ปชป.-เริ่มสามปีของวาระปรับตัวครั้งใหญ่


เพิ่มเพื่อน    

 

      ภาพดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์

ลัคนาสถิตราศีกันย์ ธาตุดิน

ทักษาเดิมตกภูมิศุกร์-ตั้งแต่ 5 เมษา.64 อายุเต็ม 75 ปี อายุย่าง 76 ปี ทักษาจรตกภูมิจันทร์

มฤตยูจร (0) เดินอยู่ในราศีเมษ-พระเสาร์ศรีจร 7 เดินอยู่ในราศีมังกร 5 เมษา.64-5 เมษา.65

            5 เมษายน 2564 สุขสันต์วันเกิดครบ 75 ปี พรรคประชาธิปัตย์

            ฤกษ์กำเนิดพรรคนี้อาจแตกต่างกันไปสุดแต่โหรท่านใดจะเลือกใช้ตามถนัด แต่ผู้เขียนขออ้างอิงและใช้ข้อมูลที่-พลูหลวง-ครูโหรผู้ล่วงลับ ให้ไว้ในหนังสือชื่อ-โหราศาสตร์-พิชัยสงคราม-ดวงเมือง เป็นฐาน คือ

            พรรคกำเนิดจากการประชุมกันของคณะผู้ก่อตั้งครั้งที่สอง จำนวน 50 คน ที่คฤหาสน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และตกลงกันได้เวลาใกล้ค่ำของวันศุกร์ที่ 5 เมษายน 2489 ผูกดวงชะตาแล้ว ลัคนาสถิตราศีกันย์ ธาตุดิน

            อ่านพื้นฐานชะตากำเนิดแบบคร่าวๆ คือ ลัคนาสถิตธาตุดิน ถูกโฉลกกับแม่ธรณีเป็นสัญลักษณ์-ผู้นำแม้จะเป็นชายก็ถูกโฉลกกับคนที่ภาพภายนอกดูแล้วออกแนวสุภาพเรียบร้อย-เรียนรู้ได้เร็ว แต่มักทำช้า เพราะเป็นจอมละเอียด-พูดเก่ง (ได้ตรีโกณฑ์ธาตุลม)-แก่กฎหมายหรือหัวหมอ (พฤหัสบดี ๕ นำหน้าลัคนา ฯลฯ

            และต่อไปนี้คือ หลักใหญ่ ของความเป็นไปของชะตาพรรคที่ผ่านมา และกำลังจะเป็นไปตามหลัก โหร-ทักษา

                1.ตั้งแต่ประมาณมีนาคม 2559 มาแล้วที่พรรคเจอปรากฏการณ์หากเป็นคนคือ แตกแยกระหว่างพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก (แก่งแย่ง)-การเงิน หรือเจอเข้ากับอำนาจลึกลับ (มฤตยูจร 0 เดินอยู่ในภพที่แปด-มรณะ)

            อีกทั้ง ต้องปฏิวัติ (สูงกว่าปฏิรูป) พื้นฐานของพรรคทั้งหมด รวมทั้ง บรรดาหุ้นส่วนหรือผู้มีส่วนได้เสียในพรรคทั้งหลาย (พระมฤตยูจรเล็งพฤหัสบดีดวงเดิม) และปฏิวัติความเป็นไปในพรรค-การเงินหรือผู้สนับสนุนทางการเงิน (มฤตยูจรทับพระศุกร์ดวงเดิม)

                เกณฑ์นี้ถ้าเป็นคนผู้เขียนจะบอกว่า ถ้ารู้สึกอึดอัดหรือคิดแล้วว่าไม่ใช่ในเรื่องทั้งหลายข้างต้น ให้รีบปฏิวัติตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกปฏิวัติ หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

            ครั้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา พรรคประชาธิปัตย์ได้ รักษาความเก๋าไว้เหนียวแน่น แต่เมื่อสะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงได้ที่แล้ว (อาการของมฤตยู) ผลก็ระเบิดออกมา คือ การเลือกตั้งครั้งล่าสุด 24 มีนาคม 2562 ล็อกก็ถล่มใส่ เช่น กรุงเทพฯ สอบตกหมด-ฐานภาคใต้ถูกเจาะ-ภาคเหนือเหลือ ส.ส.ที่นั่งเดียวที่แม่สอด-ต่อมาสมาชิกพรรคก็ทยอยออก เช่น คุณกรณ์ จาติกวณิช-พีรพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

            สำคัญคือ พรรคยังจะสุม-สะสมพลังของการเปลี่ยนแปลงใหญ่รอวันระเบิดก่อนถึงกลางเดือนกรกฎาคม 2565 ต่อไป

            คู่มือในการรับมืออิทธิพลเกณฑ์นี้คือ ระหว่างกลางกันยายน-กลางธันวาคม 2564 เวลาเหมาะของการทบทวน-ปรับแผนเกี่ยวกับทางชีวิตในพรรค-พื้นฐาน-ผู้มีส่วนได้เสียและเรื่องการเงิน

            2.ซ้อนปฏิวัติ-ถูกโฉลกกับการปฏิรูปใหญ่-สามปี

            2.1 ก่อนหน้านี้ระหว่างวันเกิดของพรรค 5 เมษายน 2563-5 เมษายน 2564 พรรคอยู่ระยะชะตาอับ ทำอะไรไม่ได้มากต้องถนอมตัว ทำอะไรกึ่งๆ กลางๆ ได้ครึ่งเสียครึ่ง (ทักษาจรตกภูมิกลาง ๙)

            2.2 ครั้นตั้งแต่ 5 เมษายน 2564-5 เมษายน 2565 เกณฑ์เปลี่ยนไปเป็น ถูกโฉลกกับการปฏิรูปใหญ่ในพรรค เรื่องเกี่ยวกับการเลือกเดินทางใหม่-อนาคตใหม่-หาคนใหม่-อายุน้อยหรือวัยรุ่น ทำสิ่งทันหรือล้ำสมัยให้พรรค (พระเสาร์เป็นศรีจร-ในภพปุตตะ)

            ต่อจากนั้น ระหว่าง 5 เมษายน 2565-5 เมษายน 2566 เป็นระยะที่ควรปรับปรุงพื้นฐานของพรรค ผู้มีส่วนได้เสีย-หุ้นส่วนของพรรคทั้งหมด (พฤหัสบดีเป็นศรีจร)-รวมทั้งการร่วม-ไม่ร่วมรัฐบาล

            ต่อจากนั้น ระหว่าง 5 เมษายน 2566-5 เมษายน 2567 เป็นระยะที่เหมาะกับการแก้ไขปัญหา-ข้อขัดข้อง-อุปสรรคในพรรค (พระราหูเป็นศรีจร)

            ทั้งสามปีนี้ตำราบอก หากพรรคยอมปฏิรูป-เปลี่ยนแปลงตัวเองแล้ว จะเหมือนเจ้าคณะที่บวชมานาน ลุกขึ้นมาปรับปรุงคณะของท่านขนาดใหญ่ ผลคือเงินบริจาคไหลมาเทมา ท่านได้เป็นพระราชาคณะ หรือถ้าบุญญาวาสนาถึงได้เป็นถึงสังฆราชตาม ลิลิตที่เจ้าฟ้ากรมหลวงพิทักษ์มนตรี ทรงประพันธ์ไว้คือ

            พฤหัสบดิ์-เสาร์-ราหู                    ทั้งสามหมู่มาเป็นศรี

ต้องลัคน์-จันทร์-สังฆี                                 ปวัตติสามีอาราม

            บริบูรณ์ปริขาร                                         ไทยทานก็เหลือหลาม

ขึ้นชื่อระบือนาม                                       วรศักดิ์สังฆราช์

            แม้จวบพระเคราะห์ใด                    ทวะเว้นไว้แต่ตัวกาล์

กล่าวคุณอุตต์มหา                                     มหิทธิโชคในปางปี

            3.ใช่ว่าการเปลี่ยนแปลงจะง่าย เพราะแม้จะทำอย่างไรก็ได้ผลแค่กลางๆ แถมมีเรื่องทะเลาะกันเจ็บปวดจากการเปลี่ยนแปลง ในปีแรก ระหว่าง 5 เมษายน 2564-5 เมษายน 2565 เนื่องจากจะมี อาการสับสนในสถานะตนเองแบบสองจิตสองใจ ว่าจะเอาทางไหน เลือกอะไรดี เข้าข่ายถ้าเป็นคน-หากเป็นชีก็อยากสึก เป็นคนอยากจะบวช แต่มีโชคจากบัณฑิตและผู้หญิง ระวังชายโสดผมหยัก และหญิงผิวขาวเหลืองขี้โกหก (ทักษาจรตกภูมิจันทร์)

            ทั้งนี้เป็นไปตามคำประพันธ์ พอให้สมาชิกพรรคได้ใช้เป็นคู่มือพิจารณาทางชีวิตของพรรค คือ.. ตกภูมิที่จันทรา ในบุรพาภัยมาก ความเพราะปากตนเอง เป็นชีเกรงจะสึก คฤหัสถ์นึกใคร่บวช จะเจ็บปวดแผลหลาย ย่อมสมหมายภายหลัง จะได้ดังความคิด เพราะบัณฑิตและสัตรี มีศัตรูมาเป็นมิตร พาลผูกผิดให้โทษ ชายโสดผมหยักศก หญิงโกหกขาวเหลือง ทำให้เคืองใจข้อง อย่าเสพส้องเสเพล....

                จึงขอให้ดูลีลาการทำการเมืองของพรรคนี้ที่นำมาแล้ว คือ การแก้รัฐธรรมนูญ-ร่วมรัฐบาล ฯลฯ ว่าจะเอาอย่างไรจัดการความขัดแย้งในตัวพรรคเองหรือไม่

            4.ตัวอย่างช่วงปฏิรูปใหญ่ที่ต้องยอมเจ็บปวด ผู้เขียนขอให้ย้อนกลับไปดูบทความแม่หมอสมัครเล่นตอนที่ 324 เขียนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2563 ชื่อตอน โอกาสทองของการบินไทยจากดวงเมือง ทำนายว่า ระหว่าง 21 เมษายน 2563-21 เมษายน 2564 การบินไทยต้องเปลี่ยนแปลงปฏิรูปใหญ่-เพราะอยู่ในช่วงที่พระราหู 8 เป็นศรีจร ของเมือง ผลคือ เกิดการเขย่ามากมายในสายการบินแห่งชาติ เจ็บปวดกันไปทั่ว เป็นเทวดา-นางฟ้าตกสวรรค์กันไปหมด

            คนการบินไทยที่มาดูดวงชะตาช่วงนี้ ผู้เขียนจะบอกทุกคนไปว่า เมื่อผ่านความเจ็บปวดและกล้าเปลี่ยนแปลงแล้ว การบินไทยจะค่อยๆ กลับมาผงาดอีกครั้ง-ด้วยเกณฑ์-หลักทักษานี้

            แต่จะน่าเสียดายมากหาก ปชป.ปล่อยโอกาสปฏิรูปนี้ผ่านไป เพราะอาการอนุรักษนิยมอันเป็นพื้นฐานของคนที่ลัคนาสถิตราศีกันย์โดยพื้นฐาน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"