
8 มี.ค. 2566 – นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมแถลงข่าว ความคืบหน้าให้ผู้มีสิทธิประกันสังคม ข้าราชการ ใช้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบ สปสช. “เตรียมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกามอบ สปสช.ดูแลงบสร้างเสริมสุขภาพแก่คนไทยทุกคน”
นพ.โอภาส กล่าวว่า งบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง วงเงินรวมทั้งหมด 204,140.03 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค (PP) ประมาณ 10% หรือ 21,381.11 ล้านบาท แยกเป็นงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคสำหรับประชาชนในสิทธิบัตรทอง 16,235.07 ล้านบาท ซึ่งส่วนนี้ได้อนุมัติดำเนินการดูแลประชาชนในสิทธิบัตรทองไปแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 5,146.04 ล้านบาท หรือ 2.5% ของงบภาพรวมทั้งหมด สำหรับส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคกลุ่มประชาชนนอกสิทธิบัตรทอง คือ ประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการ เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจตามที่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 มาตรา 66 กำหนดไว้ บอร์ด สปสช. จึงให้ชะลอการจัดสรรงบประมาณเฉพาะส่วนนี้ และให้ออกพระราชกฤษฎีกาให้ชัดเจน ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับประชาชนผู้รับบริการ กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการหน่วยบริการในสังกัดทุกแห่งให้บริการประชาชนทุกสิทธิตามปกติ ส่วนหน่วยบริการนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข บอร์ด สปสช. ได้มอบหมายให้ สปสช. เป็นผู้ประสานให้จัดบริการตามปกติเช่นกัน ดังนั้น ยืนยันว่าประชาชนทุกคนทุกสิทธิยังสามารถเข้ารับบริการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคได้
ด้าน นพ.จเด็จ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้ บอร์ด สปสช. ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มอบหมายให้ สปสช. หารือกับหน่วยงานที่ดูแลกองทุนสุขภาพของกลุ่มผู้ที่ไม่ได้ใช้สิทธิบัตรทอง อาทิ กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม เป็นต้น ออกร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดสิทธิรับบริการสาธารณสุข เพื่อให้ผู้ที่อยู่ในการดูแลของกองทุนนั้นๆ สามารถใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การฟื้นฟูสมรรถภาพ และบริการสาธารณสุขอื่นที่จำเป็นต่อสุขภาพและการดำรงชีวิต ตาม พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ได้ โดยได้มีการประชุมร่วมกัน เพื่อจัดทำร่าง พ.ร.ฎ. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งสิ้น 6 ฉบับ และขณะนี้อยู่ระหว่างเปิดให้ประชาชน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ไขปัญหาให้ผู้ไม่ใช้สิทธิบัตรทองได้เข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคที่จำเป็นโดยเร็ว ในวันพรุ่งนี้ (9 มีนาคม 2566) บอร์ด สปสช. จะมีการประชุมวาระด่วนพิเศษผ่านระบบ Zoom พิจารณาการดำเนินการตามมาตรา 9 และมาตรา 10 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ เพื่อส่งให้ ครม. พิจารณา
“เมื่อดำเนินการเรื่องนี้แล้วเสร็จ โดยออกเป็นพระราชกฤษฎีกาได้ ก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน เท่ากับว่าต่อไปในอนาคต ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีก หน่วยบริการสามารถให้บริการประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากมีหลักประกันที่เป็นข้อกฎหมายรองรับไว้แล้ว ต่อไปคนไทยทุกคนก็จะได้รับบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคตามกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้” เลขาธิการ สปสช. กล่าว
สำหรับการแสดงความคิดเห็น ร่าง พ.ร.ฎ. กำหนดสิทธิรับบริการสาธารณสุข 6 ฉบับ ประกอบด้วย วันที่ 24 กุมภาพันธ์ – 10 มีนาคม 2566 เปิดรับความคิดเห็น
กลุ่มข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการ แสดงความคิดเห็นได้ที่ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYwMURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
กลุ่มผู้ประกันตน แสดงความคิดเห็นได้ที่ https://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYwM0RHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม 2566 เปิดรับความคิดเห็น
กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของรัฐวิสาหกิจ แสดงความคิดเห็นได้ที่ http://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYwOURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
กลุ่มผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานอื่นของรัฐ แสดงความคิดเห็นได้ที่ http://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYxMERHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
กลุ่มพนักงานเมืองพัทยา แสดงความคิดเห็นได้ที่
http://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYwN0RHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=
กลุ่มผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลของกรุงเทพมหานคร แสดงความคิดเห็นได้ที่http://law.go.th/listeningDetail?survey_id=MTYwNkRHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งผลงาน 'รัฐบาลดิจิทัล' เปิดบริการสมัครมาตรา 39 ประกันสังคม ผ่าน e-Self Service
“รัฐบาลดิจิทัล” หนุนทุกหน่วยงานเพิ่มความสะดวกคนไทยด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เปิดบริการล่าสุดจาก สปส. ให้ผู้ประสงค์สมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ดำเนินการผ่านระบบ e-Self Service ได้ รู้ผลใน 2-4 วัน ส่งเงินสมทบได้ทันทีผ่านหลายช่องทางให้เลือก
รัฐบาลชวนประชาชนใช้สิทธิบัตรทอง รับยาคุมกำเนิดไม่เกิน 3 แผงต่อครั้ง
รัฐบาลส่งเสริมการตั้งครรภ์เมื่อพร้อม ประชาชนใช้สิทธิ บัตรทอง รับยาคุมกำเนิดไม่เกิน 3 แผงต่อครั้ง คนละไม่เกิน 13 แผงต่อปี
ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปีฯ
รองโฆษกรัฐบาล ย้ำ ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถเปลี่ยนสถานพยาบาล ได้ 4 ครั้งต่อปีงบประมาณ ใช้สิทธิรักษาได้ทันทีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปลี่ยนได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชัน สปสช.
ชื่นชมนักวิจัยไทย ผลิตรากฟันเทียม มาตรฐานโลกถูกกว่านำเข้า 10 เท่า
รัฐบาล ชื่นชมความสำเร็จนักวิจัยไทย ผลิตรากฟันเทียมฝีมือคนไทยมาตรฐานระดับโลก ราคาถูกกว่านำเข้ากว่า 10 เท่า สปสช.บรรจุสิทธิประโยชน์ให้ผู้สูงอายุตามสิทธิบัตรทองรักษารากฟันเทียมฟรี
แนะปชช.ใช้สิทธิบัตรทอง แล้วได้รับความเสียหาย มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น
รองโฆษกรัฐบาล แนะปชช.ใช้สิทธิบัตรทอง แล้วได้รับความเสียหายจากการรักษาพยาบาล มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น
อย่ากดลิงก์ลวง! อัปเดตข้อมูล 'ประกันสังคม' ล้วงเงินหมดบัญชี
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอโดยมีรายละเอียดว่า "สิ้นเดือน เม.ย. นี้ ผู้สูงอายุรับเบี้ยพิเศษ ท่านละ 2,500 บาท"