'ไมค์ พิรัชต์'ซัดทนายดัง ไม่ต้องมาสงสัยความเป็นพ่อของตน


เพิ่มเพื่อน    

 

          พระเอกหนุ่ม ไมค์-พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ยอมรับโล่งใจ หลังยื่นคำร้องต่อศาลขอรับรองน้องแม็กซ์เวลล์ เป็นบุตรถูกต้องตามกฎหมาย และสำเร็จลงในการไกล่เกลี่ยครั้งที่ 3 ก่อนซัด ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความฝั่งซาร่า คาซิงกินี ไม่ต้องมาสงสัยความเป็นพ่อของตน หมาแมวมันยังไม่ทิ้งลูก ตนเองก็ไม่ทิ้งเช่นกัน และที่ผ่านมาก็ดูแลลูกมาโดยตลอด

          “วันนี้ที่ผมเตรียมมาเสนอ ผมจะจ่ายค่าศึกษาของลูกร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นโรงเรียนที่ผมเลือก มีค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และจะเก็บเงินออมให้ลูกด้วย  ทีนี้พอเสนอไปทางนั้นไม่โอเค เขาไม่อยากย้ายโรงเรียนลูก ผมเลยเสนอเป็นโรงเรียนเดิมแต่จ่ายคนละครึ่ง ซึ่งผมต้องการจ่ายตรงกับทางโรงเรียน แต่ทางนั้นต้องการให้จ่ายผ่านพ่อของทางคุณซาร่า ซึ่งผมไม่มีความสบายใจในจุดนี้  สุดท้ายก็ยื้อกันไปมา

          ตอนแรกคิดว่าจะเสร็จช่วงเที่ยง ก็กำลังร่างสัญญาแล้ว พอทางเขาไม่โอเคก็เลยลากยาว สุดท้ายผมจ่ายละคนครึ่งกับเขาถึง ป.6 หลังจากนั้น ม.1 จนถึงมหาวิทยาลัย เป็นหน้าที่ของผมที่ต้องไปคุยกับลูก ว่าเขาอยากเรียนที่ไหน ผมจะจ่ายเต็มตรงนั้น ส่วนตอนนี้ผมก็จ่ายตรงกับทางโรงเรียนได้ และเรื่องประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เก็บเงินออมเอาไว้ด้วยให้ลูกในอนาคต

 

 

          สิทธิ์การปกครองลูกยกให้เขาเลย ผมไม่ได้ขอร้องสิทธิ์การปกครอง ผมแค่ต้องการที่จะเจอลูก เยี่ยมเยียนได้อย่างง่ายดายแค่นั้นเลย เรื่องเซ็นรับรองบุตร จะไปวันไหนเหรอ ยังไม่ทราบครับ เดี๋ยวค่อยนัดกันอีกทีก็ได้  สิทธิ์ในการเจอลูก ตอนแรกขอไป 3 ครั้ง แต่เขาก็ไม่อยากระบุ แต่ผมก็ยังยืนกรานว่าต้องการระบุว่าขั้นต่ำต้อง 2 ครั้งต่อเดือน ในเอกสารใช้ว่าประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดเวลา แต่ต้องแจ้ง 5 วันล่วงหน้า

          ครั้งที่แล้วเขาให้สัมภาษณ์ตอนที่เขาไปเดินสายสวัสดีสื่อว่าไม่ได้ติดที่ทางเขา แต่ติดที่ทางผม ผมขอชี้แจงตรงนี้เลยว่าไม่ได้เป็นข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทั้งหมดมันติดที่ค่าใช้จ่ายเหมือนกับครั้งนี้ ไม่ได้แตกต่างกันเลย  อีกอย่างนึงประเด็นหลักเลยที่เขาติด ก็คือที่เขาบอกว่าจะยกแม็กซ์ให้กับผม แต่ผมบอกว่าขอไปคิดดูก่อน ผมขอชี้แจงในข้อนี้ คือวันนั้นพอเขาบอกว่าจะยกแม็กซ์ให้ ผมหันกลับไปตอบทันทีว่าผมตกลง แต่ต้องพาแม็กซ์ไปจีน  ผมต้องขอไปคิดดูก่อน ในฐานะพ่อก็ต้องคิดว่าสุดท้ายแล้วมันดีกับแม็กซ์จริงๆ หรือเปล่า ต้องคิดให้ละเอียดและรอบคอบ

          ทีนี้เจตนาคืออะไรในการสัมภาษณ์นั้น มันชัดเจนอยู่แล้วให้ผมโดนด่า ซึ่งผมโดนด่ามา 6 ปีแล้วครับ มันไม่ได้สำคัญอะไรกับผมเลย จะโดนด่าต่อไปมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม แต่คนเป็นพ่อแม่ควรจะต้องเป็นโล่ห์ให้กับลูก ไม่ใช่ให้ลูกมาเป็นโล่ห์ให้กับตัวเองแล้วก็ไปหลบหลังลูก แล้วผมบอกเลยนะครับ อาจารย์ประมาณครับ ไม่ต้องมาสงสัยความเป็นพ่อของผม หมาแมวมันยังไม่ทิ้งลูกเลย ผมก็ไม่ทิ้งหรอกครับ และที่ผ่านมาผมก็ดูแลลูกมาโดยตลอด ไม่ต้องมาถามเรื่องความเป็นพ่อจากผมนะ ผมอาจจะไม่ได้ดีเท่าอาจารย์ แต่ว่าผมก็พยายามที่สุดในสิ่งที่คนๆ นึงทำได้ มันก็แค่นั้นเองครับ

          ที่ผ่านมาผมไม่พูด แล้วทางนั้นก็ให้ข่าวๆ แล้วคอยบิดเบือนข้อมูลอยู่เรื่อยๆ และสุดท้ายทัวร์ก็มาลงผม แล้วคุณจะไปให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับผมทำไม ผมบอกเลยนะสื่อโซเชียลมีเดียของคุณที่ชอบตอบคำถามต่างๆ นานา คำถามมันเลือกตอบได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณจะต้องลงทุนถึงขั้นเบลอชื่อผมหรืออะไรก็แล้วแต่ และไปตอบคำถามที่ยังมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับผม เลือกไม่ตอบดีกว่าครับ และเวลาคนอื่นถามเกี่ยวกับผมก็ช่วยตอบไปว่าไม่ขอตอบคำถามเรื่องไมค์ค่ะ เหมือนที่คุณเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเรื่องวาดิม ผมขอแค่นี้ ไม่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับผมอีกนับจากนี้เป็นต้นไป ผมไม่ต้องการมีอะไรเกี่ยวข้องหรือข้องแวะ ผมต้องการแค่นี้เลยครับ และหลังจากนี้ทำหน้าที่พ่อแม่ ดูแลลูก แบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนเรียบร้อย มันแค่นั้นเลย

 

 

 

ขอบคุณภาพจากอินสตาแกรม m1keangelo


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"