'กวิ้น' หัวใจพองโตได้ยินข่าวม็อบ ปลอบรุ้งอย่าห่วงเราจะไม่ตายจนกว่าชนะเผด็จการ


เพิ่มเพื่อน    

1 เม.ย.64 - เฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ผู้ต้องขังคดี 112 โพสต์ข้อความว่า ตอนนี้เราไม่ได้ต่อสู้กับร่างกายอย่างเดียว เราต่อสู้กับจิตใจล้วนๆ เราไม่ได้ต่อสู้แค่กับความอยาก แต่เราพยายามต่อสู้กับความเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้โดยใช้ความหวังเป็นอาวุธ และทุกครั้งที่ได้ยินข่าวการเคลื่อนไหวของคนข้างนอก หัวใจของเราก็พองโต ความหวังของเราก็เปล่งประกาย

ก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ ยังได้โพสต์ข้อความว่า ถึง รุ้ง เพื่อนยาก ​เมื่อวานที่บัลลังก์ศาลได้ฟังคำแถลงอดอาหารเคล้าน้ำตาของเพื่อน แม้จะได้ยินไม่แจ่มชัดทุกถ้อยคำ เพราะนั่งงอมอยู่บนรถเข็น แต่ฟังแล้วก็ได้ยินถึงเสียงหัวใจ เสียงที่เพื่อนๆ เอ่ยต่อศาล แม้ไม่ใช่น้ำเสียงที่ดุดันหาญห้าวแต่ก็เป็นเสียงที่สั่นเครือด้วยความจริงใจของคนที่ไม่เข้าใจถึงความปรารถนาให้ประเทศพัฒนา ก้าวหน้า และผู้คนมีชีวิตที่ดีนั้นมันเป็นความผิดได้อย่างไร

น้ำตาที่เพื่อนหลั่งไม่ได้แสดงถึงความอ่อนแอ แต่กลับเผยให้เห็นถึงความจริงใจและซื่อตรงต่ออุดมการณ์อย่างที่เพื่อนเป็นมาโดยตลอด ธารน้ำตาที่อาบแก้มเพื่อนคือธารน้ำตาแห่งความอยุติธรรม ธารน้ำตาสายนี้ไม่ได้อาบแค่แก้มรุ้ง แต่ยังอาบแก้มเรา อาบแก้มเพื่อนๆ ทุกคน และอาบแก้มมวลชลผู้รักประชาธิปไตยทั่วประเทศ อยากจะบอกให้รุ้งได้รู้ว่าเมื่อวานนี้ทุกคนในห้องพิจารณาคดี แม้กระทั่งผู้คุมที่ยืนเฝ้าอยู่ก็ร่วมหลั่งน้ำตาไปกับเพื่อนด้วย

​การอดอาหารประท้วงเป็นหนทางการต่อสู้ที่วีรชนประชาธิปไตยผู้ยิ่งใหญ่หลายคนได้ยอมเดินผ่าน เป็นการต่อสู้กับตนเองเพื่อพิสูจน์ว่าความยากลำบากและความทุกข์ทรมานใดๆ ก็ไม่อาจทำลายอุดมการณ์ของเราได้ เพื่อนอาจจะเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากในหนทางนี้ เพราะการอดอาหารประท้วงเป็นการต่อสู้ที่ไม่มีเวลาพักเบรกเลย แต่ความเหน็ดเหนื่อยและความยากลำบากนี้เองจะเป็นเพลิงไฟที่เผาและตีเราให้เป็นเหล็กที่แข็งกล้ากว่าที่เราเคยเป็น เมื่อเรากลับไปต่อสู้ข้างนอก เราจะได้เป็นดาบที่แกร่งและคม ในสงครามประชาชนครั้งนี้

​เราเป็นกำลังใจให้เพื่อนเสมอ และเชื่อว่าทั้ง คุณพรหมศร ที่อดข้าวอยู่เรือนจำอำเภอธัญบุรี และ คุณพรชัย ที่อดข้าวอยู่ที่เรือนจำเชียงใหม่ รวมถึงเพื่อนๆ และมวลชนทุกคน ก็จะเป็นกำลังใจให้รุ้งด้วยเช่นกัน หากวันใดที่ท้อ ขอให้นึกถึงก้าวการต่อสู้ที่เราย่างเดินผ่านมา และที่เรากำลังย่างเดินไปถึงเส้นชัยในไม่ช้านี้

​ส่วนที่รุ้งบอกว่า กลัวเราจะตายนั้นอย่าได้ห่วง เราจะยังไม่ตายจนกว่าเผด็จการจะตาย แม้ขาเราจะไม่มีแรงจนต้องนั่งรถเข็น แม้น้ำตาลในเลือดเราจะต่ำจนวิงเวียนวูบจนต้องใส่น้ำเกลือ เขาก็จะยังไม่ตาย เมื่อพวกเราทวงคืนความยุติธรรมได้แล้ว เราจะฟื้นฟูเรี่ยวแรงกาย แล้วออกเดินบนหนทางการต่อสู้เผด็จการ เหมือนที่เราเดินผ่านมา

​​​​​เป็นห่วง ดูแลตัวเองให้ดี รักและคิดถึงเพื่อนเสมอ


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"