"วิษณุ" ส่งสารจากนายกฯ ถึงศธ. ให้พร้อมรับพ.ร.บ.การศึกษาชาติใหม่  /จัดการเฉียบขาดครูล่วงละเมิดเด็ก


เพิ่มเพื่อน    

5เม.ย.64- ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) - นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล ศธ. ได้เดินทางมามอบนโยบายและยุทธศาสตร์ในการปฏิบัติ เนื่องในโอกาสที่ ศธ. มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) คนใหม่ โดยมีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) และผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.เข้าร่วม

นายวิษณุ ได้กล่าวภายหลังการประชุมตอนหนึ่งว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการให้กำลังใจนางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. ในฐานะเป็นรัฐมนตรีป้ายแดงคนใหม่ ซึ่งตนได้เห็น 12 นโยบายการศึกษาและ 7 นโยบายเร่งด่วนของนางสาวตรีนุชแล้ว ซึ่งนโยบายดังกล่าวสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามแผนงานของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง นายกฯ กำชับเรื่องการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.... ได้อยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา และนายกฯรับปากว่าอย่างช้าเดือนในมิถุนายน ร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏร ดังนั้นตนจึงขอฝาก ศธ.ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีของรัฐบาลฉบับหนึ่งและของประชาชนอีกฉบับหนึ่ง โดย นายกฯ มีข้อสั่งการให้บูรณการร่างพ.ร.บ.ทั้งสองฉบับเป็นฉบับเดียวกัน ดังนั้นเมื่อร่างพ.ร.บ.รวมเป็นฉบับเดียวกันอาจถูกใจกระทรวงแต่ไม่ถูกใจประชาชน หรือไม่ถูกใจประชาชนแต่ไม่ตรงกับนโยบายรัฐบาลจึงฝาก ศธ.ให้ช่วยดูด้วย 

นายวิษณุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ นายกฯยังต้องการเห็นการกำกับดูแลมาตรฐานจริยธรรมและคุณธรรมของครู โดยเฉพาะปัญหาล่วงละเมิดทางเพศนักเรียน ครูทำร้ายนักเรียน ซึ่งในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และมีมาตรการขั้นเด็ดขาดออกมาแล้ว ซึ่งเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้เห็นชอบ เรื่อง แนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้นหากพบข้าราชการคนใดกระทำพฤติกรรมที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ จะต้องให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อนทันที พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวน
 ขณะเดียวกัน ศธ.จะต้องมีการปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพราะสังคมต้องการที่จะเห็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงมาถึงในยุคปัจจุบัน เป็นการเรียนประวัติศาสตร์ร่วมสมัยด้วย ไม่ใช่การเรียนประวัติศาสตร์ที่มีแต่การสู้รบในอดีตเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ประเทศเพื่อนบ้านว่าเราเป็นญาติมิตรกับประเทศใกล้เคียงอย่างไรบ้าง รวมถึงการจัดการเรียนการสอนแบบเรียนรู้แบบลงมือหรือ Active Learning ซึ่งจะต้องให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมร่วมไม่ใช่ท่องจำเพียงอย่างเดียว ซึ่งการเรียนในลักษณะนี้สามารถใช้ร่วมกับการเรียนการสอนได้ในทุกรายวิชา ทั้งนี้ นายกฯ ยังให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนอาชีวศึกษา ซึ่งวันนี้ตนได้รับฟังข้อเสนอจากศธ.แล้วว่าจะต้องสร้างแรงจูงใจให้แก่ผู้มาเรียนสายอาชีพได้อย่างไรบ้าง เช่น การเพิ่มเงินเดือนผู้จบอาชีวะ เป็นต้น ดังนั้นตนรับที่จะนำข้อเสนอเหล่านี้ไปหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) 

“สำหรับปัญหาโครงสร้างของ ศธ.นั้นมีการพูดถึงมาตลอด เพราะ ศธ.เป็นกระทรวงที่มีลักษณะเป็นแท่งแบ่งการทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่ง ศธ.เป็นกระทรวงแรกที่ปฏิรูปรูปการการบริหารจัดการเป็นแบบนี้ เพราะคิดว่าจะทำให้การทำงานสะดวก แต่ปัจจุบันหน่วยงานราชการอื่นๆ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบที่ ศธ.ทำ เนื่องจากรูปแบบแท่งเป็นการแบ่งการทำงานที่ชัดเจน การที่ข้าราชการจะย้ายข้ามแท่งก็สร้างความยุ่งยาก เพราะแต่ละแท่งต่างมีคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องคนของตัวเอง รวมถึงยังมีผู้บริหารระดับ 11 ถึง 4 คน ส่งผลให้ข้าราชการที่ทำงานไม่รู้จะฟังใครก่อน ดังนั้นปัญหาโครงสร้าง ศธ.ผมมีธงในใจแล้ว ว่า จะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งรับจะไปพิจารณา แต่ในตอนนี้ขอให้การทำงานใน ศธ.ได้สลายความเป็นแท่งออกให้หมด และทำงานกันอย่างมีเอกภาพ เชื่อมต่อการทำงานกันให้ได้มากที่สุด”รองนายกฯ กล่าว


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"