4 ม.ค.2567 - นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้จัดทำโครงการตรวจสารพันธุกรรมเพื่อการแก้ไขปัญหาสถานะและสิทธิของคนไทยที่ตกหล่นทางทะเบียนราษฎร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือคนไทยที่ยังไม่มีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) และขาดพยานหลักฐานสำคัญที่จะพิสูจน์สถานะบุคคลและสัญชาติให้มีหลักฐานในการแจ้งการเกิดเกินกำหนด หรือขอเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้าน หรือรวมทั้งกรณีขอเปลี่ยนแปลงสถานะบุคคลจากคนที่มีรายการในทะเบียนราษฎรระบุไม่ได้สัญชาติไทยเป็นคนสัญชาติไทย ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ
นายคารม กล่าวว่า สำนักทะเบียนอำเภอและสำนักทะเบียนท้องถิ่น จัดให้มีการยื่นคำร้องการแจ้งการเกิด การเพิ่มชื่อ การขอลงรายการสัญชาติไทยหรือขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงสถานะทางทะเบียนให้เป็นผู้มีสัญชาติไทย โดยสำนักทะเบียนกลางจะเปิดระบบโปรแกรมตรวจสารพันธุกรรม ให้เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ซึ่งบุคคลที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
.1. ประเภทของบุคคลที่เข้าร่วมโครงการฯ 1) บุคคลที่อ้างว่าเป็นคนไทยที่ยื่นคำร้องขอแจ้งการเกิดเกินกำหนดหรือขอเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) 2) ชาวเขาและบุคคลบนพื้นที่สูงที่ยื่นคำขอลงรายการสัญชาติไทย 3) บุคคลที่ยื่นคำร้องขอเปลี่ยนแปลงสถานะในเอกสารทะเบียนราษฎรจากคนที่ไม่มีสัญชาติไทยเป็นผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิด โดยผลของกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ
2. ต้องเป็นผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากจน หรือผู้ยากไร้ และมีบิดา มารดา หรือญาติร่วมสายโลหิตที่มีชื่อและรายการบุคคลในทะเบียนบ้าน (ท.ร. 14) ระบุสัญชาติไทย ซึ่งสามารถตรวจพิสูจน์สารพันธุกรรมเพื่อการมีสัญชาติไทยได้
3. บุคคลที่มีปัญหาสถานะทางทะเบียนราษฎร และบุคคลที่เป็นคู่ตรวจอ้างอิงต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขการตรวจหาความสัมพันธ์ทางสายโลหิตของหน่วยบริการตรวจสารพันธุกรรม หรือหน่วยให้บริการตรวจสารพันธุกรรมสามารถตรวจหาความสัมพันธ์ทางสายโลหิตได้
ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถดูที่เว็บไซต์ www.dopa.go.th หรือ โทร. 02-226-2810
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลเร่งล้างภาพแรงงานเด็ก-แรงงานบังคับ หวังปลดล็อกบัญชีเฝ้าระวังสหรัฐฯ
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงแรงงานเดินหน้าเร่งขับเคลื่อนการขจัดการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับเป็นภารกิจสำคัญของประเทศ
รัฐบาลคุมเข้มปล่อยบั้งไฟใกล้สนามบิน ฝ่าฝืนโทษหนักจำคุก 5 ปี
รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม สั่งเข้มมาตรการปล่อยบั้งไฟในช่วงเทศกาลบุญบั้งไฟ ห้ามจุดใกล้สนามบินเด็ดขาด พร้อมกำชับขออนุญาตล่วงหน้า หากฝ่าฝืนโทษหนักทั้งจำทั้งปรับสูงสุดถึง 5 ปี หรือ 2 แสนบาท เพื่อความปลอดภัยนักบินและประชาชนเป็นหลัก
จ่ายแล้วกว่า 38 ล้าน เยียวยาตึกสตง.ถล่ม
ก.แรงงาน จ่ายเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุตึกสตง.ถล่มแล้วกว่า 38 ล้านบาท ย้ำดูแลผู้บาดเจ็บจนจบการรักษา
'คารม' ไม่ซ้ำเติมอดีตเพื่อนร่วมพรรค โดนข้อกล่าวหาร้ายแรง บอกตัดสินใจอะไรต้องรอบคอบ
'คารม พลพรกลาง' อดีต สส. พรรคก้าวไกล ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย เห็นใจอดีตเพื่อนร่วมพรรค 44 สส. ถูก ป.ป.ช. เรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีแก้ไขมาตรา 112 ย้ำไม่ขอซ้ำเติม
‘คารม’ ย้ำ ‘อนุทิน’ พร้อมดำเนินการตัดไฟ หากมีคำสั่งจากฝ่ายความมั่นคง
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจ
รัฐบาลย้ำเตือนระวังมิจฉาหลอกให้โหลดฟรี อาจสูญเงินหมดบัญชี
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำเตือนประชาชนช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพแฝงตัว เข้ามาฉวยโอกาสหลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้สูญ


