หนุ่มขอนแก่นขอความเป็นธรรมถูกรถเก๋งทหารอากาศฝ่าไฟแดง ชนสลบอาการสาหัสแล้วหนีไม่รับผิดชอบ


เพิ่มเพื่อน    

30 มี.ค.64 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โลกโซเชียลมีเดีย ได้เผยแพร่ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “วิสุทธิ์ ฯ.” ได้โพสต์เล่าเรื่องราวที่ตนเองถูกทหารอากาศขับรถเก๋งฝ่าไฟแดงชนแล้วไม่รับผิดชอบ อีกทั้งยังไปโพสต์ว่าไม่ต้องตกใจ แค่เหยียบงู ผู้ได้รับบาดเจ็บจึงขอความเป็นธรรมให้ตัวเองและครอบครัวซึ่งอยู่กันสองพ่อลูก พ่อต้องยืมเงินมาดูแลเพราะไม่สามารถไปทำงานได้ต้องดูแลตนเองที่ไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน

พร้อมข้อความระบุว่า “พวกคุณคิดยังไงกับรถที่โครงหักรถเสีย ศูนย์จะซ่อมแล้วมาให้ผมผ่อนต่อ จากชีวิตที่กำลังดี จะต้องมานั่งบำบัด ขาก็หัก ผมนอนไอซียู 10 วัน และนอนโรงพยาบาลต่ออีกเป็นเดือน ตอนนั้นผมยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ ผมผ่าตัด ขา หัว ท้อง หน้าผมก็ผิดรูปต้องบำบัด ฟันก็หัก ไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่ากับข้าว พ่อผมไม่ได้ทำงาน เพราะผมเดินไม่ได้ คุณคิดยังไงในระหว่างที่พวกคุณทำงานใช้ชีวิตปกติ ในระหว่างที่ผมเดินไม่ได้ ทำงานไม่ได้อีก ครอบครัวผมเสียรายได้นะครับ

ผมต้องทำงานช่วยค่าบ้านพ่อที่เช่า และไหนจะค่ารถที่คุณชนผมอีก แล้วคุณมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ค ว่าไม่เป็นไรถือว่าเหยียบงู คุณคิดได้ไงว่าผมเป็นงู คุณลองมาเป็นงูแบบที่คุณคิดสิ คุณจะได้รู้ว่าความรู้สึกความเจ็บปวดแบบนี้เป็นไง อีกเรื่องที่ครอบครัวผมไม่ได้พูดอีกเรื่องคือ คุณเมาแล้วขับ เรื่องคดีคุณมีแต่ยื้อเวลาผ่านไป คุณเป็นถึงกับทหารอากาศ แต่ไม่เคยมาเยี่ยมดูผมเลย ผมกับพ่อผมอยู่กันแค่สองคน ฝากแชร์หน่อย ผมไม่ได้โพสต์เพื่อประจาน ผมอยากได้ความเป็นธรรม เดือนกว่าแล้วคดียังไม่ถึงไหน เลยแม้แต่รถผม”

ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์และได้พูดคุยกับ นายนิกูล ทะวะลี อายุ 47 ปี ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ่อของนายวิสุทธิ์ ทะวะลี อายุ 18 ปี คนเจ็บ โดยนายนิกูล กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.15 น. วันที่ 10 ก.พ.2564 ซึ่งขณะนั้นลูกชายได้เดินทางกลับบ้านหลังจากที่เลิกงานภายในปั๊มน้ำมัน เป็นจังหวะที่ลูกชายขับรถจักรยานยนต์มาเพื่อเลี้ยวขวาในจังหวะไฟเขียวฝั่งตัวเอง อยู่ๆมีรถเก๋งสีขาวของคู่กรณีขับฝ่าไฟแดงมาชนอย่างแรงลักษณะเหมือนไม่ได้เบรกหรือสนใจสัญญาณไฟ ทำให้ลูกชายกระเด็นออกจากรถไปคนละทิศคนละทาง สภาพรถเสียหายไปกว่า 80% ลูกชายสลบ
หลังเกิดเหตุชาวบ้านในละแวกนั้นได้ออกมาช่วยเหลือเรียกรถพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลขอนแก่น พักรักษาตัวทำการผ่าตัดที่ขาขวา เท้าขวา และผ่าช่องท้องเพื่อท่อระบบขับถ่ายของรวม 3 ครั้ง จนถึงวันที่ 24 มี.ค. ออกมาพักรักษาตัวที่บ้าน และหมอจะนัดไปพบศัลยแพทย์ในวันพรุ่งนี้เพื่อดูเรื่องการรักษาฟันหน้าที่แตก 2 ซี่ ฟันกรามเบี้ยวรับประทานอาหารลำบากและไม่สามารถดื่มน้ำด้วยแก้วได้

"ตลอดเวลาช่วงการรักษาตัวของลูกชายตนเองต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลลูกก่อนเนื่องจากสิทธิประกันสังคมให้สำรองจ่ายเงิน จึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากหลายๆที่มา และก็ต้องหยุดงานเพื่อดูแลลูกชายเพราะมีกันแค่ 2 คน ลูกชายก็ต้องหยุดงานไปโดยปริยายไม่สามารถทำงานได้ การใช้ชีวิตเป็นไปอย่างลำบาก และคู่กรณีไม่เคยมาเหลียวแลหรือมาพูดคุยด้วย มีแต่ให้คนอื่นมาคุยแทน และพยายามบ่ายเบี่ยงเรื่องการเยียวยาว่าต้องรอประกัน ซึ่งผ่านไป 2 เดือนแล้ว ลูกชายพบว่าชายคู่กรณีเป็นทหารอากาศอยู่ที่ จ.อุดรธานี"

คู่กรณีพอเห็นโพสต์ลูกชายก็ติดต่อมาจะขอไกล่เกลี่ยพูดคุยกัน ซึ่งเมื่อวานช่วงเย็นได้พูดคุยกับฝ่ายคู่กรณีแต่ทหารที่ชนก็ไม่ได้มาพบเหมือนเดิม เป็นคนอื่นมาคุยให้อีกครั้งและบอกจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าเยียวยาเป็นเงิน 750,000 บาท แต่ต้องรอประกันและจะขอจ่ายแบบผ่อน"

นายนิกูล กล่าวต่ออีกว่า ในวันพรุ่งนี้ที่ไปพบศัลยแพทย์ซึ่งรักษาในกรณีฟันหัก กรามเบี้ยวปากเบี้ยว ซึ่งในส่วนนี้อยู่นอกเหนือจากสิทธิประกันสังคม ลูกชายต้องจ่ายเอง คู่กรณีก็บอกว่าจะจ่ายให้ และจะให้เงินใช้ก่อนบางส่วน ซึ่งกรณีนี้ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.เพียรวิทย์ เย็นญา รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองขอนแก่นขอนแก่น เรียบร้อยแล้ว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"