บันทึกหน้า 4


เพิ่มเพื่อน    

 

       ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net  โควิดระลอก 3 มาแรงและเร็ว หนักกว่าทั้งสอง 2 รอบ จากที่คิดว่าเริ่มฉีดวัคซีนแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น ใกล้เปิดประเทศเต็มรูปแบบ เศรษฐกิจจะกลับมาเฟื่องฟู ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนจะกระเตื้องขึ้น กลายเป็นว่าทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด รอบนี้ลามไปทุกหย่อมหญ้าทุกวงการ ทั้งหลายทั้งปวงต้องย้อนดูตัวเอง โดยเฉพาะพวกการ์ดตก ไร้จิตสำนึกต่อส่วนรวม ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่าการบริโภคในภาพรวมลดลง 5-10% หายไป 3-5 หมื่นล้านบาท นี่แค่ตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่นับถึงความเจ็บป่วยและการเสียชีวิตที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นความเสียหายที่ไม่สามารถตีมูลค่าเป็นตัวเงินได้

            ๐ ไม่ใช่แค่คลัสเตอร์ "ทองหล่อ" ต้นตอโควิดรอบใหม่เป็นเรื่องใหญ่ที่ถูกพูดถึง เพราะทอล์กออฟเดอะทาวน์ในเวลานี้คือ เคส "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคมและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จนถึงป่านนี้ไทม์ไลน์ของการติดเชื้อยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจน ล่าสุดเจ้าตัวอัพเดตอาการตัวเองผ่านทางไลน์ว่า "อุณหภูมิร่างกายปกติ 36.6 องศาเซลเซียส ออกซิเจน 96% และไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ" สงสัยทั่น รมต.จะลืมไปหรือเปล่าว่า ที่คนทั้งบ้านทั้งเมืองอยากรู้ไม่ใช่อาการของท่าน แต่ข้องใจว่าท่านไปติดโควิดมาจากที่ไหนอย่างไร ทำไมถึงไม่แจ้งหมอ ไม่บอกให้สาธารณชนได้รับรู้        

            ๐ "ทุกคนต้องมีสำนึก เพราะถ้าทำแบบนี้ อีกหน่อยรัฐต้องใช้กฎหมายหนักขึ้น ดังนั้น ต้องระมัดระวังตัวเอง... ถ้าปกปิดถือเป็นการให้การเท็จ โดยจะผิดกฎหมายในลักษณะให้การเท็จกับเจ้าพนักงาน ต้องดำเนินคดี ไม่มีใครใหญ่กว่าหมอ ถ้าไม่บอกก็ต้องใช้กฎหมาย ฐานให้การเท็จกับเจ้าพนักงาน" เจ้ากระทรวงสาธารณสุขจำได้มั้ยว่าเคยพูดไว้ช่วงปลายเดือน ม.ค. ไล่บี้นักร้องและตำรวจที่เข้าร่วมงานวันเกิด "ดีเจมะตูม" แล้วปกปิดข้อมูล กระทั่งกระแสสังคมบีบจนคนเหล่านี้ต้องออกมาขอโทษและยอมคายความจริง ถ้าเทียบแล้วเคส รมว.คมนาคมหนักกว่าเยอะ ทั้งในแง่ของความเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม กลับละเลย หนำซ้ำจะเดินสายจนเกิดความเสี่ยงในวงกว้าง พานเอารัฐมนตรี ส.ส.ทั้งพรรคตัวเองและพรรคอื่น ต้องกักตัวดูอาการ รวมถึงครอบครัวของคนเหล่านี้อีก งานนี้ "เสี่ยหนู" ต้องทำหน้าที่ รมว.สธ.เค้นไทม์ไลน์มาให้ได้ หรือจะใช้กฎหมายดำเนินการให้เป็นเยี่ยงอย่าง สุดท้ายถ้าต้นตอโควิดมาจากสถานบันเทิงอย่างที่ทุกคนสงสัยกัน คำขอโทษก็คงไม่พอ ไม่ใช่เรื่องผิดที่ไปเที่ยว สิ่งที่แย่คือโกหกคำโตต่อสังคม แล้วยังดันทุรังตะลอนพบปะผู้คนหมู่มากแทนที่จะกักตัว ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าเสี่ยงสูง เว้นแต่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ว่าไม่ได้เป็นแบบที่ถูกตราหน้า ไม่งั้นก็ถึงเวลาโชว์สปิริตรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น อย่างที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ "พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล" เรียกร้อง แต่ถ้าไม่ทำ คนที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนีไม่พ้นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ล้มเหลวปล่อยให้ลูกพรรคที่ส่งไปเป็นรัฐมนตรีอยู่เหนือกฎหมาย ตบหน้า รมว.สธ.ฉาดใหญ่

            ๐ หยุดไปพร้อมกับสถานการณ์โควิดรอบสาม สำหรับการชุมนุมของกลุ่มสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย ที่นำโดย "อดุลย์ เขียวบริบูรณ์" ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 และ "จตุพร พรหมพันธุ์" ประธาน นปช.เสื้อแดง ที่จัดเวทีปราศรัยขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปสามวันสามคืนที่สวนสันติพร ถนนราชดำเนิน ก่อนปิดฉากชั่วคราวเมื่อ 7 เมษายน อย่างไรก็ตาม  "อดุลย์" ย้ำว่า หลังสงกรานต์ กลุ่มไทยไม่ทนฯ จะกลับมาเคลื่อนไหวการเมืองอีกรอบแน่ โดยเฉพาะช่วงเดือนพฤษภาคม ที่มีนัดหมายสำคัญสองงานคือ วันครบรอบเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 วันที่ 17 พ.ค. และวันครบรอบ 7 ปีรัฐประหาร คสช. 22 พ.ค. ที่น่าจะมีอีกหลายกลุ่มจัดกิจกรรมเคลื่อนไหวใหญ่ทางการเมืองช่วงครบรอบรัฐประหาร คสช.แน่นอน ปะหน้า "ลุงอดุลย์" วันก่อน เจ้าตัวบอกว่า ผิดหวังกับนายกฯ ประยุทธ์มากหลายเรื่อง โดยเฉพาะไม่ยอมทำเรื่องการสร้างความปรองดอง ทั้งที่เคยส่งคนใกล้ชิดมาหารือที่บ้านหลายครั้ง ขอให้ลุงอดุลย์ช่วยรับหน้าเสื่อประสานหลายฝ่ายให้ทำเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็น "แรมโบ้อีสาน" เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี "เสธ.มิตต์" พลตรีนิมิตต์ สุวรรณรัฐ นายทหารคนสนิทของบิ๊กตู่ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี รวมถึง "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" กุนซือนายกฯ ส่งสัญญาณมาชัดเจนว่า รัฐบาลจะเอาด้วยกับเรื่องนิรโทษกรรม-ปรองดอง ตามแนวทางที่คณะกรรมการศึกษาการสร้างความปรองดองชุด ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน จนลุงอดุลย์ออกโรงจัดเสวนา จัดพบปะพูดคุยกับทุกฝ่าย ก่อนจะเสนอแนวทางหนุนให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีชุมนุมทางการเมือง แต่สุดท้ายบิ๊กตู่ไม่สนใจ เก็บเรื่องเงียบ .."อดุลย์" เลยบอกรับไม่ได้ที่ "บิ๊กตู่" ไม่มีความจริงใจ เลยต้องออกมาเป็นหัวแถวร่วมขับไล่เสียเลย.

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"