ยกย่องสตรีนักธุรกิจอนุรักษ์โลกตัวอย่าง

สหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) ริเริ่มจัดพิธีประกาศเกียรติคุณรางวัลสหพันธ์ฯ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกย่อง เชิดชู สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นต่อไป และเป็นแรงบันดาลใจแก่สตรีผู้ประกอบธุรกิจและนักวิชาชีพรุ่นใหม่  

ปีนี้ สหพันธ์ฯ จัดพิธี ประกาศเกียรติคุณรางวัลสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประจำปี 2566”ขึ้น พร้อมจัดเวทีเสวนาโดยผู้ได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง ในหัวข้อ Go “Green” Business for Sustainable Environmental Goals”  เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน  โดย นายจุติ ไกรฤกษ์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย  นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวฐิตินันท์  วัธนเวคิน  รองประธานสหพันธ์ฯ และประธานดำเนินงานโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน 6 ภาคีณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ เมื่อวันก่อน  

คุณหญิงณัฐิกา  วัธนเวคิน  อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า พิธีประกาศรางวัลเกียรติคุณนักธุรกิจสตรีฯ  เป็นพันธกิจหลักของสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยฯ ที่จัดขึ้น เพื่อยกย่อง เชิดชู สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่ประสบความสำเร็จให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นต่อไป และเป็นแรงบันดาลใจแก่สตรีผู้ประกอบธุรกิจและ นักวิชาชีพรุ่นใหม่ให้เกิดความตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ในการสร้างสรรค์พัฒนาธุรกิจและวิชาชีพให้มีวิวัฒนาการควบคู่ไปกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม  โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อการอนุรักษ์โลก   ส่งผลเชิงรุกต่อความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติ   การอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคมที่เข้มแข็ง มีความเสมอภาคกับทุกเพศ ทุกวัย ทุกฐานะชนชั้น  และดำรงชีวิตอย่าง มีคุณภาพในสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวย ทั้งด้านการศึกษา และสาธารณสุข เป็นต้น 

คุณหญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล กล่าวว่า การจัดงานปีนี้ให้ความสำคัญแก่สตรีผู้ประกอบการและนักวิชาชีพหลากหลายคุณวุฒิและวัยวุฒิ  ประกอบด้วยสตรี 3 ช่วงวัย คือ วัยก้าวหน้า เป็นวัยแห่งการศึกษา เรียนรู้วิทยาการสิ่งใหม่ๆ วัยพัฒนา ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานก่อร่าง สร้างความมั่งคั่งและมั่นคงในชีวิต วัยวัฒนาเป็นผู้อาวุโส สร้างคุณค่าแก่องค์กรด้วยประสบการณ์และมันสมอง   ปีนี้เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่วงวัยมากขึ้น ได้เพิ่มรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า ประจำปี 2566 เป็นกำลังใจให้แก่สตรีนักธุรกิจและนักวิชาชีพที่สร้างคุณานุประโยชน์ให้แก่องค์กรและสังคมมายาวนาน  โดยผู้ได้รับรางวัลมีอายุ 75 ปีขึ้นไป ร่างกายแข็งแรงและทำงานเพื่อคุณประโยชน์ต่อสังคมต่อเนื่อง

ปี 2566 มีสตรีที่คว้ารางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีตัวอย่างผู้ทรงคุณค่า 58 คน จากสาขาต่างๆ ได้แก่ นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 4 คน  อาทิ นางสุนันทา สมบุญธรรม, นางพรรณี รุจิพรรณ นักธุรกิจสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 18 คน อาทิ     พญ.อภิญญา สัชฌะไชย   นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับประเทศ 3 คน อาทิ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ นักวิชาชีพสตรีตัวอย่างระดับจังหวัด 16 คน อาทิ ดร.พรภัทรา จำเริญ  นักธุรกิจสตรีตัวอย่างทรงคุณค่าระดับประเทศ 1 คน ได้แก่ นางจรรย์สมร วัธนเวคิน นักธุรกิจสตรีตัวอย่างทรงคุณค่าระดับภาค 4 คน อาทิ นางประณีต ดิษยศริน นักธุรกิจสตรีวัยก้าวหน้าตัวอย่าง 3 คน อาทิ นางสาวกุลชญา วรพิรางกูร   

ส่วนนักธุรกิจสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง  นางสาวพรรณราย พหลโยธิน  และ นางวีณา ศรีสรรพางค์ นักวิชาชีพอนุรักษ์โลกตัวอย่าง รศ.ดร.คนึงนิจ  ศรีบัวเอี่ยม  กรรมการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และ ศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ นักวิทยาศาสตร์ไทยคนแรกที่เดินทางไปศึกษา สำรวจ ทวีปแอนตาร์กติก มีผลงานดีเด่นด้านขยะทะเลและไมโครพลาสติก

ภายในงานเปิดเวทีให้ผู้ได้รับรางวัลนักธุรกิจสตรีและนักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง นำโดย กอบกาญจน์  วัฒนวรางกูร,  ลลนา  ศรีคราม, ศ.ดร.สุชนา ชวนิตย์, ดร.อมรวรรณ เรศานนท์  และเกศรา มัญชุศรี ร่วมพูดคุยเรื่อง Go “Green” Business for Sustainable Environmental Goals” สร้างความตระหนักการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และสร้างแรงบันดาลใจพัฒนาองค์กรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 

ดร.อมรวรรณ เรศานนท์  นักวิชาชีพสตรีอนุรักษ์โลกตัวอย่าง ปี 2559 กล่าวว่า ทั่วโลกหันหน้าจับมือกัน ลดผลกระทบ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการค้าระหว่างประเทศ ยุโรปเริ่มมาตรการคาร์บอนเครดิต เน้นสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม บริษัทต้องจัดทำรายงานปลดปล่อยคาร์บอน ส่วนไทยติดอันดับ 6 การทิ้งขยะพลาสติกลงสู่ทะเล และติด  1 ใน 25 ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ ปัจจุบันไทยปล่อยก๊าซคาร์บอน 400 ล้านตันต่อปี  หากไม่ทำอะไรเลย อุณหภูมิโลกจะร้อนขึ้น ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น น้ำจะท่วมเมือง ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันอนุรักษษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะธุรกิจและอุตสาหกรรมไทย ต้องช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ฝากเจนเนอเรชั่นนักธุรกิจรุ่นต่อไป

ด้าน เกศรา มัญชุศรี กรรมการสมาคมโซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญมลพิษพลาสติก ซึ่งองค์การสหประชาติรณรงค์ Beat Plastic Pullution ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิ.ย. 2566  ก่อนโควิดปัญหาพลาสติกลดลง เราเริ่มใช้ถุงผ้า เลิกใช้ถุงพลาสติกหรือใช้พลาสติกย่อยสลายได้แทน ด้านผู้ประกอบการมีมาตรการจูงใจไม่รับถุง สะสมคะแนนบัตร ซึ่งการรณรงค์ต่างๆ มีผล ตอนนี้ผู้บริโภคใช้ถุงผ้าเยอะมาก แต่การแก้มลพิษพลาสติก ยังครอบคลุมบรรจุภัณฑ์ทดแทนพลาสติก และอุตสาหกรรมเกษตรทีาใช้พลาสติกในกระบวนการผลิต ความท้าทายทั่วโลกขณะนี้ทำอย่างไรจะมีเทคโนโลยีใหม่ลดใช้พลาสติกให้น้อยลง  ส่วนประเทศไทยปัจจุบันผู้บริโภคเกิดความตระหนักมากขึ้น แต่ควรพุ่งเป้าไปที่กลุ่มอุตสาหกรรมลดการใช้พลาสติก  รวมถึงการนำขยะพลาสติกมารีไซเคิลเพิ่มขึ้น จากข้อมูลพลาสติกทั่วโลกได้รับกสรรีไซเคิลเพียงร้อยละ 9  อีกร้อยละ 40 ปนเปื้อนกับขยะ ทั่วไป จะแก้ปัญหาอย่างไร โดยเฉพาะมลพิษพลาสติกในทะเล เมื่อสัตว์น้ำกินเข้าไป ผู้บริโภครับประทานอาหารทะเล เกิดอันตรายต่อชีวิต และไม่ปลอดภัยต่อระบบนิเวศ แม้นักธุรกิจบ้านเราตระหนักเรื่องนี้ แต่ยังลงมือทำยังไม่เพียงพอ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ทดแทนพลาสติกหรือทำให้พลาสติกย่อยสลายง่ายยิ่งขึ้น นี่คือความท้าทาย นอกเหนือการใช้พลาสติกให้น้อยลง

นอกจากมอบรางวัลทรงคุณค่า ปีนี้สหพันธ์ฯ ขยายผลการดำเนินโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงินผ่านสมาคมสมาชิก 23 จังหวัดจาก 4 ภูมิภาค   จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างสหพันธ์ฯ กับสมาคมสมาชิก เป็นครั้งที่ 2 ผลักดันให้โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงินมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มุ่งขยายผลไปยังชุมชนในวงกว้างยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันจัดพิธีมอบรางวัลเกียรติคุณต้นแบบความยั่งยืนในโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน ปีที่ 4 แสดงถึงความมุ่งมั่นการดำเนินกิจกรรม สอดประสานรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในการเสริมสร้างมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น และยกย่องเชิดชูองค์กรและบุคคลที่มีส่วนร่วมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงินให้สำเร็จเป็นรูปธรรม และทุกภาคส่วนทั้งเวทีระดับประเทศและสากลยอมรับอีกด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยกย่อง 90 ต้นแบบ 'สยามพัสตรา ภูษาสง่าศิลป์'

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงพระวิริยะอุตสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจยาวนานกว่า 6  ทศวรรษ ในการส่งเสริมและพัฒนาผ้าไทยสิ่งทอของจากภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกือบสูญหายให้กลับมาเป็นอาภรณ์อันทรงคุณค่า เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่คนไทยและคนทั่วโลกยอมรับ