
24 ต.ค. 2566- นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (สซ.) ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าโครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องใหม่ระดับพลังงาน 3 พันล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (GeV) ซึ่งจะเป็นเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องที่ 2 ของประเทศไทย ที่จะตั้งอยู่ในพื้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) จ.ระยอง ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางวิจัยด้านเทคโนโลยีซินโครตรอนชั้นแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในอนาคต ปัจจุบันสถานะโครงการอยู่ในระหว่างการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณ และคาดว่าจะเปิดให้บริการแสงซินโครตรอนให้แก่ภาครัฐและเอกชนได้ภายในปี พ.ศ.2577
รมว.อว. กล่าวต่อว่า ประโยชน์ที่ประเทศจะได้รับจากการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องที่ 2 คือ ผลงานจากการใช้ประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นครอบคลุมในหลากหลายด้าน เช่น นวัตกรรมการเกษตร อาหารและสมุนไพร สิ่งแวดล้อม พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทน อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ชีวการแพทย์ เวชสำอางและสุขภาพ มรดกทางวัฒนธรรมและโบราณคดี เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ วัสดุสำหรับการบินและอวกาศ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของประเทศสามารถวิจัยได้เชิงลึกและหลากหลายมากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องแรกที่มีระดับพลังงาน 1.2 GeV ซึ่งตั้งอยู่ จ.นครราชสีมา

นางสาวศุภมาส กล่าวอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้นประโยชน์อีกด้านของการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องใหม่ คือการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ทางวิศวกรรมให้แก่ผู้ผลิตภายในประเทศ ยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยสู่การผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและลดการนำเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนเครื่องใหม่ผลิตภายในประเทศถึง 50% และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมใหม่กว่า 57,000 ล้านบาท โดยคนไทยสามารถซ่อมบำรุงและพัฒนาเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนในอนาคตได้อย่างยั่งยืน และจะเกิดระบบนิเวศทางวิจัยและนวัตกรรม มีการขยายผลจากอุตสาหกรรมเดิม รองรับอุตสาหกรรมใหม่ สร้างอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมและเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์สังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
“โครงการดังกล่าวตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมถึงเป้าหมายในการพัฒนาประเทศและสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งด้านการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ขั้นสูง พัฒนาบุคลากรในประเทศไทย สร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจแบบดั้งเดิมให้เป็นเศรษฐกิจฐานวิจัยและนวัตกรรม สร้างความมั่นคงและศักยภาพในการพึ่งพาตนเอง สร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาคอุตสาหกรรม และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพื่อพัฒนาประเทศตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ได้ในที่สุด”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กองทุนพัฒนาสื่อฯ ก้าวสู่ปีที่ 11 อย่างยั่งยืน เปิดงาน STEPPING INTO YEAR 11: Beyond Sustainability โชว์ผลงานสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
นางสาว ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน STEPPING INTO YEAR 11: Beyond Sustainability
ตั้งศูนย์ประสานงานเพิ่มอีก นายกฯ มอบ 'ศุภมาส' รับผิดชอบสื่อสารข้อมูลอุทกภัยภาคใต้
“อนุทิน” สั่ง “ศุภมาส” เดินหน้าศูนย์สื่ออุทกภัย เปิด ONE PAGE INFOGRAPHIC รวมข้อมูลชุดเดียวให้สื่อใช้ ลดข่าวปลอมช่วงวิกฤติใต้ พร้อมจัดทำ Press Release รายวัน
'ศุภมาส' สั่งปรับผังสื่อรัฐ เกาะติดน้ำท่วมภาคใต้แบบเรียลไทม์ หลังประกาศ พรก.ฉุกเฉิน
น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างว่า ขณะนี้รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่เสี่ยง หลังคณะรัฐมนตรีมีมติให้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉิน
จุฬาฯ-PMCU-เอไอเอส-ช่อง 7HD ร่วมเปิดพื้นที่ AIS SIAM จัดกิจกรรม ‘สยามน้อมอาลัย ด้วยหัวใจที่เท่าเทียม’ เนื่องในวันคนพิการแห่งชาติ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ (PMCU) บริษัท แอดวานซ์อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส และช่อง 7HD ขอแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรของแผ่นดิน


