
“โลกปัจจุบันที่ความเป็นเมืองและการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้และทักษะใหม่ๆ แก่ประชาชน ให้สามารถปรับตัวเข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ …”
ในโอกาสที่สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ครบรอบ 20ปี และได้จัดงาน”20 Years of Thailand Knowledge Creation: Past and Future” โดยฉายภาพความสำเร็จ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต จากการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้
คราวเดียวกันนี้ ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ OKMD เปิดเผยว่า การจัดงาน 20 Years of Thailand Knowledge Creation : Past and Future ในครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการดําเนินงานของ OKMD ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อให้สาธารณชนได้เห็นถึงความสําคัญของการพัฒนาองค์ความรู้และประโยชน์ที่จะได้รับจากการบริการความรู้ในกิจกรรมองค์ความรู้ต่างๆ ของ OKMD ที่สำคัญ OKMD ยังมีโครงการที่จะเปิดตัวศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ (OKMD National Knowledge Center : NKC) ณ บริเวณ ถ.ราชดําเนิน กรุงเทพฯ ภายในปี 2570 ซึ่งศูนย์แห่งนี้จะเป็น “ต้นแบบแหล่งเรียนรู้สาธารณะ” ที่ให้บริการความรู้หลากหลาย ครบวงจร ทันสมัย ขนาดใหญ่แห่งใหม่ของประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าใช้บริการความรู้และร่วมกิจกรรมในพื้นที่ ไม่น้อยกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี รวมถึงการเข้าใช้บริการการเรียนรู้ออนไลน์ไม่น้อยกว่า100 ล้านคน/ครั้งต่อปี

ที่มาของโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ ดร.ทวารัฐ กล่าวว่า เกิดขึ้นจาก การมองเห็นว่าในโลกปัจจุบันที่ความเป็นเมืองและการแข่งขันทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การให้ความรู้และทักษะใหม่ๆ แก่ประชาชน ให้สามารถปรับตัวเข้ากับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ การพัฒนาศักยภาพและยกระดับความเป็นอยู่ของคนในเมือง ผ่านกิจกรรมของแหล่งเรียนรู้สาธารณะสมัยใหม่ จึงเป็นสิ่งที่รัฐบาลในทุกประเทศให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พัฒนาความรู้สร้างแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์หรือการจัดกิจกรรมกระตุ้นความสนใจเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ที่ตั้งของโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติฯ ซึ่งอยู่บนถนนราชดำเนินกลาง ซึ่งเคยเป็นที่ทำการเดิมของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 5 ไร่ และอาคาร 7 ซึ่งเป็นอาคารอนุรักษ์ซึ่งอยู่ติดกัน
” OKMD เล็งเห็นความสำคัญและตระหนักถึงคุณค่าของถนนราชดำเนินที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ จึงเห็นควรจัดทำโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติที่นี่และพัฒนาถนนสายนี้ให้เป็นย่านการเรียนรู้สร้างสรรค์(Creative Learning District) ที่สำคัญสำหรับประเทศไทย เพราะเป็นจุดที่รายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ในด้านต่างๆ จำนวนมาก และมีย่านชุมชนเก่า ที่มีผู้คนอาศัย เราจะทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและชุมชนต่างๆ ในการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งถือว่าเป็นการฟื้นฟูพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ให้กลับมามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง (Urban Revitalization)”ผอ.OKMD กล่าว

ภายในศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติ มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 20,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 4 ส่วนสำคัญ ได้แก่ 1 พื้นที่ห้องสมุดมีชีวิต (Living Library) ที่รวบรวมและเชื่อมโยงความรู้ที่จำเป็นจากทั่วทุกมุมโลก พร้อมกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ เพื่อส่งเสริมการอ่าน กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และปลูกฝังอุปนิสัยรักการเรียนรู้ประกอบด้วยพื้นที่ชั้นวางและเก็บหนังสือและ Library of Things พื้นที่บริการสื่ออิเล็กทรอนิกส์พื้นที่อ่านหนังสือและห้องประชุมขนาดเล็ก พื้นที่ห้องสมุดเด็ก/พื้นที่ครอบครัว พื้นที่ทำงานอิสระ (Co-working Space) พื้นที่ Interactive Virtual Space (Metaverse) และ e-Sport และพื้นที่เรียนรู้สำหรับผู้บกพร่องทางร่างกาย (Leaning Space for People with Disabilities)
2 พื้นที่เรียนรู้และพัฒนาทักษะ (Learning Space) แห่งอนาคต เพื่อยกระดับศักยภาพในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง สร้างแรงบันดาลใจ ค้นพบศักยภาพ และสร้างสรรค์นวัตกรรมในหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วยพื้นที่อเนกประสงค์เพื่อการเรียนรู้พื้นที่ปฏิบัติการทางนวัตกรรม (Fab Lab) พื้นที่ปฏิบัติการด้านงานฝีมือ (Craft and Lifestyle Workshop) พื้นที่ปฏิบัติการด้านสื่อ (Digital Media Center) และพื้นที่ปฏิบัติการสำหรับเด็ก (Kid’s Maker Space)
3. พื้นที่เพื่อการแสดงออก (Expression Space) แบ่งออกเป็นพื้นที่อเนกประสงค์และพื้นที่แสดงออกเฉพาะด้าน ประกอบด้วย หอประชุมอเนกประสงค์(Auditorium) ขนาด 300-350 ที่นั่ง และเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ และ4 .พื้นที่บริการวิชาการ และพื้นที่สำนักงาน ทั้ง OKMD และบางส่วนของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ(NDMI)
แนวทางการจัดการความรู้ในศูนย์การเรียนรู้ฯ แน่นอนว่า OKMD ได้เน้นให้พัฒนาเป็นพื้นที่การเรียนรู้รูปแบบใหม่ ขเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคนไทยให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ เตรียมความพร้อมการเข้าสู่การเป็นพลเมืองของโลก (Global Citizen) ในศตวรรษที่ 21 โดยศูนย์การเรียนรู้แห่งชาติฯ จะมีบทบาทสำคัญ 4 ด้าน ดังนี้

1. การเป็นต้นแบบแหล่งเรียนรู้สาธารณะรูปแบบใหม่ของประเทศ (Knowledge Center Phototype)เป็นแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายและทันสมัย พร้อมกิจกรรมและสื่อการเรียนรู้ในหลากหลายรูปแบบ2.ส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่ออนาคต (Future Skills) ควบคู่ไปกับการพัฒนา Soft Skills ต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) การฝึกอบรมเพื่อพัฒนา (Boot Camp) การบ่มเพาะทักษะความชำนาญ (Incubating) และการประดิษฐ์และสร้างสรรค์นวัตกรรมในพื้นที่ FabLab ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจการสร้่งนวัตกรรม 3.ขณะเดียวกันก็ให้ความสำคัญกับ ภูมิปัญญาท้องถิ่น (Local Wisdoms) โดยพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทยที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เพื่อสร้างให้เกิดคุณค่าทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และ 4.การให้องค์ความรู้อื่นๆ ที่สำคัญ อาทิแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก และโอกาสในการพัฒนาทักษะความรู้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ทักษะความรู้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์(Adaptability) การมีทัศนคติแบบสากล (Global Mindset) หรือมองตัวเองเป็นพลเมืองโลก(Global Citizen) ที่รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก สามารถปรับตัวและแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน (Adaptable and Resilient)

นอกจากนี้ ยังมีทักษะความรู้อื่นๆ เช่น การรู้เท่าทันดิจิทัล (Digital Literacy)และการรู้เท่าทันสื่อสมัยใหม่ (Media Literacy) รวมทั้งการจัดทำข้อมูลและดัชนีชี้วัดด้านการเรียนรู้ของคนไทย และการจัดทำฐานข้อมูลด้านแหล่งเรียนรู้ของประเทศไทย เป็นต้น
“เราคาดหวังว่าศูนย์การเรียนรู้ฯ จะเป็นศูนย์กลางแห่งความรู้(Knowledge Hub) ที่สำคัญของประเทศ พื้นที่ขนาด 5 ไร่ และอาคาร 7 ที่อยู่ติดกัน บนถนนราชดำเนินกลาง เป็นพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมที่จะพัฒนาให้เป็นศูนย์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ เพราะมีการคมนาคมที่สะดวก เป็นที่ตั้งของโบราณสถาน มีอาคารอนุรักษ์และพื้นที่เรียนรู้ในรูปแบบต่างๆ มากมาย ทั้งในด้านสถาปัตยกรรมประติมากรรม จิตรกรรม และประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ จึงสามารถพัฒนาให้เป็นได้ทั้ง Knowledge Hub ไปพร้อมๆกับการเป็นย่านการเรียนรู้(Learning District) ที่จะเป็นหมุดหมายใหม่ของการท่องเที่ยว เชิงการเรียนรู้สามารถเชื่อมโยงประวัติศาสตร์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทยในอดีต เข้ากับความรู้และเทคโนโลยีสมัยใหม่ “

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
DAD ผนึก OKMD สร้างต้นแบบความร่วมมือการจัดการองค์ความรู้ภาครัฐ
วันที่ 22 เมษายน 2568 ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด หรือ DAD Asset Development
OKMD จับมือ CMDF และภาคีเครือข่าย จัดโครงการ Fin Lab ปลูกฝังเยาวชนไทย “หา-ใช้-ออม-ลงทุน-ปกป้อง” ต่อยอดสู่โมเดลธุรกิจเพื่อสังคม
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ร่วมกับกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
OKMD จับมือภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมค่ายบ่มเพาะเชิงลึก สร้างทักษะการเงินให้เยาวชนไทย
สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD ร่วมกับกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมค่ายบ่มเพาะเชิงลึก (Bootcamp)
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ผุด READ Café สร้างพื้นที่สาธารณะส่งเสริมคนไทยรักการอ่าน
DAD ผนึก 2 หน่วยงาน OKMD – บางจาก เปิดพื้นที่อาคารจอดรถ D ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ผุดพื้นที่ส่งเสริมการอ่าน READ Café
ธพส. ผนึก OKMD เปิดพื้นที่ส่งเสริมการอ่าน ปั้นโมเดล Read Café แห่งแรกในประเทศไทย
ธพส. จับมือ OKMD ร่วมส่งเสริมการอ่าน จัดพื้นที่อาคารจอดรถ D (DEPOT) ภายในศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ ปั้นโมเดล Read Café


