ไลฟ์เคลียร์ทุกประเด็นร้อนแล้ว สำหรับดีเจ.มะตูม-เตชินท์ พลอยเพชร ที่กำลังอยู่ในช่วงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่ออกมาแจ้งข่าวการติดเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยเจ้าตัวชี้แจงทั้งประเด็นงานปาร์ตี้วันเกิด ยอมรับว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์ในห้องจริง รวมไปถึงประเด็นเรื่องการศึกษา ที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างเผ็ดร้อนไม่กี่วันก่อน
          "วันนี้ตูมอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นวันที่ 15  ตรวจแล้ว และก็ยังพบเชื้ออยู่ ส่วนอาการแทรกซ้อนก็ไม่มีอะไร สุขภาพร่างกายของตูมยังแข็งแรงดี ปอดปกติดีครับ น่าจะไปซากเชื้อที่เหลืออยู่ จริงๆ ตอนนี้ตูมสามารถออกไปกักตัวนอกโรงพยาบาลได้แล้ว เพราะเชื้อที่เหลืออยู่คือเป็นซาก แต่ถึงอย่างนั้นตูมก็ยังเลือกที่จะอยู่โรงพยาบาลต่อเพื่อให้แน่ใจเรื่องความปลอดภัยที่สุด
          ประเด็นวันนี้ที่อยากจะพูดคือเรื่องของ วันเกิดของตูม 9 มกราคมที่ผ่านมา ขอแยกเป็น 2 ประเด็นคือข้อกฏหมาย กับเรื่องของข่าวลือต่างๆ วันที่ 9 อย่างที่บอกว่าเป็นวันเกิด ไม่สามารถจัดงานได้เหมือนทุกปี ก็เลยไปทานอาหารกับแม่และเพื่อนสนิทเล็กๆ ก็เลยไปที่บันยันทรี สาทร ตอนแรกจองไว้ประมาณ 8 ที่ ยืนยันว่าเป็นเพื่อนนอกวงการทั้งสิ้น ไม่มีคนในวงการ ก็เลยถามเพื่อนว่ามีใครจะจองห้องบ้าง ก็ได้เปิดห้องสวีท 3 ห้อง ในห้องมีห้องรับแขกและห้องนอนอีก 3 ห้อง ตูมก็เข้าไปเช็คอินตั้งแต่เที่ยง เกือบทุ่มแขกก็เริ่มมาแล้ว ตูมขึ้นไปที่ร้านทานอาหารกับเพื่อนๆ
          วันนั้นเลขาจะเป็นคนรับเรื่องว่ามีใครมาบ้าง ก็มาจบที่ 13-14 ที่ แล้วก็มีลูกค้าท่านอื่นด้วยนะครับ ก็ทานอาหารกันแบบเป็นคอร์ส เสิร์ฟแยก มาตรการของโรงแรมมาตรฐานรัดกุมมาก ก็นั่งทานกันไม่มีการเสิร์ฟแอลกอฮอล์ เพราะทางโรงแรมไม่มีการจำหน่าย ที่เห็นเพื่อนๆ ก็จะสั่งน้ำส้ม น้ำผลไม้กัน 3 ทุ่มตรงคือเก็บโต๊ะให้คนทยอยออกเลย ตูมก็ถ่ายรูปเล่นกันถึงประมาณ 3 ทุ่ม 15 ก็ลงมาผ่านล็อบบี้ ก็เจอกลุ่มน้องที่เอาของขวัญมาให้ถ่ายรูปแล้วแยกย้าย เพื่อนบางส่วนก็ไม่ค้าง บางส่วนที่พักเขาก็ขึ้นไปก่อนตูม ประมาณ 4 ทุ่มตูมก็ขึ้นไปที่ห้อง ที่มีข่าวว่าปาร์ตี้ต่อที่ห้อง คือห้องนึงอยู่ได้ประมาณ 5-6 คน ตูมก็อยู่ที่ห้องตูม คนคอลมาเบิร์ธเดย์เยอะมาก เพื่อนบางส่วนก็เอาของขวัญมาให้แล้วก็กลับ
          สิ่งที่ตูมอยากจะพูด และไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน นั่นก็คือตูมมีการดื่มแอลกอฮอล์ในห้องจริงๆ และก็ไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่ได้มาจากโรงแรม แต่เป็นเพื่อนๆ ที่เขาตามมาทีหลังเขาหิ้วติดมาให้ ซึ่งตูมก็จะโกหกไม่ได้ ตูมยอมรับว่าตูมทำผิด แต่ตูมจะไม่ฟื้นฟอยว่าใครเป็นคนเริ่มใครเป็นคนเปิด แต่ในฐานะที่ตูมเป็นเจ้าของวันเกิด ตูมขอยอมรับผิดคนเดียว ตูมพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน และไม่ต้องกลัวว่าตูมจะปิดบังข้อมูลใดๆ เพราะข้อมูลเหล่านี้เจ้าหน้าที่เขาได้รับทราบรายละเอียดไปหมดแล้ว
          ตูมยอมรับว่าตูมหละหลวมและตูมผิดเอง ถ้าหากตูมไม่อนุญาตให้เพื่อนดื่มเหล้า มันก็คงไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จนกระทั่งประมาณ ตี 2 ของวันนั้น ตูมก็แยกย้ายไปนอนในห้องของตูมตามปกติ ทั้งหมดนี้คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตูมยอมรับผิด ถ้าหากวันนั้นตูมไม่ได้มีการนัดเพื่อนมารวมตัวกันในวันนั้น มันก็คงไม่มีเหตุการณ์การแพร่ระบาดครั้งนี้เกิดขึ้น"

 

 

          "ส่วนเรื่องไทม์ไลน์ที่คนพูดถึงกันเกี่ยวการไปเชียงใหม่ ตูมยอมรับว่าตูมไปมาจริง แต่ว่าตูมไม่ได้ไปสถานที่บันเทิง ไม่ได้เจอกับคนที่เสี่ยง หรือเข้าพื้นที่เสี่ยง คือตูมไม่อยากให้โทษหรือพาดพิงไปที่จังหวัดไหนอีก ตูมแค่อยากจะบอกว่าเหตุการณ์การแพร่ระบาดทั้งหมด มันเกิดขึ้นในวันที่ 9 วันที่ตูมจัดงานวันเกิดครับ
          สำหรับกรณีข้าวโอ๊ตตูมต้องขอโทษจริงๆ ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีเพื่อนดารามางาน เพราะตูมไม่ทราบมาก่อนเลยว่าข้าวโอ๊ตคือดารา ตูมรู้แค่ว่าเขาเป็นแฟนของน้องสาวคนหนึ่งที่ตูมสนิท ตูมเพิ่งมารู้จริงๆ ว่าเขาเป็นศิลปินหลังจากนั้น และต้องขอโทษน้องด้วยนะครับที่ทำให้น้องต้องติดเชื้อไปด้วย"

          "จะใช้คำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ไม่ได้ เพราะตูมรู้ว่าถ้าหากมันมีการแพร่ระบาดเกิดขึ้นในงานมันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ตูมจะขอใช้คำว่า ไร้ความรับผิดชอบไร้จิตสำนึกต่อสังคม มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย วันนี้ตูมได้รับคำตักเตือนได้รับคำด่าทอมากมายจากสังคม ซึ่งมันแฟร์ ตูมทำผิดตูมสมควรได้รับโทษ และตูมก็พร้อมที่จะรับโทษทุกๆ อย่าง ผิดก็ว่าไปตามผิด ตูมหนีความจริงไม่ได้แล้ว เพราะตูมเป็นคนที่ทำให้เหตุการณ์ทั้งหมดมันเกิดขึ้น
          ต่อไปก็เป็นเรื่องของข่าวโจมตีต่างๆ ที่บอกว่างานตูมไม่ได้มีคนแค่ไม่กี่คน แต่ว่ามีคนเยอะมาก ซึ่งตูมต้องอธิบายก่อนว่า ภาพที่มีการนำเสนอออกมานั้นเป็นภาพเก่าเมื่อปีที่แล้วนะครับ และก็ขอให้หยุดแชร์เพราะมันจะส่งผลกระทบต่อคนในภาพได้
          ส่วนเรื่องที่บอกว่าตูมติดเชื้อมานานแล้ว และโดนสั่งไม่ให้ไปร่วมงานวันเกิด อันนี้ตูมต้องบอกก่อนว่าไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะถ้าตูมติดมานานขนาดนั้น ปอดตูมคงพังไปแล้ว
          สำหรับเรื่องยาเสพติด อันนี้เกินความเป็นจริงไปมาก และคนที่พูดก็ไม่ได้อยู่ในงานด้วย รวมถึงเรื่องการเรียกผู้ชายมาเอนเตอร์เทน เป็นนายแบบ 4 คน คือตูมไม่ได้เจอนายแบบเลยสักคนตั้งแต่ปีที่แล้ว และบางคนที่เป็นข่าวตูมก็ไม่เคยเจอเลยด้วยซ้ำ เรื่องพวกนี้ปล่อยผ่านไปเลย รวมถึงตูมก็ไม่เคยสั่งลา ไม่เคยใส่ท่อ ใส่เครื่องช่วยหายใจใดๆ เลยทั้งสิ้นนะครับ"

 

 

          "ส่วนเรื่องที่ตูมซีเรียสมากๆ เลยก็คือ เรื่องประวัติการศึกษา ตูมไม่เคยพูดแน่นอนว่าตูมเคยพูดจบจากคณะอักษรศาสตร์ ศิลปากร ตูมไม่เคยพูดที่ไหนเลย ตูมบอกตลอดว่าตูมจบจากเยอรมัน และตูมก็ไม่ได้จบปริญญาตรีด้วย ซึ่งตูมเรียนไม่จบเพราะตูมได้มีโอกาสมาทำงานตรงนี้ก่อน
          และเรื่องที่ใครจะขุดเรื่องเก่าๆ เรื่องสมัยเน็ตไอดอล เรื่องอะไรก็แล้วแต่ ตูมไม่ได้ซีเรียสเลย เพราะตอนนี้ตูมอยากพูดถึงชุดข้อมูลตรงนี้ก่อนดีกว่า แต่ตูมยอมรับครับว่าทุกคนมีอดีต และถ้าหากตูมทำอะไรให้ใครไม่พอใจตูมก็ต้องขอโทษ ตูมอยากจะจบเรื่องนี้จริงๆ นะครับ ตูมได้รับบทลงโทษทางสังคมแล้ว และสุดท้ายเลยนะครับ ตูมอยากจะบอกว่า ตูมขอโทษ ตูมไร้ความรับผิดชอบ ไร้สามัญสำนึกต่อสังคมจริงๆ ขอโทษที่ทำให้หลายคนเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้
          ตูมรู้ว่าคำขอโทษมันไม่สามารถทดแทนอะไรได้เลย แต่ตูมขอโทษจริงๆ ขอโทษประชาชนทุกคนที่ปฏิบัติตัวทุกอย่างตามที่เจ้าหน้าที่รัฐขอความร่วมมือ ตูมละอายใจมากกับสิ่งที่ตูมทำ และตูมสมควรได้รับการด่าทอ 100 เปอร์เซ็นต์ ตูมเห็นแก่ตัวจริงๆ ครับ"

 

 

ขอบคุณภาพประกอบจากอินสตาแกรม dj_matoom