สวิตฯเชิญคนไทยเที่ยว' Valais Matterhorn Region'จุดหมายปลายทางใหม่ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัส

เพราะสถานการณ์ระบาดของโควิด 19 ในช่วง 3ปี ที่ผ่านมา ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกซบเซา เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ ห้ามการเดินทางข้ามพรมแดน ข้ามประเทศ และมีการคัดกรองผู้เดินทางอย่างเข้มงวด แต่ในช่วงปี 2565 สถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอย่างล้นเหลือ เพราะบรรดานักท่องเที่ยวต่างอัดอั้นกับการถูกจำกัดการเดินทางมาหลายปี ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวระดับโลกหลายแห่ง ต้องเตรียมตัวรับนักท่องเที่ยวหลายด้าน ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการปรับมุมมองวิสัยทัศน์ในการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่เน้นความปลอดภัยและความยั่งยืน ดูแลสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นกระแสโลก ที่ทุกอุตสาหกรรมธุรกิจจะต้องคำนึงและดำเนินการบนพื้นฐานนี้

เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งนำโดยสายการบินสวิสแอร์ ที่จับมือกับภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสวิสฯ ซึ่งให้ความสำคัญกับตลาดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย ที่เป็นลูกค้าหลักในตลาดภูมิภาคอาเซียน ได้เดินทางมาที่ประเทศไทย จัดกิจกรรมเปิดตัวแนะนำจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ๆ ของสวิตฯ ให้คนไทยรู้จัก ใน 5 จุดหมายปลายทาง แต่เรียกรวมๆว่า วาเลส์ แมตเตอร์ฮอร์น รีเจน (Valais Matterhorn Region) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครอีกหลายคน ที่อยากมาสัมผัสสักครั้งในชีวิต

ในการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ทางการท่องเที่ยวของสวิตฯ ได้เชื้อเชิญบริษัททัวร์ของไทยประมาณ 50 ราย ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดทัวร์ในเส้นทางยุโรปและสวิสเซอร์แลนด์ มารับฟัง สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ อันจะนำไปสู่การต่อยอดทางธุรกิจ เกิดเส้นทัวร์สวิตฯใหม่ๆ พร้อมกับ แนะนำบอกต่อกับลูกค้าคนไทย ที่สนใจอยากไปเที่ยวสวิตฯ

การให้ข้อมูลเกี่ยวกับที่พัก

ข้อมูลเชิงลึก ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่มีทัศนียภาพงดงาม ท่ามกลางภูเขาสูง ท้องฟ้ากว้าง ซึ่งจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมเลือน หรือการผจญภัย ในรูปแบบของการเดินป่า เดินขึ้นเขา ที่เปรียบเสมือนการได้ผ่านการทดสอบและการก้าวข้ามขีดจำกัดร่างกายของตัวเอง การเยี่ยมชมธารน้ำแข็ง หรือที่เรียกว่ากลาเซียร์ และความประทับใจในจุดอื่นๆอีกมากมาย ได้ถูกนำเสนอให้กับธุรกิจท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มพิกัด ซึ่งทางผู้จัดงานได้แบ่งห้องบรรยายออกเป็น 5ห้อง ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อย จะหมุนเวียนเข้ารับฟังข้อมูลอย่างครบถ้วน

การให้ข้อมูลแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเป็นจุดหมายปลายทางใหม้


มาลัย พงษ์ศิริรักษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ประเทศไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม Matterhorn Region กล่าวว่า จริงๆแล้ว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่สำหรับคนไทยเชื่อว่ายังรู้จัก Matterhorn Region น้อย ซึ่งภูมิภาคนี้ยังใหม่ และยังมีความบริสุทธิ์ มีสถานที่เล็กๆ น่ารักๆ สวยงาม และกิจกรรมต่างๆให้นักท่องเที่ยวมากมาย บางสถานที่คนไทยอาจเคยได้ยินบางชื่อมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่รู้ชัดๆว่าอยู่ตรงจุดไหน และมีอะไร เราจึงมาแนะนำให้เห็นๆ ว่าแต่ละ 5 จุดหมายปลายทางใหม่นี้ ว่าควรไปเที่ยวตรงไหน หรือทำกิจกรรมในรูปแบบไหนได้บ้าง

“อย่างการเดินบนธารน้ำแข็ง อเล็ตช์อารีนา (Aletsch Arena) ธารน้ำแข็ง ยาว 20 กม. ซึ่งมีการพูดกันว่าอีก 80 ปีข้างหน้า ธารน้ำแข็งนี้จะละลาย ไม่มีให้เห็นกันแล้ว เพราะปัญหาโลกร้อนหรือ กลาเซียร์เอ็กเพรส รถไฟขึ้นไปที่ธารน้ำแข็ง การชมภูเขา Matterhorn สัญลักษณ์ของช็อกโกแลต Toberone ที่เราเคยเห็นแต่ในรูปก็จะได้เจอของจริง”มาลัยกล่าว

Christian Schwab

Christian Schwab CEO Matterhorn Region กล่าวว่า จริงๆแล้ว ทางท่องเที่ยวสวิตฯ มีแผนที่จะโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆที่คนไทยหรือคนเชีย ยังไม่ค่อยรู้จัก แต่เกิดการระบาดโควิดเสียก่อน แผนจึงชะงักไป แต่หลังจากสถานการณ์การระบาดดีขึ้นแล้ว จึงเดินสาย โปรโมทแหล่งท่องเที่ยวจุดใหม่ๆ ให้หลายประเทศในเอเชียได้รู้จักดีขึ้น โดยทั้ง 5 Destination ที่มาแนะนำ สามารถหมุนเวียนเที่ยวได้ตลอดทั้ง 12 เดือน ทั้งในฤดูร้อน หรือฤดูหนาว เพราะสถานที่เหล่านี้มีความหลากหลาย สามารถทำกิจกรรมได้มากมาย ทั้งขี่จักรยาน เดินป่า เดินบนธารน้ำแข็ง เล่น สกี ตลอดจนมีความน่ารักของเมืองที่เป็นพื้นฐานเดิมที่เป็นเสน่ห์ของสวิตฯอยู่แล้ว ที่จะต้อนรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้ตลอดเวลา

เอกธนา ฝ้ายซ้ายคราม กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกธนา เซอร์วิสเซส ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษาในสวิตเซอร์แลนด์ ใหักับคนไทย บอกว่าที่ได้รับเชิญให้มารับฟังข้อมูลครั้งนี้ เพราะปกติคนไปเรียนหนังสือในต่างประเทศ จะไม่ได้เรียนอย่างเดียวต้องมีท่องเที่ยวเดินทางด้วย อีกทั้ง ยังมีพ่อแม่ที่อาจไปส่งลูกตอนไปเรียนใหม่ๆ หรือไปงานรับปริญญาของลูก ทำให้ต้องมีการพักที่สวิตฯ เป็นเวลาหลายวัน ระหว่างนั้นก็อาจมีการท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ซึ่งตนเองจะเป็นผู้แนะนำ แหล่งท่องเที่ยวและที่พักต่างๆให้ จึงจำเป็นต้องรับรู้ข้อมูลใหม่ๆ

เอกธนา ฝ้ายซ้ายคราม


สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของสวิตฯ คนไทยรู้จักน้อยแค่ไหน เอกธนา บอกว่า แต่ก่อนคนไทยไปเที่ยวสวิตฯ ก็จะไปแต่ลูเซิร์น โลซานน์ หรือ เจนีวา แต่จริงๆ สวิตฯ มีมากกว่านั้น บางสถานที่คนไทยอาจรู้จักเช่น ลอยเคอบัด แต่บางที่อาจจะไม่รู้จักเช่น น็องดา / เวย์ซอนนา หรือ ซาสตาล/ ซาจเฟ ซึ่งสวิตฯ เป็นประเทศที่ควรไปชมวิว หรือเทร็คกิ้ง เดินขึ้นเขาชมธรรมชาติ แต่ก่อนคนไทยไม่ได้ชอบเที่ยวแบบนั้น แต่เดี๋ยวนี้เป็นเทรนด์ใหม่ ที่คนไทยไปเที่ยวเอง ไปเดินป่า ปีนเขา ปั่นจักรยาน


” สำหรับสวิตฯ ผมมองว่าคุณจะต้องไปทำกิจกรรมธรรมชาติ แต่ก่อนทางสวิตฯ บอกว่าเขามีกิจกรรม 1,2,3,4 เดี๋ยวนี้เป็นอะไรที่ มากกว่านั้นเยอะ เช่น การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งกลุ่มนักวิขาการหรือเกษตรกรที่สนใจก็ไปเที่ยวได้ หรือไปป้อนอาหารแมมมอธ เดินเขา เดินป่าคนค่อนข้างรู้น้อยมาก และวาเลย์ วาเลย์ซา เป็นเมืองเกิดของฟองดูว์ ของชีสที่อร่อยๆ มีไวน์ชั้นเลิศ หรืออย่างบ้านโบราณ ที่อยู่ของคนที่อยู่ตามธรรมชาติ ปลูกผัก เลี้ยงปลา กินเอง คนไทยยังไม่เคยสัมผัส จะเป็นจุดที่ลึกๆ แต่ที่ผ่านมาเขานำเสนอค่อนข้างน้อย ถ้าเจาะจริงๆ มีอะไรเยอะมาก “เอกธนาระบุ


ผู้มีประสบการณ์เที่ยวสวิตฯ บอกอีกว่า เทรนด์การท่องเที่ยวของคนไทยทุกวันนี้ มีจำนวนไม่น้อย ที่มักจะไปเที่ยวด้วยตนเอง จองโรงแรมที่พักเอง เพราะคนมีการศึกษาและมีประสบการณ์มากขึ้น บางกลุ่มไปเฉพาะครอบครัว ไม่นิยมไปกับทัวร์ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของสวิตฯ จึงตอบโจทย์นักท่องเที่ยวรุ่นใหม่มาก


“ผมคิดว่าการที่สวิตฯ มาโปรโมท แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของเขาให้คนไทยรู้จัก อาจเป็นเพราะ ตอนนี้เกิดสงครามจีนกับรัสเซีย นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ จึงออกมาไม่ได้ แต่ก่อนสองประเทศเยอะมาก และเขาอาจจะมองอีกว่านักท่องเที่ยวไทย เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ใช่กลุ่มใหญ่ จึงมานำเสนอให้เรารู้จัก”

สิทธิชัย อุดมกิจธนกุล (ด้านซ้ายฉ

ด้านคนในแวดวงธุรกิจทัวร์ สิทธิชัย อุดมกิจธนกุล จากสมาคมบริการไทยท่องเที่ยว กล่าวว่า สถานที่เที่ยวMatterhorn Region ที่เป็นแหล่งสกี ซึ่งจริงๆ Matterhorn สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งหน้าร้อน หรือหน้าหนาว บรรยากาศจะแตกต่างกัน ส่วนการจัดสัมมาของการท่องเที่ยวสวิตฯ ก็เพื่อมาอัพเดทข้อมูลให้บริษัททัวร์ต่างๆของไทยทราบ เช่น ให้รู้ว่ารถไฟขบวนใหม่ กลาเซียร์เอ็กเพรส ปรับความถี่มากขึ้น ขึ้นลงได้ง่ายขึ้น แหล่งท่องเที่ยวบางแห่งเปิดแล้ว ส่วนการขอวีซ่าไม่ได้ยากเหมือนสมัยก่อน ใช้เวลแค่ 1สัปดาห์ หรือ 10 วันก็ได้แล้ว


“สวิตฯ เป็นจุดหมายที่คนไทยนิยมมานานแล้ว เพราะมีธรรมชาติ อาหารการกินอร่อย ซึ่งการจะไปเที่ยวสวิตฯ ปัญหาตอนนี้ คือ ราคาตั๋วเครื่องบิน เพราะน้ำมันแพงขึ้น ค่าใช้จ่ายครองชีพสูงขึ้น เพราะกิดสงคราม กระทบมาถึงทัวร์ทัวโลกแพงขึ้น แต่ผมเชื่อว่านักท่องเที่ยวที่จะไปสวิตฯ ลูกค้าระดับกลาง ขึ้นไป ถ้าอยากไปก็สามารถไป ได้”


สิทธิชัย ยอมรับว่า หลังโควิด พฤติกรรมการเที่ยวแบบกรุ๊ปจะเล็กลง ซึ่งเป็นเทรนด์ทั้งโลก และมีแนวโน้มเป็นการเที่ยวแบบครอบครัว เพื่อนฝูง มากขึ้น ซึ่้งเป็นผลจากโควิด โดยเฉพาะคนไทยยังกลัวโควิด จึงไม่อยากไปเที่ยวกับคนแปลกหน้า
“ถึงคนจะนิยมไปเที่ยวกันเองมากขึ้น แต่ผมเชื่อว่าบริษัททัวร์ ยังขายได้ เพราะบางคนที่อาจมีอายุ ต้องการความสะดวกสบาย และการไปกับทัวร์ยังกำหนดค่าใช้จ่ายได้ชัดเจน ได้ความรู้จากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ นอกจากนี้ในเรื่องความปลอดภัย บริษัททัวร์มีตรงนี้ให้อยู่แล้ว” สิทธิชัยกล่าว

ในงานสัมนามีการเมนู”ย่างเนย”ที่เป็นอาหารขึ้นชื่อแควันวาเลย์ ให้แขกในงานได้ลิ้มรสชาติ อาหารสวิตฯแท้

                                จุดหมายปลายทางใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์  

กิจกรรมสุดฮิตในฤดูร้อน

  1. ที่วาเลส์ คุณสามารถเลือกชมการแสดง 1 ใน 2,500 รายการทั้งคอนเสิร์ต นิทรรศการที่จัดในโรงภาพยนตร์ ห้องแสดงดนตรี รวมถึงพิพิธภัณฑ์และแกลอรี่
  2. การได้เข้าชมภายในเขื่อนสักแห่งในรัฐวาเลส์
  3. การเดินป่า ที่ให้ความรู้สึกราวกับล่องลอยอยู่บนสรวงสวรรค์:การเดินทะลุผ่านป่าอันแสนร่มรื่นหรือการแช่เท้าในทะเลสาบภูเขา
  4. ตื่นตาไปกับสิ่งที่น่าประหลาดใจทางธรณีวิทยาของภูมิภาคนี้
  5. การเดินไปตามธารน้ำแข็งกับไกด์ภูเขามืออาชีพ
    กิจกรรมสุดสนุกในฤดูหนาว
  6. เพลิดเพลินกับลานสกี หนึ่งในลานสกีที่ยาวที่สุดของเทือกเขาแอลป์
  7. สนุกกับสิ่งพิเศษในสถานที่ที่คาดไม่ถึง เช่น อิกลู กระเช้าลอยฟ้า หรือแม้แต่การชมทัศนียภาพงดงามริมระเบียง
  8. การออกเดินทางด้วยรองเท้าลุยหิมะหรือการเดินทางด้วยสกีออกนอกเส้นทาง
  9. การเดินในฤดูหนาวเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง
  10. สนุกกับการนั่งเลื่อนสุนัข

อเล็ตช์อารีนา (Aletsch Arena)

สกีที่อเล็ตซ์อารีนา


ดื่มด่ำกับธรรมชาติที่ธารน้ำแข็งอเล็ตช์อารีนา สูดอากาศบริสุทธิ์บนเขา แสงอาทิตย์ตั้งแต่เช้ายันค่ำ และชมวิวบนยอดเขาสูง 4,000เมตร/13,000 ฟุตในวาเลส์ ที่ราบสูงปลอดรถยนต์เหนือหุบเขาโรน (ความสูง 2,000 เมตร/ 6,500ฟุต) ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามแทบลืมหายใจที่สำคัญใช้เวลาเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้าเพียง 7- 10 นาทีเท่านั้น
จุดชมวิว 3 แห่ง คือ มูสฟลูห์ (Moosfluh) เบ็ตต์เมอร์ฮอร์น(Bettmerhorn) และเอ็กกิสฮอร์น (Eggishorn) ทำให้เห็นภาพทิวทัศน์ยาวถึง 20 กิโลเมตร/12.6 ไมล์ตลอดแนวธารน้ำแข็งอเล็ตช์ ถือเป็นแนวน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์และเป็นหัวใจของมรดก โลก Swiss Alps’ Jungfrau-Aletsch UNESCO เทียบเท่ากับแมตเตอร์ฮอร์นหรือจุงเฟราการเดินบนธารน้ำแข็งร่วมกับการเล่นสกีที่อเล็ตช์ อารีนาถือเป็นสวรรค์บนดินของนักปีนเขาและผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกี

บริก ซิมพลอน (Brig Simplon)


บริก ซิมพลอนมีประวัติศาสตร์ยาวนานและปราสาทสต็อกอัลเปอร์ ที่ตั้งอยู่ตรง Upper Valais ที่เชิงเขาของซิมพลอนพาส (Simplon Pass) ต่อมากลายเป็นสถานีสำคัญที่เป็นประตูสู่ประเทศอิตาลีจากโดมอดอสโซ ลา
(I) บริกนับเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางใกล้กับพื้นที่เดินป่าและลานสกีล็อทเชอะแบร์ก(Lotschberg) ซิมพลอน(Simplon) และอเล็ตช์ (Aletsch)ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนซึ่งเป็นจุดพักผ่อนที่น่าสนใจ แม้จุดเล่นสกีจะมีขนาดไม่ใหญ่มากทั้งที่ร็อธวาล วาเซ็นแอลป์ (Rothwald-Wasenalp) และ รอสวาลด์ (Rosswald)ที่ราบสูงเหนือหุบเขาโรห์นแต่กลับดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวไม่ใช่น้อย

ซาสเฟ/ซาสตาล (Saas-Fee/Saastal)

ซาสเฟ/ซาสตาล (Saas-Fee/Saastal)


คงจะไม่มีที่ไหนที่จะทำให้วันหยุดของคุณสวยงามได้เท่านี้อีกแล้วเพราะที่ซาส วัลเลย์ (Sass Valley) (ซาส-เฟ, ซาส-กรึนด, ซาส-อัลมาเกล,ซาส-บาเล็น) เป็นที่ตั้งของ “โดม” ภูเขาสูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์มีความสูงถึง 4,545 เมตร/14,911 ฟุต เราสามารถมองเห็นความสง่างามของ ”โดม” ได้จากภัตตาคารหมุนได้ที่สูงที่สุดในโลกเช่นกัน ช่วงฤดูร้อนคุณจะได้เพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวแบบเดย์ทริป(ไปเช้าเย็นกลับ)หลากหลายเส้นทางรวมถึงเส้นทางเดินป่าระยะทาง 350กิโลเมตร/217 ไมล์

แน่นอนต้องไม่ลืมสมาชิกที่น่ารักน่ากอดที่สุดของซาส-เฟอย่างมาร์มอตแสนเชื่อง ส่วนในฤดูหนาวสภาพหิมะบนเขาอันโดดเด่นและเนินหิมะลาดชันที่ทำให้ซาส-เฟ/ซาสวัลเลย์เป็นเสมือนสวรรค์ของคนรักกีฬาฤดูหนาวอย่างแท้จริง


ลอยเคอบัด (Leukerbad)

ลอยเคอบัด (Leukerbad)


รีสอร์ตสปาน้ำแร่ที่ใหญ่ที่สุดในเทือกเขาแอลป์ใจกลางภูเขาของรัฐวาเลส์คุณจะได้พบกับสปาน้ำแร่ที่ใหญ่ที่สุดและรีสอร์ตเพื่อสุขภาพในเทือกเขาแอลป์ นั่นคือ “ลอยเคอบัด” น้ำพุร้อนเพื่อการบำบัดโรคปริมาตร 3.9ล้านลิตร/1 ล้านแกลลอน มีอุณหภูมิสูงถึง 51 องศาเซลเซียส/124องศาฟาเรนไฮด์ไหลสู่ บ่อน้ำแร่ 32 แห่งเป็นประจำทุกวันเพื่อช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากความเหนื่อยล้าจากกิจวัตรประจำวัน และที่สุดยอดที่สุดก็คือ ที่นี่เปิดให้บริการตลอด 365 วันใน 1 ปี หลังจากเดินด้วยระยะทางสั้นๆจากหมู่บ้านคุณจะถึงเขตภูเขาเก็มมี (Gemmi) และ ทอร์เรนท์ (Torrent)ลอยเคอบาดเหมาะสำหรับคนรักความสงบ คนรักธรรมชาติคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง ผู้หลงใหลในการทำอาหารผู้เสพวิวพานอรามา ครอบครัวและคู่รักที่เดินทางมาพักผ่อนกันเพียงลำพังหรือมากันเป็นกลุ่ม เล็กๆก็คู่ควรเช่นกัน

เขตธียง (Thyon Reigon)

สกีที่ธียง


ธียงเป็นเขตท่องเที่ยวที่เหมาะกับวันหยุดอันแสนสดใส ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของ Val d’Herens (วาลเดเริน) ในวาเลส์ตอนกลางไม่ไกลจากเมืองหลวงซิยงที่อยู่ในระดับความสูง 1,500 ถึง 2,000 เมตรธียงเป็นสถานที่ที่ถูกดัดแปลงเพื่อสนองความต้องการของนักเล่นสกีและยังอยู่ทางตะวันออกของหุบเขา 4 แห่งรีสอร์ตในธียงเหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง มีอพาร์ตเมนต์สำหรับพักผ่อนมากมายและยังมีวิวพานอรามาสวยงามอย่างเบอร์นีส (Bernese) วาเลส์ (Valais) โว แอลป์ (Vaud Alps)ซึ่งถูกบดบังโดยแมตเตอร์ฮอร์นและดองต์บลองชซึ่งมีความสูงเกินกว่า4,000 เมตร เราสามารถมองเห็นเขื่อนกรองดิซองซ์ (Grande Dixence) เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบถ่วงน้ำหนักที่สูงที่สุดในโลกและใหญ่ที่สุดในยุโรปได้จากที่นี่ และยิ่งไปกว่านั้น สำหรับคนที่หลงใหลทะเลสาบใต้ดินคุณจะได้พบกับทะเลสาบใต้ดินเซนต์เลียวนาร์ด (St.Leonard) ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป


น็องดา/เวย์ซอนนา (Nendaz/Veysonnaz)

น็องดา/เวย์ซอนนา (Nendaz/Veysonnaz)

น็องดา/เวย์ซอนนาตั้งอยู่ใจกลางของรัฐวาเลส์ที่ที่จะทำให้คุณเห็นวิวอันน่าทึ่งของโรนวัลเลย์ (Rhone Valley)และยังเป็นด่านหน้าของ 4 หุบเขาสำคัญซึ่งถือเป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งในฤดูหนาวจะมีหิมะครอบคลุมพื้นที่กว่า 400 กิโลเมตร/248 ไมล์ในทุกระดับความสูง จากมงต์ฟอรต์(Mont-Fort) (3,300เมตร/10,925 ฟุต) สามารถขึ้นไปด้วยกระเช้าไฟฟ้าและจะเห็นเทือกเขาแอลป์แบบพานอรามาและที่เด่นชัดที่สุดก็คงเป็นแมตเตอร์ฮอร์นและยอดเขามงต์บลองก์ (Mont-Blanc) ในช่วงฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงการเดินไปตามทางน้ำโบราณที่สร้างขึ้นเพื่อผันน้ำจากแม่น้ำไปใช้ในการเพาะปลูกและการทำสวนผลไม้ก็น่าสนใจไม่ใช่น้อยน็องดา/เวย์ซอนนารอต้อนรับคุณอยู่ด้วยสัญญาที่จะทำให้คุณได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง

ขตมาร์ตินญี่ (Martigny Region)

สัมผัสเรื่องราวสุนัชเซ็นต์เบอร์นาร์ด ที่Barryland Meseum

มาร์ตินญี่ตั้งอยู่ในหุบเขาโรห์นระหว่างไร่องุ่นและสวนผลไม้เขตนี้มีสีสันที่สุดในรัฐวาเลส์ เหนือสิ่งอื่นใด มาร์ตินญี่ถือเป็นเมืองสำคัญแห่งหนึ่งเป็นที่ตั้งของมูลนิธิปิแยร์ เจียนัดดา (Pierre Gianadda)และสถานที่จัดงานนิทรรศการศิลปะอันทรงเกียรติ มีโรงกลั่นโมรองด์ (Morand) และผลงานสำคัญของที่นี่ก็คือบรั่นดี Williamine อันเลื่องชื่อและเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์แบร์รี่แลนด์(Barryland) กับเรื่องราวของสุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ดการตั้งอยู่ตรงทางแยกระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลีและการอยู่ที่ใจกลางของวาเลส์ เขตมาร์ตินญี่จึงเปิดต้อนรับทุกท่านตลอดทั้งปี และแน่นอนคุณจะได้พบกับกิจกรรมสุดพิเศษที่หลากหลายทั้งในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว : พิพิธภัณฑ์โบสถ์เซนต์มอริส(St.Maurice) สปาซายงและลาเวย์ ลานสกีที่ เล แมร์กค็อต (Les Marecottes) และสวนสนุกเวอร์ติกแอลป์ อีมอสเซิ่น (Vertical Emosson) สวนสัตว์เล แมร์กค็อต (Les Marecottes) และช่องเขาทรียอง (Trient) และดูร์นองด์ (Durnand)และนี่คือเหตุผลสำคัญที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง


เรชิยง ด้องท์ ดูมิดิ (Région Dents du Midi)

ตามสำเนียงสวิสเรียกว่า ปอร์กต ดู โซเลย (Portes du Soleil เขตด้องด์ ดู มิดิครอบคลุมถึง 6หมู่บ้านบนเทือกเขาแอลป์ฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ใกล้กับทางตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลสาบเจนีวา หมู่บ้านเหล่านี้ตั้งอยู่ตามแนวหุบเขาวาลดีลิเย่(Val d’Illiez) ถือเป็นครึ่งหนึ่งของ Portes du Soleilเรียกได้ว่าเป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในโลกมี ความงามตามธรรมชาติภายในพื้นที่กว่า 800 ตารางกิโลเมตร/308 ตารางไมล์ เปิดให้บริการตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูกาลไหน ที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มียอดเขาสูงตระหง่านพร้อมทิวทัศน์อันแสนงดงามแม้จะเป็นเขตชายแดนระหว่างฝรั่งเศสกับสวิตเซอร์แลนด์แต่ก็ไม่ได้ชัดเจนเท่าไหร่นักเพราะมีหญ้าปกคลุมสุดลูกหูลูกตาฟังดูเหมือนจะน่าเบื่อแต่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับทุกคน

รถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express)

รถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express)


จากเซอร์แมตต์และแมตเตอร์ฮอร์นท่านจะได้เดินทางชมวิวพานารามาข้ามสะพานกว่า 291 แห่งและลอดอุโมงค์ 91 แห่ง ระหว่างเส้นทางจากสวิสแอลป์ถึงเซนต์มอริสการเดินทางผ่านหุบเขาอันแสนไกล ผ่านภูเขาสูงชันหมู่บ้านบนเขาอันงดงามเหนือสะพานลันด์วาสเซอร์ เวียดัก (Landwasser Viaduct) และทะลุผ่านช่องเขาไรน์ แกรนด์แคนยอนแห่งสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟกลาเซียร์เอ็กซ์เพรสไต่ระดับขึ้นไปยังจุดสูงสุดที่ช่องเขาโอเบอร์แอลป์ (Oberalp) ที่ระดับความสูง 2,033 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ต้องขอบคุณกระจกหน้าต่างแบบพานอรามาเราจึงเห็นภาพของยอดเขาทั้งหลายอย่างชัดเจน แม้แต่ช่องเขาลึกด้านล่าง องค์การยูเนสโกถึงกับตั้งฉายาให้ว่า ”SwissAlps Jungfrau-Aletsch” และนอกจากนี้ยังมี รางรถไฟเรเชี่ยน (RhaetianRailway) ในอาบูลา/เบอร์นีน่า ก็ให้บริการเส้นทางนี้เช่นกัน นอกจากนี้ กลาเซียร์เอ็กซ์เพรสยังมีบริการอาหารซึ่งปรุงสุกใหม่ในครัวบนรถไฟและจัดเสิร์ฟถึงที่นั่งของผู้โดยสารอีกด้วย

รถไฟกอร์เนอร์กราต (Gornergrat)

ถ้าคุณอยากค้นหาความงามอันน่าตื่นตะลึง คุณจะได้พบว่าการเดินทางสู่กอร์เนอร์กราตเป็นเส้นทางที่พลาดไม่ได้ที่นี่ชานชาลาจะอยู่ท่ามกลางแสงแดด สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทำให้กอร์เนอร์กราดเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ สำหรับนักท่องเที่ยว สิ่งพิเศษไม่ใช่เพียงแค่ระดับความสูงเท่านั้น กอร์เนอรกราดถูกล้อมรอบด้วยยอดเขา 29 แห่งซึ่งล้วนสูงกว่า 4,000เมตร โอบล้อมด้วยภูเขาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์“แมตเตอร์ฮอร์น”และเป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเทือกเขาแอลป์เราจะเห็นวิวภูเขาแบบพานอรามาสวยไม่เป็นรองใครและ“เส้นทางรถไฟแมตเตอร์ฮอร์น”ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติราวกับจะสัมผัสได้ รถไฟสายกอร์เนอร์กราดทำให้เราพบกับวิวภูเขาที่เป็นเอกลักษณ์และได้ประสบการณ์ที่งดงามเป็นเวลากว่า 120 ปีมาแล้ว จากเซอร์แมตต์ รีสอร์ตพักผ่อนที่เป็นที่นิยมของรัฐวาเลส์รถไฟฟันเฟืองแบบเปิดโล่งที่สูงที่สุดในยุโรปเปิดให้บริการทุกวัน ทุกๆ 24 นาที(แต่จะปรับเป็นทุกๆ 48นาทีในช่วงนอกฤดูกาล)ไต่ขึ้นไปถึงกอร์เนอร์กราตห่างไป 9,339 เมตร รถไฟข้ามสะพาน แกลอรี่ อุโมงค์ ป่า และทุ่งหญ้าอัลไพน์ ผ่านหน้าผาสูงชันที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและที่สำคัญที่สุด คือ แมตเตอร์ฮอร์น

เล เซอลีเย เดอ ซียง (Les Celliers de Sion)

สวนไวน์แห่งแรกใจกลางรัฐวาเลส์ เล เซอลีเย เดอ ซียง (Les Celliers de Sion)ขอเชื้อเชิญให้คุณเข้าสู่การค้นพบที่พิเศษสุดของประวัติศาสตร์และไวน์ แห่งบงแวง (Bonvin) และวาโรน (Varone)ที่ได้รับออกแบบศูนย์กลางการทัวร์ชิมไวน์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในสวิตเซอร์แลนด์ ทุกแง่มุมของเนินเขาแห่งนี้ทำให้เห็นทัศนียภาพอันงดงามของโรห์นวัลเลย์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ จ่อคุยเอกชนยักษ์ใหญ่ของโลก กล่อมลงทุนในไทย

นายกฯ เตรียมพบบริษัทเอกชนชั้นนำของโลกหลายราย ระหว่างประชุมเวิลด์อีโคโนมิกฟอรัม มั่นใจดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้าไทยได้อีกมาก