ฟิลิปปินส์เตรียมล็อกดาวน์กรุงมะนิลาและปริมณฑล ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่า 24 ล้านคน เริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้า ประชาชนห้ามออกนอกบ้านเว้นเหตุจำเป็นและขนส่งมวลชนหยุดบริการ ขณะสถานการณ์โควิด-19 น่าเป็นห่วง คนไข้ล้นโรงพยาบาล ยอดติดเชื้อรายวันใกล้หลักหมื่น

เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นฆ่าเชื้อในชุมชนแออัดแห่งหนึ่งของกรุงมะนิลาเมื่อวันศุกร์ (Photo by Ezra Acayan/Getty Images)

    แฮร์รี โรเก โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม ว่าการล็อกดาวน์นาน 1 สัปดาห์ จะบังคับใช้กับมหานครมะนิลาและ 4 จังหวัดปริมณฑล ซึ่งมีประชากรรวมกันมากกว่า 24 ล้านคนหรือราว 1 ใน 5 ของประเทศ "ไวรัสคือศัตรู ไม่ใช่รัฐบาล" เขากล่าว "เมื่อเราอยู่บ้าน เราก็หวังว่าอัตราการติดเชื้อจะช้าลง"

    ตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ประชาชนจะต้องทำงานจากที่บ้าน เว้นแต่จะเป็นผู้ที่ทำงานในภาคที่เห็นว่าจำเป็น ธุรกิจที่ไม่จำเป็นจะต้องหยุด ระบบขนส่งมวลชนจะระงับบริการ ห้ามประชาชนรวมตัวกัน และจะบังคับใช้เคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 18.00 น.-05.00 น. ประชาชนจะได้รับอนุญาตให้ออกนอกบ้านได้เพื่อออกกำลังกาย แต่เด็กและผู้สูงอายุต้องอยู่กับบ้านเท่านั้น

    การล็อกดาวน์ครั้งก่อนๆ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ แต่ครั้งนี้ โรเกกล่าวว่า สัปดาห์หน้ามีวันทำงานน้อยลง เนื่องจากตรงกับเทศกาลวันหยุดอีสเตอร์วันพฤหัสบดีและวันศุกร์

    เอเอฟพีกล่าวว่า ฟิลิปปินส์มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ถึง 9,595 คนเมื่อวันเสาร์ สูงเป็นอันดับ 2 นับแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 ในฟิลิปปินส์ ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมมีมากกว่า 712,000 คน เสียชีวิตมากกว่า 13,000 คน

    กลุ่มวิจัยอิสระ OCTA ซึ่่งเคยเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้ออาจสูงถึงวันละ 11,000 คนภายในสิ้นเดือนมีนาคม กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า จำเป็นต้องใช้ข้อจำกัดที่เข้มงวดขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อช่วยโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์จากการแบกภาระล้นเกินรับไหว

    มีโรงพยาบาลในกรุงมะนิลาหลายแห่งมากขึ้นที่รายงานว่าเตียงที่จัดเตรียมไว้สำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19 นั้นเต็มหมดแล้ว แพทย์คนหนึ่งที่ให้คำปรึกษาสถานพยาบาลหลายแห่งบอกกับเอเอฟพีว่า สภาพที่นั่นเหมือนสงคราม "คนตายที่บ้านเพราะไม่มีใครพาพวกเขาไปโรงพยาบาล แม้แต่คนที่มีเงินและพร้อมจะจ่ายก็ตาม" เขากล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อ

    ส่วนคนขับรถพยาบาลชื่อ โรนัลด์ รามอส เผยกับเอเอฟพีว่า เขาเห็นห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเต็มไปด้วยผู้ป่วยรอแอดมิตเข้าแผนกผู้ป่วยหนักและแผนกอื่นๆ บางคนอยู่ตรงโถงทางเดินหรือหน้าห้องนางพยาบาล เพราะไม่มีที่ให้ไป.