'น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม' Wellness'ล้ำค่าระดับโลก'    

น้ำพุร้อนเค็มเป็นจุดขายที่โดดเด่น ในเรื่องการบำบัด มีความร้อนและความเค็ม เท่ากับของเหลวในร่างกายคน อยู่ในระดับพอดี หาที่อื่นไม่ได้  เป็นอาวุธลับของประเทศไทย  

บ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม ที่เป็นบ่อพ่อ บ่อแม่

นอกจากหาดทรายชายทะเล จ.กระบี่ ยังมีความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ   แต่ที่สำคัญคือ มีมรดกทางทรัพยากรทางธรรมชาติ ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.คลองท่อม โดยเฉพาะความมหัศจรรย์ของทรัพย์ใต้ดินที่มีน้อยแห่งในโลก เป็น “บ่อน้ำพุร้อนเค็ม” ที่รู้จักในชื่อ  บ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม   หรือเป็นแหล่งออนเซ็น 1 ใน 2 ของโลก โดยอีกแห่งอยู่ที่ประเทศเช็ก ที่เชื่อว่าสามารถบำบัดโรคได้มากมาย 

ความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็ม ที่สามารถบำบัดโรคได้ โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับอัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเลือดตีบ เรื่องราวผู้ป่วยบางคนที่มาแช่บ่อน้ำร้อนเต็ม แล้วหายจากโรค จากที่เดินไม่ได้ มาสามารถเดินได้ ฟังเผินๆ เหมือนเรื่องเล่าลือเล่าอ้างกันกันไปต่างๆ นาๆ  หลายคนฟังครั้งแรก อาจร้องว่าจริงเหรอ


แต่ข้อมูลนี้ ได้รับการยืนยันจาก  นายวัฒนา สินธุเจริญ ปลัดเทศบาลตำบลห้วยน้ำขาว  ที่บอกว่า บ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้ เป็นที่รู้จักกับโลกภายนอก ที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ เพราะมีข้าราชการ รายหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดสมองตีบ และได้ยินจากชาวบ้านว่าบ่อน้ำพุร้อนที่นี่สามารถบำบัดโรคได้ จึงมาแช่ และสามารถหายป่วยได้จริง  เรื่องราวความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อมจึงแพร่ออกไป

น้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม ประกอบไปด้วยบ่อน้ำพุร้อนเค็มที่เรียงรายเล็กใหญ่ถัดกันไปถึง 14 บ่อ และแต่ละบ่อนั้นสามารถวัดระดับความเค็มได้ถึง 10 ppm. ค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่  7.2 ถือว่ามีความเป็นกลาง คุณสมบัติทางแร่ธาตุ  มีการนำน้ำพุเค๋มคลองท่อม ไปวิจัยแล้วได้รับการยืนยันว่าอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญ  7 ชนิด     คือ โซเดียม คลอไรด์ และแร่ธาตุอื่นๆ อย่าง ซิลิก้า โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาร์บอเนต ในปริมาณที่สูงกว่าค่ามาตรฐานทั่วไป ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเรื่องการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ลดความดันโลหิต ลดการอักเสบของข้อ เบาหวาน นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นระบบประสาท การย่อย และโรคทางผิวหนัง    ขณะที่อุณหภูมิของน้ำอยู่ที่ 40-47 องศาเซลเซียส

40-47 องศาเซลเซียส ความร้อนในระดับที่พอดี ไม่ร้อนเกินไป

ด้วยศักยภาพของน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เป็นที่เลื่องลือ ทำให้ภาคเอกชนอย่าง “Amataya wellness”  ได้เข้ามาเป็นศูนย์ฟื้นฟูและดูแลสุขภาพครบวงจรด้วย  “น้ำพุร้อนเค็ม” แห่งแรกของไทย  หนึ่งในโครงการนำร่องของ “คลองท่อม เฮอริเทจ” บนพื้นที่ธรรมชาติ 400 ไร่ โดยชูจุดขาย เมืองสุขภาพแห่งใหม่ ด้วยความมหัศจรรย์จากน้ำพุร้อนเค็ม     ต่อยอดด้วยการนำมาออกแบบเป็นโปรแกรมการฟื้นฟูสุขภาพร่วมกับการแพทย์สมัยใหม่เป็นแห่งแรกในโลก พ่วงบริการมาตรฐานระดับสากล ให้บริการดูแลฟื้นฟูผู้ป่วยจากโรค Stroke และโรคอื่นๆ ด้วยการใช้น้ำพุร้อนเค็มร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และใช้ศาสตร์การรักษาด้วยการนวดแผนไทยผสมการแช่น้ำพุร้อนเค็มเพื่อสร้างสุขภาพที่ดีในทางป้องกันก่อนการเจ็บป่วย

Amataya Wellness  ที่อยู่ห่างจากบ่อน้ำพุร้อน บ่อพ่อ บ่อแม่ ประมาณ  2กม.

ภูสิทธิ์   พฤกษารัตน์   ผู้จัดการทั่วไป Amataya Wellness กล่าวว่า หลังเปิดกิจการเมื่อกลางปีที่แล้ว มีคนไข้จำนวนมากที่เป็นโรคจากสโตรก และโรคอื่นๆ และมีปัญหาเดินไม่ได้มาบำบัดที่”Amataya wellness”   ส่วนใหญ่หลังผ่านการบำบัดจะกลับมาเดินได้ โดยใช้ไม้เท้าช่วยหรือเรียกว่า 3 ขา สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ อาบน้ำเองได้ ไม่ต้องพยุงเวลาเดิน  ส่วนพวกที่เป็นโรคจากสโตรก ถ้าเป็นนานเกิน 6 เดือน ก็ต้องใช้เวลาในการบำบัดนานขึ้นกว่ารายที่เป็นใหม่ๆ บางรายเป็นนาน 10 ปี หลังบำบัดอาจกลับมาได้  10 เปอร์เซ็นต์  

“การบำบัดจะใช้ 3ศาสตร์ประกอบกัน โดยการแช่น้ำพุร้อน 10 นาที สลับกับการแช่น้ำเย็น  2 นาที โดยน้ำพุร้อนเค็ม จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการไหลเวียนโลหิต ส่วนแช่น้ำเย็นจะเป็นการกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวทำงาน   ส่วนที่สอง เป็นการนวดแบบวัดโพธิ์ เป็นการนวดแบบสะท้อนจุดในส่วนปลายประสาทที่ตายแล้วให้กลับมาทำงานได้อีก  ส่วนที่สาม เป็นการทำกายภาพบำบัด  โดยการจะให้ได้ผลจะต้องใช้เวลาฟื้นฟูนาน 1 เดือนขึ้นไป การบำบัดจะมีแพทย์แผนปัจจุบันดูแลควบคู่กันไป”ภูสิทธิ์กล่าว

ซ้ายสุด-นาวาเอกอธิคม คงมี ผอ.อพท .แช่ขาบ่อน้ำพุร้อนเค็มที่ Amataya Wellness

นฤพันธ์ พรหมวิเศษ หรือ เอก รองผู้อํานวยการ Amataya Wellness  บอกว่า น้ำพุร้อนเค็มเป็นจุดขายที่โดดเด่น ในเรื่องการบำบัด มีความร้อนและความเค็ม เท่ากับของเหลวในร่างกายคน อยู่ในระดับพอดี หาที่อื่นไม่ได้  เป็นอาวุธลับของประเทศไทย   ซึ่งในประเทศไทยมีบ่อน้ำพุร้อน 122 แห่ง แต่ในแง่การเป็นน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตถือว่าที่คลองท่อมสมบูรณ์ที่สุด โดยมีแร่ธาตุในระดับ  11,000 มก./ลิตร   หรือหากเทียบคุณภาพน้ำพุร้อนคลองท่อมกับประเทศเช็ก ที่เป็นน้ำพุร้อนเค็มอีกแห่งบนโลก ซึ่งเขามีการลงทุนหลายพันล้านและโฆษณาน้ำพุร้อนเค็มมานานแล้ว ยังมีกลิ่นสนิม สู้ที่คลองท่อมไม่ได้

ภูสิทธิ์   พฤกษารัตน์ 

“น้ำพุร้อนเค็ม เป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ  เพื่อน้ำจืด และน้ำเค็ม ไหลแทรกเข้าไปในรอยแตกของเปลือกโลก  แต่ผลที่ได้กลายเป็นน้ำพุร้อนที่ร้อนพอดี และเค็มพอที่ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วในโลก  และไม่มีวันหมด เพราะหากหมด น้ำทะเลก็คงหมดโลก”เอกยืนยัน

ศักยภาพน้ำพุร้อนคลองท่อม เอกมองว่า ไม่ใช่แค่ระดับประเทศเท่านั้น  เพราะ Wellness กำลังเป็นMaga trend ของโลก ซึ่งในฐานะนักธุรกิจ จะต้องขยี้ให้เติบโตมากกว่านี้ โดยอามาตยา ได้ติดต่อสถาบันการแพทย์ชั้นนำของโลก อย่างไซดา ซีไนส์ ที่เป็นศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพของโลก  นำเสนอข้อมูลให้เขาไปพิจารณา เรื่องการบำบัดรักษา และสนใจจะร่วมทุนกับเราหรือไม่ ซึ่งหากเขาไม่สนใจ ก็จะมีรายต่อๆไปอีก ที่เป็นสถาบันการแพทย์ชั้นนำของยุโรป หรือ   อเมริกา  ที่ทางอามาตาติดต่อไป

“ผมไปมาแล้วหลายที่ ที่มีน้ำพุร้อน ทั้งเช็ก เยอรมัน ที่ร. 5 ทรงเคยเสด็จไปรักษาตัว ที่บาธ ฮีมบวร์ก  มาเปรียบเทียบกับของเรา ซึ่งเห็นแล้วว่า คลองท่อมสามารถเป็น Destination Wellness ของโลกได้  เราต้องทำให้ต่างชาติรู้จัก และน้ำพุร้อนจะต้องเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนมาเที่ยวไทย เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ “

นฤพันธ์ พรหมวิเศษ

เอก ยังบอกอีกว่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของน้ำพุร้อนเต็มที่มากขึ้น  ทางAmataya Wellness  จึงได้ให้ทุนวิจัยเรื่องนี้ กับสถาบันการศึกษาไทยหลายแห่ง เช่น ม.แม่ฟ้าหลวง ม.เชียงใหม่  ม.เกษตรศาสตร์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งแต่ละสถาบันจะมีความเชึ่ยวชาญที่แตกต่างกัน ถือว่าเป็นการทำวิจัยค้นหาความโดดเด่นแต่ละจุดของน้ำพุเค็มคลองท่อมให้ปรากฎชัด

ในแง่การบริหารจัดการพัฒนาพื้นที่ ล่าสุดทางองค์การบริหารพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.   ซึ่งได้รับมอบหมายจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มาเป็นทำให้แหล่งน้ำพุร้อนคลองท่อม และน้ำตกร้อน  สระมรกต พิพิธภัณฑ์ลูกปัดคลองท่อม ผลักดันภายใต้แนวคิด “คลองท่อมเมืองสุขภาพ หรือ Wellness” พร้อมขับเคลื่อนแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.คลองท่อม โดยใช้หลักการพัฒนาตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria: GSTC) เพื่อให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และในอนาคตมีแนวคิดผลักดันเสนอชื่อเข้ารับการรับรอง “แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ Green Destinations Top 100 Stories และรางวัลอื่นๆ ต่อไป

นาวาเอก อธิรคม คงมี มอบของที่ระลึกอบต.บ้านไม้ขาว คลองท่อมในการลงพื้นที่ ก่อนเข้่ามาช่วยเหลือให่เป็นพื้นที่พิเศษ

นาวาเอกอธิคม คงมี ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า น้ำพุร้อนเป็นศักยภาพที่โดดเด่นของคลองท่อม ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้ว มีแห่งเดียวในไทย โดยอพท.  จะทำหน้าที่ประสานหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันพัฒนาพื้นที่คลองท่อม เพื่อบริหารจัดการให้พื้นที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ชุมชนได้ประโยชน์อย่างเต็มที่มากขึ้น

“จุดเด่นของน้ำพุร้อนคลองท่อมคือ มีแร่ธาตุสูง ที่ดีต่อสุขภาพและการรักษาพยาบาล ปัจจุบันมีภาคเอกชนเห็นประโยชน์ มีการลงทุนกันบ้างแล้ว แต่การลงทุนของภาครัฐยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม    ซึ่งอพท.มองว่าเราจะต้องนำมาตรฐานออนเซ็นของญี่ปุ่นมาปรับใช้ เพื่อให้การใช้บริการมีมาตรฐานสูง ทั้งเรื่องชุดสวมใส่ลงบ่อ และการดูแลเรื่องความสะอาดต่างๆ สิ่งเหล่านี้ จะต้องมีมาตรฐานที่ดีขึ้น สูงขึ้น สมกับคุณค่าน้ำพุร้อนเค็มที่เราที่มีอยู่ 2แห่งบนโลก” ผอ.อพท.กล่าว 

น้ำตกร้อนที่คลองท่อม เป็นอีกจุดที่เป็น Wellness ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ลานตา ลันตา' พหุวัฒนธรรมแข็งแกร่งสู่สายตาโลก

เทศกาลลานตา ลันตา หนึ่งในเทศกาลประเพณีที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ความเป็นไทยที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ปีนี้ชาวเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ซึ่งภาคภูมิใจในวิถีวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์และทรัพยากรธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ร่วมกันเผยแพร่ความเป็นพหุวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง

วธ.พัฒนาเครือข่ายภาคใต้รู้ทัน Fake News

7 มี.ค.2567 - นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมค่ายครอบครัวคุณธรรม นำสังคมเป็นสุข ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 7-9 มีนาคม 2567 โดยมีนายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดกระบี่ วัฒนธรรมจังหวัดพื้นที่ภาคใต้

อพท. ผนึก 5 มหาวิทยาลัย ปั้นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน ขับเคลื่อนการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาสู่มาตรฐานสากล

อพท. จับมือ 5 สถาบันการศึกษา ร่วมหนุนเสริมการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ระยะ 4 ปี หวังยกระดับการบริหารจัดการพื้นที่สู่เกณฑ์มาตรฐานสากล

พิธีมอบรางวัลระดับชาติด้านสุขสภาพ (Wellness) ของประเทศไทย โครงการ “การพัฒนาสุขสภาพขององค์กรเพื่อการสร้างชาติ” (Wellness Corporate Nation-Building : Wellness CNB)

นักศึกษาหลักสูตรผู้นำการประกอบการ Wellness เพื่อการสร้างชาติ (นสช. Wellness) รุ่นที่ 2 สถาบันการสร้างชาติ จัดพิธีมอบรางวัลให้แก่องค์กรต้นแบบด้านสุขสภาพ (Wellness) หรือ Wellness CNB