เคาะ 9 แนวทางจัดประเพณีสงกรานต์ปี 66

วธ.ประชุมร่วมกับ 32 หน่วยงาน กำหนด 9 แนวทางจัดประเพณีสงกรานต์ ปี 66 ภายใต้แนวคิด  ‘สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล’ เน้นคุณค่าสาระวัฒนธรรม เผยแพร่อัตลักษณ์ท้องถิ่น

10 ก.พ. 2566 – นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบูรณาการกำหนดแนวทางการจัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2566  ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และผู้แทน 32 หน่วยงาน  เข้าร่วม ณ ศูนย์ประชุมกระทรวงวัฒนธรรม ว่า  เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ร่วมรณรงค์ให้คนไทยตระหนักในคุณค่า สาระ ความสำคัญของประเพณีสงกรานต์ ตลอดจนเพื่อประชาสัมพันธ์การเสนอประเพณี “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติต่อองค์การยูเนสโก ให้เป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง เน้นประเพณีอันงดงาม ที่ปฏิบัติกันทั่วทุกพื้นที่ของไทย แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ต่าง ๆ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น ทั้งยังต่อยอดสร้างสรรค์ทุนทางวัฒนธรรม Soft Power เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว  พร้อมรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวให้จัดกิจกรรมสงกรานต์ได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างความสุข สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางในการจัดงานประเพณีสงกรานต์ พุทธศักราช 2566  ภายใต้แนวคิด  “สืบสานสงกรานต์วิถีไทย ร่วมสานใจ สู่สากล” ครอบคลุมคุณค่าสาระของวัฒนธรรม ประเพณี เผยแพร่อัตลักษณ์ของท้องถิ่น กระตุ้นการท่องเที่ยว รักษาสุขอนามัย ตลอดจนความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน  

รมว.วธ. กล่าวต่อว่า แนวทางจัดสงกรานต์ปีนี้ ประกอบด้วย 9 แนวทางสำคัญ ดังนี้ 1. ขอความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ มุ่งเน้นสืบสานคุณค่าสาระของประเพณีอันดีงาม พร้อมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สู่การรับรู้ของชาวต่างชาติ 2. ส่งเสริมให้จังหวัดต่าง ๆ ใช้พื้นที่จัดกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในเทศกาลสงกรานต์ ร่วมกันสืบสานประเพณีที่ดีงาม เหมาะสม 3. รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันสืบสานคุณค่าสาระและสิ่งที่ควรทำของประเพณีสงกรานต์ เช่น การทำความสะอาดบ้านเรือน วัด ศาสนสถานที่นับถือ สถานที่สาธารณะ ทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ สรงน้ำพระพุทธรูป ขอพรผู้สูงอายุ

4. รณรงค์ให้แต่งกายที่สร้างภาพลักษณ์ความเป็นไทย เช่น ใช้ผ้าไทย ผ้าท้องถิ่น ชุดไทยย้อนยุค หรือชุดสุภาพ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้ถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยต่อชาวต่างชาติ 5.การขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ สนับสนุนศิลปินพื้นบ้านในการจัดกิจกรรม การละเล่น และการแสดงทางวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ตามแนวทางมาตรการเทศกาลสงกรานต์ 2566  เพื่อเป็นการถ่ายทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกันสืบสานประเพณี โดยคำนึงถึงวัฒนธรรมที่ถูกต้องเหมาะสม และร่วมกันเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม

6. หน่วยงานด้านความมั่นคง ความปลอดภัย และด้านบริการประชาชน ให้รักษามาตรการด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่สร้างความสุข ประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน 7. ขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้ยานพาหนะและใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมถึงช่วยสอดส่อง หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในกรณีพบเห็นผู้ที่ปฏิบัติตนไม่เหมาะสม 8. การจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม ๖๐๘ (กลุ่มเสี่ยง) ให้รักษามาตรการการป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 และโรคทางเดินหายใจ ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้เข้าร่วมงาน และ 9. ส่งเสริมภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเพณีสงกรานต์ทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และนานาชาติ ในโอกาสที่สงกรานต์ในประเทศไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมฯ ที่เข้าสู่การพิจารณาของยูเนสโก

นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า ในส่วนการเสนอ “สงกรานต์ในประเทศไทย” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ   องค์การยูเนสโกได้รับรายการสงกรานต์ของประเทศไทยเข้าสู่วาระการพิจารณาขึ้นทะเบียนในช่วงปลายปี พ.ศ. 2566  นี้แล้ว เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์วาระดังกล่าวให้สาธารณะได้รับรู้และมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง สวธ.เตรียมจัดประชุมเสวนาเพื่อจัดทำองค์ความรู้เกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น ภายในเดือนมีนาคม 2566  นี้ เป็นกรณีศึกษา ใน 5  จังหวัด ประกอบด้วย จ.เชียงใหม่ ชลบุรี ขอนแก่น สมุทรปราการ และนครศรีธรรมราช เป็นการรองรับการเสนอสงกรานต์ในประเทศไทย ในโอกาสดังกล่าวด้วย

อธิบดี สวธ. กล่าวต่อว่า สงกรานต์ปีนี้ สวธ.เตรียมจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่คุณค่าสาระ ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมสืบสานความงดงามของประเพณีสงกรานต์ อาทิ งานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ ในวันที่ 4 เมษายน 2566  เวลา10.00  น. ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และงานสืบสานประเพณีสงกรานต์ ในวันที่ 13 เม.ย. ณ วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร กิจกรรมประกอบด้วย การสรงน้ำขอพรพระพุทธรูปสำคัญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำวัด สรงน้ำพระสงฆ์ รดน้ำขอพรผู้อาวุโส ทำบุญทำทานเสริมสิริมงคลให้ชีวิตรับปีใหม่ไทย ส่วนภูมิภาค เช่น จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานแบบย้อนยุคสงกรานต์วิถีล้านนา “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่” 12-16 เม.ย.  จังหวัดชลบุรี จัดงานวันไหลบางแสน 16-21 เม.ย.  จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ แห่นางดานเมืองนคร (วิถีพุทธ-พราหมณ์) 13-15  เม.ย.  และ จังหวัดสมุทรปราการ จัดประเพณีสงกรานต์พระประแดง ระหว่าง 21-23 เม.ย. เป็นต้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พิกัด 11 วัด งานอารามอร่ามประดับไฟรับปีใหม่

เพื่อส่งมอบความสุขปลายปีและเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) จัดกิจกรรม “อารามอร่าม 11 วัด 1  โบสถ์พราหมณ์1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568 “ ถือเป็นอีกหมุดหมายที่ห้ามพลาดและไม่ได้จัดเป็นประจำ เพราะ

บอร์ด ICH ขึ้นบัญชี 10 มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ‘งานนมัสการพระธาตุพนม-เสื่อกกจันทบูร-ผ้าหม้อห้อม-ตำนานสุบินกุมาร‘

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมครั้งที่ 3/2567 พิจารณาเห็นชอบให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม

อาลัย ‘สันติ ลุนเผ่’ ศิลปินแห่งชาติ นักร้องเสียงทรงพลังอมตะ ผู้ขับร้องเพลงปลุกใจรักชาติ

10 ธ.ค.2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ได้รับการประสานงานจากผู้ดูแลของเรือตรี สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พ.ศ.2558 ว่า เรือตรี สันติ ลุนเผ่ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม

สิ้น'สันติ ลุนเผ่' ศิลปินแห่งชาติ นักร้องเสียงทรงพลัง

นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) โดยกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม ได้รับการประสานงานจากผู้ดูแลของเรือตรี สันติ ลุนเผ่ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พุทธศักราช 2558  ว่า เรือตรี สันติ ลุนเผ่ ถึงแก่กรรมอย่างสงบ เมื่อวันที่ 10  ธันวาคม 2567

ฉลอง'ต้มยำกุ้ง' กระหึ่มโลก ชวนลองเมนูมรดกวัฒนธรรม

โด่งดังก้องโลกกับเมนูต้มยำกุ้งของดีเมืองไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จัดงานฉลองต้มยำกุ้งและเคบายา มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ ในโอกาสที่ ยูเนสโก ได้ประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) และ “เคบายา” เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List

ลุ้น'ต้มยำกุ้ง'ขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม

3 ธ.ค.2567 - นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก จะประชุมพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนอาหาร “ต้มยำกุ้ง” ของประเทศไทย และชุด “เคบายา” เสนอโดยสิงคโปร์ ร่วมกับไทย มาเลเซีย อินโ