สัมผัสเส้นทางศิลปินโลก'Van Gogh' รูปแบบดิจิทัลอาร์ต

ภาพวาดตังเองของแวนโก๊ะ

 วินเซนต์ แวนโก๊ะ (Vincent  van Gogh) ศิลปินชาวดัตช์ ผู้โด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ที่ได้ชื่อว่าเป็นศิลปินที่ป่วยทางจิต และแม้ว่าแวน โก๊ะ จะจากโลกใบนี้ไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงถูกพูดถึงมาอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ คือผลงานภาพวาดของเขาที่โด่งดัง เช่นผลงานภาพ Starry Night ที่เขาได้รังสรรค์ขึ้นอย่างมีชั้นเชิงความล้ำในจินตนาการ และความหมายที่แฝงไปด้วยแง่คิดและมุมมองวิถีชีวิตของมนุษย์

ฉายภาพ Starry Night แบบดิจิทัลอาร์ต

แวน โก๊ะ เกิดและเติบโตที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เส้นทางศิลปินของเขาเริ่มต้นขึ้นในปีค.ศ.1880 วัย 27 ปี ซึ่งงก่อนจะเข้าสู่บทบาทของการเป็นศิลปิน เขาได้ลองผิดลองถูกหลายอย่าง ทั้งการทำงานในห้องภาพกับญาติ ซึ่งเป็นนายหน้าในการรับซื้อขายงานศิลปะในยุโรป แต่ก็ยังไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ พอหันมาเป็นนักเทศน์เหมือนอย่างพ่อก็ไม่ประสบความสำเร็จ และระหว่างทางชีวิตรักของแวนโก๊ะ ก็มีเรื่องราวทั้งรอยยิ้มและคราบน้ำตา การงานที่ล้มเหลวและความรักที่มีรอยบาดแผลในหัวใจ  ในปีค.ศ.1880 เขาจึงหันมาสนใจงานศิลปะ เริ่มเส้นทางของการเป็นศิลปิน ซึ่งอาจจะช้ากว่าศิลปินที่โด่งดังคนอื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นเส้นทางช่วงสั้นๆนี้ เต็มไปด้วยความเข้มข้นของเรื่องราวที่สะท้อนผ่านภาพวาดในแต่ละยุคของแวนโก๊ะ

ภาพสเก็ตของแวนโก๊ะ

 ช่วงแรก แวนโก๊ะ  ชื่อเสียงของเขาอาจจะยังไม่โด่งดังมากนัก เรียกได้ว่าเป็นศิลปินไส้แห้งก็ได้ มีเพียงเงินจุนเจื้อจากน้องชายที่เป็นนายหน้ารับซื้อขายผลงานศิลปะ แต่ความตั้งใจก็ยังคงเดินหน้าต่อไป  ไม่ว่าจะต้องเจอโรครุมเร้า หรือต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ทำให้มีแวนโก๊ะมีภาพวาดมากกว่า 2,000 ชิ้น ทั้งภาพวาด และภาพสเก็ต จนกระทั่งปี ค.ศ.1890 ที่แวนโก๊ะได้เสียชีวิตลงในวัย 37 ปี ผลงานของเขากลับมีชื่อเสียงและอิทธิพลอย่างมากในวงการศิลปะ ซึ่งปัจจุบันผลงานของเขาได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การประมูลที่ครอบครองโดยเหล่าพิพิธภัณฑ์และนักสะสมทั่วโลก  

ภาพวาดบุคลทั่วไปที่แวนโก๊ะวาด

ล่าสุด ประเทศไทยได้มีการจัดนิทรรศการของแวน โก๊ะ ในรูปแบบดิจิทัล อาร์ต โดย Grande Experiences ผู้สร้างและผู้ผลิตเจ้าของลิขสิทธิ์ Van Gogh Alive ร่วมกับ Live Impact Events ผู้ถ่ายทอดและนำเสนอประสบการณ์ระดับโลก และ ไอคอนสยาม ได้จัดนิทรรศการ “Van Gogh Alive Bangkok : แวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “I dream my painting, and then I paint my dream”  ที่นำผลงานศิลปะดิจิทัลอิมเมอร์ซีฟระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภาพสวนดอกไม้และบ้านสีเหลืองที่จำลองมาจากภาพของแวนโก๊ะ

 นิทรรศการฯนี้ ได้รวบรวมผลงานศิลปะชิ้นสำคัญของแวนโก๊ะ  จัดแสดงในรูปแบบ Immersive Multi-Sensory Experience กว่า 3,000 ชิ้น   ที่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้เข้าชมกว่า 8.5 ล้านคนใน 80 เมืองทั่วโลกมาแล้ว ส่วนที่ไทยเริ่มจัดแสดงแล้วตั้งแต่วันนี้- 31 กรกฎาคม 2566 ณ  Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม

ห้องจดหมายที่แวนโก๊ะเขียนถึงน้องชายผู้เป็นที่รัก

สำหรับนิทรรศการแวนโกะห์ อะไลฟ์ แบงค็อก แบ่งเป็น 4 โซน โซนแรก Van Gogh Alive Interpretive Information  เริ่มทำความรู้จักกับ  แวนโก๊ะ ผ่านชิ้นงานที่ถือเป็นไฮไลต์  รวมถึงจำลองห้องนอนที่มาจากภาพ Bedroom in Arles ในเมืองอาร์ลส์ (Arles) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ได้ถอดแบบที่พำนักของเขาในบ้านหลังสีเหลืองที่แห่งเดียวที่เขาเรียกว่าบ้าน ซึ่งจุดกำเนิดของแรงบันดาลใจในการสร้างงานสำคัญหลายต่อหลายชิ้น

อิทธิพลภาพสไตล์ญี่ปุ่น ในข่วงที่แวนโก๊ะอยู่ในกรุงปารีส


มาถึงโซนที่ 2  “S4 Gallery Hall” ที่นำงานเขียนอันโด่งดังระดับโลกในช่วงปี 1880 – 1890 มากกว่า 3,000 ภาพ มาฉายบนกำแพงสูง 6 เมตร ถึง 40 จุดและฉายลงบนพื้นอีก 20 จุด ประกอบดนตรีที่สื่อถึงความรู้สึกของศิลปิน แบ่งผลงานเป็นชุดตามพื้นที่ที่เขาเคยอาศัยอยู่  สัมผัสได้ถึงอารมณ์ในแต่ละช่วงชีวิตอย่างชัดเจน เริ่มจากที่ประเทศบ้านเกิด เนเธอร์แลนด์ ผลงานช่วงยุคแรกๆ ซึ่งได้รับอิทธิพลแนวคิดแบบ Realistic ที่สะท้อนชีวิตของผู้คนในชนบท หรือความยากจน  อย่าง ภาพคนกินมันฝรั่ง  ต่อมาในศตวรรษที่ 19 เขาได้ย้ายไปอยู่ในกรุงปารีส ที่มีความเบ่งบานของศิลปะในแนว Impressionism ภาพจึงมีสีสันสดใส และในยุคนี้ชาวตะวันตกก็ให้ความสนใจภาพแนวญี่ปุ่น จะเห็นผลงานภาพวาดพ่อค้า ที่มีฉากหลังเป็นผู้หญิงใส่ชุดกิโมโน ซึ่งถือเป็นการแสดงฝีมือทางศิลปะที่ท้าทายในยุคนั้นคือการวาดคน  แต่ส่วนใหญ่เป็นภาพของบุคคลทั่วไปอาทิ บุรุษไปรษณีย์ และแวนโก๊ะยังภาพวาดตัวเองหลายภาพ   ถัดมาเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของเขาในเมืองอาร์ลส์  แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ  ผลงานในช่วงนี้เริ่มมองเห็นความเจ็บป่วยทางจิตใจของวินเซนต์อยู่บ้าง

ผู้เขาชมฝึกวาดภาพ

 จากนั้นเป็นช่วงเวลาแสนหดหู่ที่โรงพยาบาล ‘แซงต์-เรมี (Saint-Remy) ที่เขาเข้ารักษาตัวอยู่ จึงเกิดภาพวาดทิวทัศน์ที่ดูเงียบสงบและแสนหดหู่  ก่อนจะเข้าสู่โอแวร์ ซูว์ รวซ (Auvers-sur-Oise) สัมผัสความรู้สึกว่างเปล่าของเขาได้จากผลงานชิ้นสุดท้ายอันชวนหลอนของเขา แสดงออกถึงความวุ่นวายทางอารมณ์อย่างชัดเจนในวาระสุดท้ายของชีวิต  แสดงถึงสภาวะทางอารมณ์ที่ค่อนข้างแปรปรวน ภายในโซนนี้ยังมีการผสมผสานกลิ่นหอมของสนไซเปรส ซีดาร์วู้ด แซนดอลวู้ด และลูกจันทน์เทศ ผสานความสดชื่นกับกลิ่นเลมอนและหญ้าแฝก เชื่อมผู้ชมให้ใกล้ชิดกับสวนผลไม้ สวนหย่อมและทุ่งกว้าง ที่วินเซนต์ได้รังสรรค์ไว้

AI Interactive Room ที่ช่วยรังสรรค์ภาพถ่ายของคุณให้ออกมาเหมือนจิตรกรรม

 โซนที่ 3 Van Gogh Old Town นำเสนอเมืองที่วินเซนต์เคยอาศัยอยู่ด้วยเทคนิคผสมผสานระหว่างของจริงและดิจิทัลอาร์ต เป็นการเปิดประสบการณ์ในรูปแบบใหม่ ใน 4 ธีมหลัก Fields, Starry Night, Countryside and Garden นำภาพเขียนจากพื้นที่เมืองอาร์ลส์อันงดงามมานำเสนอ ด้านในจึงเป็นการจำลองจากภาพของแวนโก๊ะ ได้ Wheat Field with Crows และ Noon, rest from work  Yellow House Starry Night และThe Night Café อันแสนโรแมนติก ภาพ The Red Cafe ที่น่าประทับใจ และภาพ Dubigny’s Garden” สวนลับที่ดูลึกลับของแวนโก๊ะ

จำลองห้องนอนจากภาพ Bedroom in Arles

 สำหรับโซนสุดท้าย จะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ ห้องสอนวาดภาพแบบแวนโกะห์ และห้องจัดแสดง Letter to Theo จดหมายถึงน้องชายคนโปรดของวินเซนต์ รวมถึงมี AI Interactive Room ที่ช่วยรังสรรค์ภาพถ่ายของคุณให้ออกมาเหมือนจิตรกรรม พร้อมพักผ่อนในบรรยากาศอาร์ตๆ กับ Van Gogh Café by After You พร้อมปิดท้ายด้วย Van Gogh Shop โซนขายของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟมีจำหน่ายสำหรับงาน “Van Gogh Alive Bangkok” เท่านั้น

ผู้เข้าชมเบิกบานในห้องกระจกดอกทานตะวัน เป็นดอกไม้ที่แวนโก๊ะวาดขึ้นเพื่อตกแต่งให้เพื่อนศิลปิน

ผู้สนใจ สามารเข้าชมนิทรรศการ Van Gogh Alive Bangkok ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2566 ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม เปิดจำหน่ายบัตรแล้ววันนี้ที่ Thai Ticket Major ราคาบัตร VIP 1,490 บาท, บัตรทั่วไป 990 บาท, บัตร Early Bird 690 บาท (ใช้ได้ถึง 30 เม.ย. 2566) และบัตรนักเรียน/นักศึกษา 480 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.1338 หรือ Facebook : ICONSIAM

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นางสงกรานต์มโหธรเทวี 'เบ็คกี้ รีเบคก้า' เฉิดฉายนำขบวนแห่นางสงกรานต์

ไอคอนสยาม มหัศจรรย์เจ้าพระยามหาสงกรานต์ 2567 เทศกาลมหาสงกรานต์เฟสติวัลระดับโลก เนรมิตพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกกับการละเล่นสาดน้ำ (World Water Festival) อย่างยิ่งใหญ่ในบรรยากาศของวัฒนธรรมไทย ด้วยแนวคิด “THAICONIC SONGKRAN CELEBRATION : รื่นเริงมหาสงกรานต์ สานต่อตำนานมรดกโลก” ตั้งแต่วันที่ 10 - 21 เมษายน 2567

มูสายมังกร ตรุษจีนไหว้ขอพร'เทพเปลี่ยนใจ'

ตรุษจีนไหว้ขอพรจากเทพต่างๆ เป็นประเพณีสืบต่อกันมา  ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมกับ กระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม  หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และพันธมิตรภาคเอกชน สืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทย

ไอคอนสยาม เนรมิตพื้นที่ “ไอคอนคราฟต์” จัดนิทรรศการ “INFINI JUD” ในงาน “ICONCRAFT x Bangkok Design Week 2024”

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา และ ไอคอนคราฟต์ (ICONCRAFT) พื้นที่แห่งแรงบันดาลใจที่รวบรวมสุดยอดงานคราฟต์จากช่างฝีมือไทยทั่วประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่

ไอคอนสยาม ชวนย้อนรอยการเดินทางของ อินสนธิ์ วงค์สาม ในนิทรรศการ “Celebrating the 60th Anniversary Journey to Florence Italy”

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขอเชิญชวนทุกท่านย้อนรอยการเดินทาง ของศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปี พ.ศ.2542 “อินสนธิ์ วงค์สาม” ในนิทรรศการเดี่ยวนอกสถานที่ครั้งแรกในชีวิต Celebrating the 60th Anniversary