ว่าด้วย...วัคซีนทางจิตวิญญาณ


เพิ่มเพื่อน    

                                                           (1)

        ตรุษจีนปีนี้...เห็นว่าเขาไม่คิดเฉลิม ฉลอง ไม่คิดจะจุดประท้ง จุดประทัด ให้ดังสนั่นหวั่นไหวโดยใช่เหตุ ซึ่งต้องถือเป็นสิ่งที่เหมาะ-ที่ควร เป็นสิ่งสอดคล้อง ต้องกัน กับบรรยากาศความเป็นไปของโลกและของสังคมไทย อยู่พอสมควร ที่ยังไงๆ...คงหนีไม่พ้นต้องหาทาง เว้นระยะห่าง ต้อง สวมหน้ากาก เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งยังไม่คิดจะเจือจาง ห่างหาย เอาง่ายๆ...

                                                         (2)

        โดยถ้าลองนับนิ้วกันมาเป็นระยะๆ...ไม่ว่าตั้งแต่ ตรุษไทย หรือตั้งแต่สงกรานต์ปีที่แล้วโน่นเลย ไล่มาถึง ตรุษฝรั่ง จนกระทั่งเลยมาถึงปีหม่ง ปีใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมหนีไม่พ้นต้องอ้างว้างและวังเวงไปตามสภาพ คือแทบไม่มีโอกาสได้ฮือๆ ฮาๆ เฮๆ ฮาๆ กรี๊ดๆ กร๊าดๆ เหมือนแต่ก่อน เพราะขนาดประเภทที่ไปแอบจัด แอบเอา งานวันเกิด ตัวเองเป็นเงื่อนไขและข้ออ้าง ฉวยจังหวะเฮๆ ฮาๆ กรี๊ดๆ กร๊าดๆ ได้แค่ไม่เท่าไหร่เอง สุดท้าย...หนีไม่พ้นต้องโดนท่านเชื้อไวรัสโควิด ท่าน สอย ซะจนต้องหงายท้อง หลับกลางอากาศชนิดระเนระนาด ไม่ใช่แค่เฉพาะ ติดเชื้อ เผลอๆ ยังอาจ ติดตะราง ไปซะอีกต่างหาก ด้วยเหตุเพราะความประมาท หรือความเพลิดเพลิน เจริญใจ ใดๆ ก็ตามที ที่มันส่งผลกระทบในทางร้ายๆ ไปถึงผู้อื่น ผู้ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

                                                     (3)

        และจะด้วยเหตุเพราะความอ้างว้าง ความแทบไม่มีโอกาสเพลิดเพลิน เจริญใจ รื่นเริง บันเทิงใจ หรือไม่? อย่างไร? ก็มิอาจสรุปได้ ถึงได้ทำให้เกิดความหงุดหงิด งุ่นง่าน ความอึดอัด ขัดข้องใจ ของบรรดาผู้คนในสังคมต่างๆ ประเทศต่างๆ จนต้องแห่ออกมาประท้วง ออกมารวมตัวต่อต้าน คัดค้าน มาตรการควบคุม ป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ในแต่ละสังคม แต่ละประเทศ จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโต หรือเรื่องที่ไม่เพียงแต่นำไปสู่การ ติดเชื้อ ยังหนีไม่พ้นต้อง ติดตะราง เพราะการฮึดฮัด ขัดขืนการแสดงออกความไม่พึงพอใจต่อรัฐบาล ต่อมาตรการต่างๆ ไปจนต่อบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้รักษาความสงบ ชนิดต้องไล่ทุบ ไล่ตี กันไปเป็นประเทศๆ เอาเลยก็ว่าได้...

                                                     (4)

        การบรรเทา เบาบาง ความหงุดหงิดและงุ่นง่าน ตลอดไปจนความอ้างว้าง วังเวง ภายในอารมณ์-ความรู้สึกของใครต่อใคร ด้วยการหาทางสร้างความสงบ ความเย็น ความเพลิดเพลิน เจริญใจ ภายในตัวตนของแต่ละ ปัจเจกบุคคล ท่ามกลางบรรยากาศการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสตัวนี้ ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะอีกซักกี่ปี กี่ชาติ จึงเป็นอะไรที่ออกจะ สำคัญ ไม่น้อยทีเดียว ที่แม้แต่ หมอ หรือ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านสาธารณสุข ท่านอาจไม่ได้พูดถึง กล่าวถึง มากมายซักเท่าไหร่ เพราะแค่ตามไล่ ตามล่า บรรดาผู้ติดเชื้อในแต่ละราย ที่ปาเข้าไปเป็นร้อยๆ ล้านไปแล้วในทุกวันนี้ ตลอดทั่วทั้งโลก ก็เล่นเอาเหนื่อยระดับเหงื่อตกกีบ ต้องเสียสละแรงกาย แรงใจ อย่างน่าห่วง น่าเห็นใจ เอามากๆ...

                                                     (5)

        และอันนี้นี่แหละ...ที่มีแต่ต้องหันไปหา ธรรมะ ลูกเดียวเท่านั้นเอง ที่พอช่วยเหลือ เฟือฟายใครๆ ได้ไม่น้อยไปกว่า วัคซีน ไม่ว่ายี่ห้ออเมริกัน อังกฤษ รัสเซีย หรือจีน ฯลฯ ก็แล้วแต่ ซึ่งอาจพอช่วยปกป้อง คุ้มกัน อะไรต่อมิอะไรในทาง ร่างกาย ได้มั่ง แต่ในแง่ จิตใจ แล้วล่ะก็ มีแต่ต้องอาศัย ธรรมะ ในศาสนาต่างๆ เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม ฮินดง ฮินดูใดๆ ก็ตามที ที่ย่อมครอบคลุมไปถึงหลักปรัชญา หรือหลักจิตวิทยา สมัยเก่า-สมัยใหม่ ในทุกแนวคิด ทุกทฤษฎี อยู่แล้วแน่ๆ มาเป็นตัวช่วยบรรเทา เบาบาง ไปจนคุ้มครอง ป้องกัน สิ่งที่อยู่ลึกลงไปภายในร่างกาย หรือสิ่งที่เรียกๆ กันว่า จิตใจ-จิตวิญญาณ แต่ละคนแต่ละราย กันไปตามสภาพ...

                                                      (6)

        เพราะไม่ใช่เพียงแค่ความหงุดหงิด งุ่นง่าน ความอ้างว้าง วังเวง หรือกระทั่งความอึดอัด ขัดข้องใจใดๆ ก็เถอะ กระทั่งลึกลงไปถึงความเจ็บปวด รวดร้าว ทรมาน ในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี อันเป็นสิ่งที่ เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-และดับไป ตาม เหตุปัจจัย ที่ย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละสภาพ และสามารถส่งผลให้สิ่งที่อยู่ลึกลงไปภายในร่างกายเกิดอาการ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ขึ้นมาได้ง่ายๆ ก็มีแต่ ธรรมะ ในศาสนาต่างๆ เท่านั้น ที่พอช่วยขจัดปัดเป่า หรือพอช่วยสร้างภูมิคุ้มกันใหม่ๆ ขึ้นมาได้ตามแต่ จริต ของใคร-ของมันก็แล้วแต่จะเลือกเอา...

                                                      (7)

        หรือพูดง่ายๆ ว่า...ภายใต้ภาวะที่ว่านี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมะ ศาสนา ไปจนกระทั่งจิตวิทยาทั้งหลาย น่าจะต้องรวมหัว รวมตัว หาทางประดิษฐ์ คิดค้น วัคซีน ในอีกชนิดหนึ่ง ที่สามารถฉีด หรือพ่น หรือจะด้วยกรรมวิธีใดๆ ก็แล้วแต่ เพื่อช่วยให้เกิด ภูมิคุ้มกันทางจิตใจ สำหรับผู้คนพลโลก พร้อมๆ กับ ภูมิคุ้มกันทางร่างกาย ให้ครอบคลุม กว้างขวาง มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มันถึงจะครบสูตรแบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ได้จริงๆ หรือให้ต้องแข็งแกร่ง แข็งแรง ทั้งทางร่างกายและจิตใจควบคู่กันไป ไม่เช่นนั้นบรรดาผู้ที่ฉีดวัคซีน ผู้ที่พอมีภูมิคุ้มกันทางร่างกายทั้งหลายนี่แหละ อาจกลายเป็น ปัญหา สำหรับโลกยุคใหม่ หรือ โลกยุคหลังโควิด ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ไม่ว่าในทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ที่ต่างต้องรอคอย ผลกระทบ ที่กำลังทยอยตามมา ในอีกไม่นาน-ไม่ช้า นับจากนี้เป็นต้นไป...

                               --------------------------------------------------------------


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"