เนื่องใน “วันนักข่าว”


เพิ่มเพื่อน    

                                                          (1)

                ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา หรือวันที่ 5 มีนาคมนั้น...ถ้าว่ากันตามค่านิยม วัฒนธรรม ประเพณี เท่าที่เคยยึดถือ ปฏิบัติ กันมา ต้องถือเป็นช่วงวาระสำคัญของบรรดาพวก นกน้อยในไร่ส้ม หรือบรรดา สื่อมวลชน ทั้งหลาย หรือถือเป็น วันนักข่าว วันของบรรดานักหนังสือพิมพ์ ผู้ไม่เคยอิ่มในรสข่าวสาร โอชะกว่ารสอาหาร บริการเพื่อประชาชน อย่างที่คุณน้า ธานินทร์ อินทรเทพ ท่านเคยครวญครางเป็นบทเพลง เอาไว้เมื่อหลายต่อหลายสิบปีที่แล้ว...

                                                      (2)

                แต่เมื่อมาถึงวันนี้ หรือ ณ ขณะนี้...คงต้องยอมรับเอาจริงๆ นั่นแหละว่า ออกจะหนักไปทาง แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ ไม่ได้เหลือน้ำ เหลือเนื้อ ไม่ได้ขลุกๆ ขลิกๆ อะไรต่อไปอีกแล้ว เพราะความเป็น นักข่าว หรือ นักหนังสือพิมพ์ นั้น ก็น่าจะไม่ได้ต่างอะไรไปจากปุถุชนคนธรรมดา ไม่ได้เหลือฐานันดร 4 ฐานันดร 5 หรือฐานันดรใดๆ ที่จะเอาไว้อวด เอาไว้โชว์ อีกต่อไปแล้ว เผลอๆ...อาจหนักซะยิ่งกว่าปุถุชนคนธรรมดา ในแง่ของการถูกด่า ถูกว่า ถูกตำหนิ ติเตียน อันเนื่องมาจากความวิปริต ผิดเพี้ยนใดๆ ก็แล้วแต่ ที่บรรดา นักข่าว-นักหนังสือพิมพ์ ช่วงหลังๆ อาจสะสม สั่งสม เอาไว้เยอะแยะพอสมควร...

                                                         (3)

                แต่ที่แน่ๆ...ก็คงหนีไม่พ้นไปจากสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี นั่นแหละทั่น!!! ที่ทำให้ความเป็น นักข่าว-นักหนังสือพิมพ์ มีแต่ต้องหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จะไป ค่ำลงบันเทิงเริงใจ-เหมือนนกอยู่ในไร่ส้ม-เราไม่ปรารมภ์กับสิ่งใดๆ อย่างก่อนๆ นั้น คงไม่เหลือติดปลายนวมให้เห็นกันต่อไปอีกแล้ว ยิ่งประเภทที่หนักไปทาง มีกินมีใช้เป็นพอ-ไม่ขอรบกวนผู้ใด-มีเงินมีทองไม่คิดอะไร-ซื้อเหล้าใส่ไหไว้กิน-กับแกล้มไม่ต้องเป็นของไม่ดีๆ-สิ้นเปลืองใช่ที่ แต่ถ้ามีก็เอา อะไรประมาณนั้น ยิ่งน่าจะสาบสูญไปจากคาบสมุทรยูคาทาน หรือหายไปพร้อมกับก้อนอุกกาบาตที่ตกใส่โลก เมื่อหลายพันล้านปีที่แล้วแบบบรรดา ไดโนเสาร์ ทั้งหลายนั่นแล...

                                                       (4)

                คือในช่วงที่สิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยี มันยังไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องอะไรมาก ความเป็นนักข่าว-นักหนังสือพิมพ์แบบเก่าๆ เดิมๆ หรือแบบ พวกเราสูงศักดิ์...สูงนัก...สูงหนา ร่อนเร่เคหาไม่มี ค่ำไหนนอนนั่น เราไม่หวั่น เราไม่หวาด รักษาเอกราชเสรี เราเหล่าสกุณา ร่มไม้ใบหญ้า เราก็กล้านอน บ่ห่อนเกรงภัยใดๆ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้ มันก็อาจจะพอ เวิร์กๆ อยู่มั่ง แต่ครั้นพอสิ่งที่ เทคโนโลยี มันก่อให้เกิดการ แข่งขัน กันมากเข้าๆ เกิดการสั่งซื้อแท่นพิมพ์ เครื่องเรียงพิมพ์ ประเภทคอมพิวเตอร์รุ่นโน้น รุ่นนี้ หรือเกิดการเคลื่อนตัวเข้าสู่ระบบ ธุรกิจ ที่ยังไงๆ คงต้อง ทุนนิยม เอาไว้ก่อน มันถึงจะพอๆ ไปได้ ไปรอด บรรดา นกน้อยในไร่ส้ม ทั้งหลาย ก็เลยถูกจับแ-ก ถูกรับประทาน จนแทบสูญพันธุ์ไปแล้วก็ว่าได้ เหลือแต่บรรดาพวก อีแร้ง หรือพวกนักธุรกิจสิ่งพิมพ์ นักธุรกิจสื่อมวลชน อะไรประมาณนั้น...

                                                       (5)

                ยิ่งเมื่อต้องเจอกับ อภิมหาเทคโนโลยี ระดับอินเทอร์หน่ง อินเทอร์เน็ต เข้าไปด้วยแล้ว...ขนาดบรรดา อีแร้ง ทั้งหลาย เผลอๆ อาจถึงขั้นต้องสูญพันธุ์ตามไปอีกเอาง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นประเภททีวีดาวเทียม ทีวีดิจิตอล หรือทีวีโดยปกติธรรมดาในแต่ละราย ล้วนแล้วแต่หนักไปทาง แห้ง...กับ...แห้ง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ส่วน หนังสือพิมพ์ นั้นแทบไม่ต้องพูดถึง ล้วนแต่ออกไปทาง โชคดี...ที่ตายก่อน กันไปตามลำดับๆ ความเป็นนักข่าว-นักหนังสือพิมพ์ กับความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่เพียงแค่มี มือถือ เท่านั้นเอง จึงแทบไม่ต่างอะไรไปจากกันเอาเลยแม้แต่นิด เผลอๆ...ความเป็นนักข่าว-นักหนังสือพิมพ์นั่นแหละ ที่ทำให้อาจถูกด่า ถูกตำหนิ ซะยิ่งกว่า ยิ่งถ้าหากไม่มี เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ เอาไว้แก้ตัว แก้ข้อกล่าวหา ยิ่งอาจหนักหนา สาหัส ยิ่งขึ้นไปใหญ่...

                                                       (6)

                ด้วยเหตุนี้...จึงไม่ถือเป็นเรื่อง แปลก ที่ วันนักข่าว ในช่วงหลังๆ นี้ จึงเป็นอะไรที่แบบบ์บ์บ์แห้งง์ง์ง์ หรือแห้งแสนแห้งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจาก เทคโนโลยี ที่มันพรั่งพรู กรูเข้ามา ไม่ต่างอะไรไปจากสายลม หรือพายุใหญ่ ชนิดแทบไม่รู้ว่าจะหาทางปัดป้อง ปกป้อง กันในแบบไหนและอย่างไร เลยทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างมีอันต้องแห้งลงๆ เหมือนน้ำแห้งคลอง กันในแต่ละระลอก เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่เพียงแต่สามารถเปลี่ยนวิถีทาง วิถีชีวิต วิถีการทำมาหารับประทาน ของแต่ละปัจเจกบุคคล ไปจนถึงองค์กรแต่ละองค์กรแต่เพียงเท่านั้น เอาไป-เอามาแล้ว...มันอาจถึงขั้นสามารถ เปลี่ยนจิตวิญญาณ เอาเลยก็ยังได้ เปลี่ยนความรับรู้ เปลี่ยนจิตสำนึก เปลี่ยนพฤติกรรมและบุคลิกลักษณะของผู้คน ไปได้ต่างๆ นานา...

                                                      (7)

                ดังนั้น...การดำรง คงอยู่ ใน โลกแห่งเทคโนโลยี ในแบบที่ไม่ถึงกับ แห้ง...กับ...แห้ง จนเกินไป สุดท้ายแล้ว...คงหนีไม่พ้นต้องขึ้นอยู่กับว่า ใครที่จะสามารถประคับประคอง รักษา จิตวิญญาณ ดั้งเดิมของตัวเอง อันเป็นเสมือนที่นั่ง ที่ยืน หรือ พื้นที่สุดท้าย เอาไว้ได้มากหรือน้อยขนาดไหน อย่าเสียเวลาไปยึดทีวีช่องโน้น ช่องนี้ หรือยึดสื่อฯ โน้น สื่อฯ นี้ให้มากเรื่อง มากความ เพราะนั่นอาจยิ่งทำให้ จิตวิญญาณ ถูกกลืนกิน ถูกแ-ก ถูกรับประทานเอาง่ายๆ สู้หันมาปกป้องจิตสำนึก ความรับรู้ ให้มั่นคง แข็งแรง ให้สามารถฝังลึกอยู่ในคุณธรรม มโนธรรม จริยธรรม อันไม่ต่างอะไรไปจากศีลธรรมตามธรรมชาติของมวลมนุษย์ หรือมวลชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเหลือ มือถือ แค่หนึ่งด้าม เหลือพื้นที่เล็กๆ น้อยๆ ใน เฟซบุ๊ก หรือ ทวิตเตอร์ ก็ตาม โอกาสที่จะประกาศตนในนาม นักข่าว-นักหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อมวลชน ฉบับของจริง-ของแท้ ย่อมพอเป็นไปได้อยู่มั่งไม่มากก็น้อย...

                                -----------------------------------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"