่วงหน้า ได้อย่างชัดเจนและรัดกุมเพียงพอ และจะด้วยเหตุนี้หรือไม่? อย่างไร? ก็ยังไม่อยากสรุปเอาไว้ก่อนอีกเช่นกัน ที่ทำให้บรรดาพวก เผด็จการ หรือพวกที่พยายาม ควบคุม และ  บังคับ ความเป็นไปทางสังคมในรูปแบบต่างๆ จึงกลับพลิกมาเป็น ฝ่ายได้เปรียบ ขณะที่ฝ่าย เสรีนิยม หรือฝ่าย ประชาธิปไตย แบบสุดฤทธิ์ สุดเดช สุดลิ่มทิ่มริดสีดวงทวาร จึงกลับกลายเป็นฝ่าย ประชาธิป...ตาย หรือมีแต่ ตาย...กับ...ตาย หนักขึ้นเรื่อยๆ...

                                                                                                                                 (4)

            แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะตายแล้ว-ตายเล่า กันมาโดยตลอด มันถึงได้เกิดข่าวคราว เกิดคำร่ำลือ หรือเกิดความคิด-ความอ่าน แบบที่เรียกๆ กันว่า ทฤษฎีสมคบคิด อะไรไปโน่น ถึงแนวโน้มความเป็นไปได้ที่บรรดาพวก เสรีนิยม ทั้งหลาย โดยเฉพาะพวกที่เคยเรียกๆ ตัวเองอย่างภูมิอก ภูมิใจ ว่า เสรีนิยมใหม่ อะไรทำนองนั้น ทำท่าว่าอาจต้องหันมาหาหนทางในอันที่จะ ควบคุม และ บังคับ ใครต่อใครในสังคมตัวเอง ในระบบและระบอบของตัวเองขึ้นมามั่งแล้ว ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ ไปจนถึง สุขภาพ เอาเลยก็ว่าได้ เกิดแนวคิด แนวทาง แบบที่เรียกๆ กันว่า The Great  Rest หรือ Build Back Better โดยอาศัยเงื่อนไขและข้ออ้าง ในช่วงที่ใครต่อใครกลัวป่วย กลัวตาย รวมถึงกลัวไม่มีจะแ-ก หรือช่วงจังหวะที่ท่านเชื้อโควิดท่านกำลังแพร่ระบาดแบบระลอกแล้ว ระลอกเล่า นั่นเอง...

                                                                                                                                 (5)

            จริง-ไม่จริง...ก็คงต้องไปศึกษา ค้นคว้า เอาเองก็แล้วกัน แต่จากแนวโน้มความเป็นไปที่ฝ่าย เผด็จการ ชักมาแรง แซงโค้ง ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่อง เศรษฐกิจ หรือเรื่องเงินๆ-ทองๆ นี่แหละ โอกาสที่บรรดาพวก เสรีประชาธิปไตย ทั้งหลาย จะหันไป ควบคุม และ บังคับ สิ่งที่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนระบบและระบอบของตัวเองมาโดยตลอด นั่นก็คือ ทุนนิยม ทั้งหลาย ให้กลายสภาพไปเป็น ทุนนิยมที่มีความรับผิดชอบ หรือจะเรียกว่า เผด็จการเสรีนิยม ไม่ก็ เผด็จการพี่เลี้ยงเด็ก ฯลฯ อย่างที่ใครต่อใครเคยให้ชื่อ ฉายา เอาไว้นานแล้ว ก็แล้วแต่จะว่ากันไป...

                                                                                                                                 (6)

            ทั้งนั้น ทั้งนี้...ก็ด้วยเหตุเพราะ เทคโนโลยี ที่ทำให้เกิดความ ดัง ในแบบ วูบหายๆ นั่นแหละ เป็นตัวสำคัญ คือถ้าหากไม่หาทาง ควบคุม และ บังคับ มันเอาไว้มั่ง โอกาสที่จะสูญสลาย หายสิ้น กันไปทั้งชาติ ทั้งสังคม ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย การหาทาง ออกแบบ มาตรการในอันที่จะ ควบคุม และ บังคับ ด้วยกรรมวิธีต่างๆ ให้เป็นไปในแบบนิ่มๆ ไม่ถึงกับสาก กับด้านจนเกินไป ไม่ว่าด้วยการ เซ็นเซอร์ ระดับชาติไปจนถึงระดับโลก การออก พาสปอร์ตเพื่อสุขภาพ ในการเดินทางไปมาหาสู่ซึ่งกันและกัน การปรับเปลี่ยน ระบบเงินตรา ไปสู่ความเป็นเงินดิจิทัล ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่แหละ ว่ากันว่า...กำลังเริ่มเห็นได้ สัมผัสได้ เป็นไปได้ ยิ่งเข้าไปทุกที...

                                                                                                                                             (7)

            อย่างไรก็ตาม...สำหรับประเทศเล็กๆ อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ที่ยังไม่ถึงกับก้าวหน้า ก้าวไกลในด้าน  เทคโนโลยี มากมายซักเท่าไหร่ แม้จะมีผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ก  ทวิตเตอร์ แทบเป็นอันดับต้นๆ ของโลกไปแล้วก็ตาม ก็คงไม่ถึงกับตื่นตัว ตื่นตูม จนเกินไป เพราะภายใต้ความ ดัง แบบ  วูบหายๆ ภายในสังคมของเรานั้น มันอาจเป็นตัวพิสูจน์ ยืนยัน ถึงบางสิ่งบางอย่างที่อาจมีความ ได้เปรียบ ซะยิ่งกว่าความเป็น เผด็จการ เอาเลยก็ไม่แน่!!! สิ่งที่ถูกเรียกขานกันในนามวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมทางสังคม หรือถ้าเรียกให้หรูๆ ขึ้นมาหน่อย ก็คงต้องเรียกว่า ความเป็นไทย นั่นแล...

                                                              ------------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"