ว่าด้วยอิสระ-เสรีภาพในยุคโควิด


เพิ่มเพื่อน    

 

              (1)

            น่าจะถือเป็น โชคดี...ที่ช่วงระหว่างนี้ไม่ต้องออกไปไหน-มาไหนกะใครเขา แต่อันที่จริงก็แทบทุกช่วงนั่นแหละ ต่อเนื่องยาวนานมานับสิบๆ ปี ที่นั่งปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้างจนชินๆ ซะแล้ว ดังนั้น...แม้ว่าระหว่างช่วง สงกรานต์ ที่ใครต่อใครเขาอาจต้องกลับไปเยี่ยมพ่อ-เยี่ยมแม่ แต่ในเมื่อทั้งบิดรและมารดาของตัวเราเอง ก็ไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีนานแล้ว ก็เลยพอได้ทุ่นแรง ทุ่นเวลา สามารถ เว้นระยะห่าง อยู่กับบ้านได้โดยลำพัง...

                (2)

            คือการออกไปไหน-มาไหนในช่วงนี้...คงต้องยอมรับว่าออกจะ เสี่ยง สุดๆ หรือ เหนื่อย สุดๆ ต้องหันไปควานหา หน้ากาก ประเภทที่มักใช้กันแบบทิ้งแล้ว-ทิ้งเลย มาสวมใส่ปิดปาก ปิดตะหมูก ไปโดยตลอด อันออกจะเป็นอะไรที่อึดอัด ขัดข้องใจ มิใช่น้อย ยิ่งถ้าหากคิดไปรดน้ำ-ดำหัวผู้หลัก-ผู้ใหญ่ หรือผู้น้อย ที่คงยากเอามากๆ ในอันที่จะไป เช็กไทม์ไลน์ ของแต่ละปัจเจกบุคคล ว่าใคร? มาจากไหน? ไปไหน? ในรอบ 14 วันที่ผ่านมา แม้ประเภทออกไปทางแก่แล้ว-แก่เลย หรือแก่แต่ยังมีไฟอยู่ ใครจะไปตรัสรู้ได้ว่า ท่านอาจ แวบ ผ่าน ซอยทองหล่อ 25 หรือซอยทองหล่อ 13 มาตอนไหน แบบไหน หรือไม่และอย่างไร???

                                                                                                          (3)

            ยิ่งถ้าต้องรดน้ำ รินน้ำ ระหว่างกันและกันด้วยแล้ว...โอกาสที่ สารคัดหลั่ง ในแบบหนึ่ง แบบใด มันจะเล็ดลอด ร่วงหล่นลงไปในน้ำ กลายเป็นตัวแพร่เชื้อ ให้ต้องติดเชื้อซึ่งกันและกันขึ้นมาจนได้ ถึงจะปิดปาก ปิดจมูก ไปแล้วก็เถอะ  แต่ถ้ามันดันติดๆ อยู่แถวซอกเล็บ แถวง่ามมือ ง่ามเท้า  โอกาสที่จะ โควิด-19 ระหว่างกันและกันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย หรืออย่างน้อย...อาจหนีไม่พ้นต้องกักกันตัวเองเอาไว้ 14 วัน รอผล รอดูอาการให้แน่ใจซะก่อน ก็ยิ่งส่งผลให้อะไรต่อมิอะไรมีแต่ต้องชะงักงัน สะดุดหยุดกึก ยักตื้นติดกึก-ยักลึกติดกัก ขึ้นมาอีกจนได้...

                   (4)

            การใช้ชีวิต การดำเนินวิถีชีวิต ในช่วงที่ท่านเชื้อไวรัสโควิด-19 ท่านยังคงระบาดไม่หยุด จึงออกจะเป็นอะไรที่ยากลำบากอยู่พอสมควรเหมือนกัน คือมันแทบไม่เหมือนเดิม  แทบไม่เป็นอะไรแบบเดิมๆ ต่อไปอีกแล้ว ยิ่งมันเกิดการกลายพันธุ์ กลายรูป กลายร่าง กลายเป็นพันธุ์อังกฤษ พันธุ์บราซิล พันธุ์แอฟริกาใต้ พันธุ์รัสเซีย ฯลฯ ที่แม้แต่ วัคซีน ชนิดใด ชนิดหนึ่ง อาจไม่มีผลครอบคลุมไปได้ด้วยกันทั้งหมด  หรือถึง ฉีด ไปแล้วก็ยัง ติด ยังเป็นพาหะ หรือยังคงแพร่เชื้อต่อไปได้ อันนี้...ก็ยิ่งลำบากยากเย็นยิ่งขึ้นไปใหญ่ โอกาสที่จะต้องใช้ชีวิต ดำเนินชีวิตอยู่ร่วมไปกับเชื้อไวรัสตัวนี้อีกเป็นปีๆ จะกี่ปี กี่สิบปี ก็ยังไม่แน่ เพราะอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญเขาออกมาแจ้งเอาไว้ก่อนล่วงหน้า ว่าสามารถแพร่ไปสู่หมา สู่แมว ได้อย่างเป็นเรื่อง เป็นราว ก็ยิ่งทำให้ช่วงระยะเวลาที่จะต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน ยิ่งมีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

                                                                                                                      (5)

            คือแม้ว่ามันไม่ถึงกับตายโหง ตายห่า กันไปซะทั้งหมด สำหรับบรรดา ผู้ติดเชื้อ ทั้งหลาย แค่ไม่กี่จุด ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง แต่ด้วยความไม่อยากเป็นโรค ความถนอมรักสุขภาพของผู้คนยุคนี้ ที่ไม่อยากเป็นอะไรไปด้วยกันทั้งนั้น แค่มี น้ำตาล ในเส้นเลือด มี คอเลสเตอรอล สูงกว่าปกติธรรมดาแค่นิดเดียวเอง ก็กลายเป็นเรื่อง เป็นราว เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องโตที่จะต้องแห่กันไปหาหมง หาหมอ จนโรงพยาบาลแต่ละโรง แทบกลายเป็นโรงงานฆ่าสัตว์ไปแล้วจนตราบเท่าทุกวันนี้ ดังนั้นโอกาสที่จะตระเตรียมโรงพยาบาล เตียงพยาบาล ไว้รองรับบรรดาผู้ติดเชื้อ มันจึงกลายเป็น  ปัญหา ชนิดไม่ว่าประเทศที่มีระบบสาธารณสุขก้าวหน้า ทันสมัย เพียงใดก็ตาม ต่างหนีไม่พ้นต้องปวดเศียร เวียนเกล้า ไปด้วยกันทั้งสิ้น...

                                                                                                                      (6)

            สรุปเอาเป็นว่า...สุดท้ายแล้ว!!! ทุกสิ่งทุกอย่างมันคงไม่เหมือนเดิม หรือไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วแน่ๆ ไม่ใช่แต่เฉพาะระบบสุขภาพ ระบบสาธารณสุขในลักษณะต่างๆ  แต่ยังลุกลามไปถึงระบบเศรษฐกิจ ระบบการเมือง-การปกครอง ที่นับวันยิ่งดูจะสะท้อนถึง ความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละรูป แต่ละแบบ ชัดเจนยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะความจำเป็นที่จะต้องหาทาง ควบคุม หรือ บังคับ ให้ผู้คนพลเมือง เป็นไปตามระบบ ระเบียบ หรือมาตรฐาน ที่ถูกกำหนดไว้โดยผู้เชี่ยวชาญ หรือนักวิทยาศาสตร์ อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงไปเป็นอื่น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ...มันชักเริ่มไหลไปทาง อำนาจนิยม ยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ใช่ไหลไปทาง เสรีนิยม ชนิดสามารถอิสระ เสรี แบบเดิมๆ ได้อีกต่อไป แม้แต่ในหมู่ประเทศที่หนักไปทางประชาธิปไตยแบบสุดลิ่มทิ่มกระดานทั้งหลาย อันนี้นี่แหละ...ที่น่าคิด น่าสะกิดใจ และน่าสนใจเอามากๆ เพราะมีแต่ผู้ที่พร้อมจะ เว้นระยะห่าง พร้อม ปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้าง หรือพร้อมจะ ปลีกวิเวก ด้วยความเต็มอก เต็มใจเท่านั้นเอง ที่น่าจะพอ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อความ อิสระ-เสรี ได้แบบจริงๆ จังๆ ส่วนนอกเหนือไปจากนั้น...อาจหนีไม่พ้นต้องเป็นไปในแบบ พระเจ้ากำเนิดข้ามาเสรี...แต่ทุกหน-ทุกแห่งล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วย...พันธนาการ เอาเลยก็ไม่แน่!!!

                                                       --------------------------------

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"