
มิตรภาพประเทศไทยกับประเทศสิงคโปร์มีมายาวนาน มีโอกาสบินข้ามฟ้าไปหาเมอร์ไลออนตามคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสิงคโปร์ในปี 2568 ในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 จากสถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 13-14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
เปิดฉากวันแรกด้วยงาน 60 ปี แห่งการเดินทางร่วมกันของไทยและสิงคโปร์ “Celebrating 60 Years Shared Journey of Thailand and Singapore” นางอุรีรัชต์ เจริญโต เอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ เจ้าภาพจัดงาน เปิดสถานเอกอัครราชทูตฯ และทำเนียบฯ เลขที่ 370 บนถนนออร์ชาร์ด ถนนสายสำคัญของสิงคโปร์และศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจและการค้าขึ้นชื่อต้อนรับผู้มาเยือนอย่างอบอุ่นท่ามกลางบรรยากาศของวิถีวัฒนธรรมไทยที่มีเสน่ห์ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูง นักธุรกิจ และประชาชนทั้งสองประเทศ โอกาสนี้ นายลอย ฮุย เซียน อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ ร่วมงานในฐานะแขกเกียรติยศ

งานเฉลิมฉลองสะกดสายตาทุกคู่ด้วยการแสดงหุ่นละครเล็กจากโรงละครอักษรา สุดวิจิตรตระการตา เรื่องรามเกียรติ์ ตอน”ยกรบ” สนับสนุนโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ลีลาความเคลื่อนไหวของหุ่นเสมือนมีชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับผู้เชิด ซึ่งต้องใช้ผู้เชิดหุ่น 3 คนต่อหุ่นหนึ่งตัว ไม่เพียงสร้างความประทับใจให้แก้ผู้ชมเท่านั้น แต่สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าผ่านศิลปะการแสดงอันเป็นเอกลักษณ์ของไทย อีกทั้งได้ดื่มด่ำรูปภาพศิลปะไทย ภาพถ่ายประวัติศาสตร์การเสด็จประพาสสิงคโปร์ของรัชกาลที่ 4 5 6 7 และรัชกาลที่ 9 ภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่พระนารายณ์ทรงครุฑ สัญลักษณ์สื่อถึงพระมหากษัตริย์เสด็จฯ ไปยังสถานที่ต่างๆ รังสรรค์โดยปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติผู้เลื่องชื่อ ทั้งยังมีภาพอื่นๆ อีกมากที่ประดับตกแต่งภายใน ตลอดจนศาลาไทยทรงจตุรมุขงามสง่าตามสถาปัตยกรรมไทยขั้นสูงสุดในพื้นที่แห่งนี้

เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ฯ เน้นย้ำถึงความร่วมมือที่แข็งแกร่งของไทยและสิงคโปร์ในทุกมิติ“แม้ความสัมพันธ์ทางการทูตของเราจะมีอายุเพียง 60 ปี แต่สายสัมพันธ์ของไทยและสิงคโปร์ยาวนานกว่านั้นมาก ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรม หรือระหว่างประชาชนกับประชาชน”
แม้ประเทศไทยและสิงคโปร์ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อปี พ.ศ. 2508 แต่เมื่อย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์จะพบว่า รากฐานความสัมพันธ์ไทยและสิงคโปร์ เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ นายตัน กิม เจ็ง ชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน
เป็นกงสุลใหญ่คนแรกของไทยประจำสิงคโปร์เมื่อปี พ.ศ. 2406
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จพระราชดำเนินเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ ปี พ.ศ. 2414 เป็นการเสด็จฯ ไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะกษัตริย์แห่งสยาม พร้อมพระราชทานช้างสำริดให้กับสิงคโปร์เพื่อเป็นการระลึกถึงและแสดงความขอบคุณต่อการต้อนรับอันอบอุ่น และทรงซื้อที่ดินพร้อมอาคาร Hurricane House โดยที่ดินแปลงดังกล่าวได้สืบทอดมาเป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตฯ ในปัจจุบัน ซึ่งล้อมรอบด้วยศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงแรมหรู ตึกสูงทันสมัย ส่วนประติมากรรมช้างสำริดสัญลักษณ์ความสัมพันธ์สองประเทศ ปัจจุบันตั้งโดดเด่นอยู่ที่ The Arts House อาคารรัฐสภาเก่า คนไทยนิยมแวะเวียนไปชมและถ่ายภาพย้อนความทรงจำ

ที่ดินผืนใหญ่ประมาณ 11 ไร่ ด้านหน้าติดถนนออร์ชาร์ดมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นที่ราชพัสดุซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงมีสายพระเนตรอันยาวไกล ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ซื้อไว้ โดยมีพระราชประสงค์ให้นำมาใช้เป็นสถานที่ราชการ รัฐบาลรักษาที่ดินผืนนี้อันเป็นมรดกตกทอดมาจากพระพุทธเจ้าหลวง แม้ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ถึง 8 บริษัท พยายามยื่นข้อเสนอขอซื้อหรือเช่าบริเวณที่ดินของสถานทูต โดยราคาสูงที่สุดที่มีผู้เสนอขณะนั้น คือ 1 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือ 23,000 ล้านบาทก็ตาม ถือเป็นสถานทูตไทยบนที่ดินที่แพงที่สุด ทุกวันนี้นอกจากเป็นที่ทำการ รับรองแขกแล้ว ยังเป็นพื้นที่จัดงานแสดงสินค้า งานไทยเฟส จัดนานากิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมส่งเสริมนโยบาย soft power ของรัฐบาลไทย

วันต่อมาหมุดหมายอยู่ที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุด Gardens by the Bay เป็นสวนพฤษศาสตร์ที่อลังการไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณ อีกแลนด์มาร์กของประเทศสิงคโปร์ เข้าร่วมงานเปิดงานแสดงดอกไม้ครั้งใหญ่ “Orchids from the Land of Smiles” นิทรรศการนี้เนรมิตรขึ้นใน Cloud Forest ในโอกาส 60 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ โดยมีนางอินดรานี ราชา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนที่สองของกระทรวงการคลังและกระทรวงการพัฒนาประเทศของสิงคโปร์เป็นแขกเกียรติยศ

เอกอัครราชทูตอุรีรัชต์ฯ กล่าวในพิธีเปิดงานซึ่งตรงกับวันวาไลน์ไทน์ว่า กล้วยไม้เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทยและสิงคโปร์ โดยประเทศไทยเป็นแหล่งกำเนิดของกล้วยไม้มากกว่า 1,000 สายพันธุ์ ในหลายวัฒนธรรม กล้วยไม้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ความสง่างาม ความแข็งแกร่ง และความมั่งคั่ง ทั้งยังเกี่ยวข้องกับความรัก สันติภาพ ความชื่นชม และความสำเร็จ ด้วยมีคุณลักษณะที่หลากหลาย สะท้อนถึงสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นสองประเทศ กล้วยไม้เติบโตได้ด้วยการดูแลเอาใจใส่ ความสัมพันธ์ไทย-สิงคโปร์ก็ได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตลอดจนความร่วมมือที่แน่นแฟ้นเป็นเวลากว่า 60 ปี วันนี้เรากำลังเก็บเกี่ยวผลแห่งมิตรภาพที่มั่นคงและความร่วมมือที่ก้าวหน้าในหลายมิติ
โอกาสพิเศษทูตไทยและรมว.อินดรานีฯ ร่วมกันปลูกกล้วยไม้สายพันธุ์ Paphiopedilum exul ที่พบได้เฉพาะบริเวณชายฝั่งตะวันออกของอ่าวภูเก็ตและกระบี่ทางภาคใต้ของไทย เป็นสัญลักษณ์มิตรภาพไทยเจริญงอกงามบนเกาะสิงคโปร์

เราเดินชมงานแสดงดอกไม้ด้วยความเพลิดเพลินและหลงไหลในความมหัศจรรย์ของกล้วยไม้ไทยที่นำมาจัดแสดงกว่า 60 สายพันธุ์ ภายใน Cloud Forest โดมกระจกขนาดยักษ์จำลองป่าใหญ่เขียวขจี มีหมอกระเรื่อๆ อากาศภายในเย็นสบาย กล้วยไม้ดอกสวยสีสันสดใสชวนให้เก็บภาพ เช็คอินแต่ละจุดกันสนุกสนาน แล้วยังมีกล้วยไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยต้องห้ามพลาด เช่น Rhyncholaeliocattleyaหรือที่เรียกชื่อสามัญว่า “Amazing Thailand” อยากรู้สวยแค่ไหนต้องมาชมให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้ง

งานแสดงดอกไม้ฉลอง 60 ปี การทูตไทย-สิงคโปร์ ได้จำลองวัดพระแก้วที่มีองค์ประกอบโดดเด่น เช่น ปราสาทพระเทพบิดร เจดีย์ทอง และยักษ์ทวารบาล ทูตไทยพาเดินชมบอกเป็นการเผยแพร่มรดกทางวัฒนธรรมไทยให้แก่ชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่มา Gardens by the Bay กระตุ้นให้เดินทางไปชมวัดพระแก้วภายในพระบรมมหาราชวัง ใจกลางกรุงเทพฯ นอกจากวัดสำคัญแล้ว ยังประกอบด้วยพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เป็นพระที่นั่งที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยแบบดั้งเดิมเข้ากับสถาปัตยกรรมยุโรปในศตวรรษที่ 19 ออกแบบและก่อสร้างโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ จอห์น คลูนิช ผู้ประจำอยู่ที่สิงคโปร์ในสมัย ร. 5 เป็นผลสืบเนื่องจากการเสด็จฯ สิงคโปร์ของพระองค์ครั้งแรก ระหว่างลัดเลาะชมสวนสวย โชว์ผลงานช่างฝีมือไทยถ่ายทอดเป็นประติมากรรมสำคัญ อาทิ ช้างเผือกทรงคชาภรณ์ พญานาคเจ็ดเศียร บันไดพญานาค และรูปปั้นช้างสัตว์ประจำชาติไทยจัดแสดงท่ามกลางพรรณไม้ สร้างความแปลกใหม่ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว

นิทรรศการนี้ไม่เพียงเป็นการจัดแสดงความงามกล้วยไม้ไทย แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและสิงคโปร์ ซึ่งหยั่งรากลึกและเติบโตอย่างมั่นคงตลอดหกทศวรรษ โดยนิทรรศการ “Orchids from the Land of Smiles” จะจัดแสดงต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2568 หลังจากเพลิดเพลินไปกับความงดงามกล้วยไม้ไทยแล้ว เราเข้าสู่ The Secret Gardan เป็นอีกการผจญภัย สำรวจพรรณไม้ที่หาชมได้ยากของโลก รวมถึงดอกไม้จิ๋วที่ต้องมองผ่านแว่นขยายถึงจะสัมผัสความงดงาม ก่อนเส้นทางจะพาไต่ระดับขึ้นด้านบนของโดม เราเดินเล่นบน CLOUD WALK ที่พาดผ่านแมกไม้ เห็นวิวอ่างเก็บน้ำมารีนาผ่านเรือนกระจกแก้วจนมาพบกับจุดวิวน้ำตกสวยๆ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

พิกัดต่อมาที่ Gardens by the Bay เป็น Flower Dome เรือนกระจกแก้วที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากดอกไม้ทั่วโลกที่จัดแสดงส่งกลิ่นหอม ช่วงที่ไปจัดกิจกรรมพิเศษชื่อ “Spring Blossoms Legend of Lady White Snake “ โดดเด่นด้วยการจัดสวนดอกไม้บานสะพรั่งด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมแดนมังกร มีประติมากรรมดอกไม้รูป”นางพญาผมขาว” ที่คนทั่วโลกรู้จักผ่านหนังหรือซีรี่ส์ ซึ่งมาจากตำนานโศกนาฏกรรมความรักจากโลกตะวันออก ซึ่งประจวบเหมาะกับการฉลองตรุษจีน ก่อนจะไปชมสวนต่างๆ ที่ดึงดูดใจไม่แพ้กัน มีประติมากรรมจากศิลปินทั่วโลกจัดแสดงกลมกลืนกับสวน ให้มาถ่ายรูปกันได้ด้วย ถ้าดูจากแผนที่สวนสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ตั้งแต่เช้า 9.00 น.- 21.00 น. สวนแห่งนี้จะสวยงามมากเป็นพิเศษยามค่ำคืน เมื่อต้นไม้ Supertrees สว่างไสวขึ้น ไว้โอกาสหน้ามาดูงานไฟกลางคืน ซึ่งแต่ละโซนจะมีค่าตั๋ว แนะนำให้วางแผนก่อนเที่ยว

เส้นทางสานสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์ ยังนำพาเรามาที่ Buddha Tooth Relic Temple and Museum ที่คนไทยนิยมเรียกชื่อนี้กันว่า “วัดพระเขี้ยวแก้ว” วัดใหญ่สวยงามใจกลางย่านไชน่าทาวน์ของประเทศเกาะแห่งนี้ ที่นี่เป็นวัดพุทธที่โด่งดังที่สุดในสิงคโปร์ เป็นที่กราบไหว้บูชาของชาวพุทธทั่วโลก มีผู้คนจำนวนมากขึ้นกราบสักการะไม่ขาดสายด้วยแรงศรัทธา นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตที่มีโอกาสมาสักการะพระเขี้ยวแก้วขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระอุโบสถประดิษฐานพระประธาน พระศรีอริยเมตไตรย องค์สูงใหญ่ดูสงบงามและน่าเลื่อมใสศรัทธา เราขอพรและทำบุญเสริมดวงชะตาตามความเชื่อ ภายในวัดติดแอร์เย็นกาย สสบใจ

เวลายังมีเราทอดน่องท่องย่านเก่าของชุมชนชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน เพลิดเพลินกับสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรียน ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้า ภัตตาคาร บ้านเก่าถูกสร้างขึ้นในสไตล์ชิโน-ยูโรเปียน คล้ายย่านเยาวราชของไทย แต่บ้านเมืองถนนหนทางสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ใกล้ๆ กันมี SRI MARIAMMAN TEMPLE หรือที่คนไทยเรียกวัดพระศรีมหาอุมาเทวีบ้าง วัดแขกบ้าง สถาปัตยกรรมสวยงามแบบโบสถ์พราหมณ์ สายมูพากันมาไหว้ขอพรพระแม่อุมาเทวี ขอให้สมหวัง ขอความรัก ขอเรื่องงาน ต่างบนบานตามความเชื่อ การโคจรมาเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้ไม่ลืมแวะไปเช็คอินเมอร์ไลออน ประติมากรรมสิงโตทะเลพ่นน้ำ สัญลักษณ์ประเทศสิงคโปร์อีกครั้งในรอบสิบกว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันเมอร์ไลออนก็ยังฮอต เป็นแลนด์มาร์คอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องเดินทางมาถ่ายรูปที่ระลึก

ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษที่ได้ตามรอยเส้นทางความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์ บันทึกการเดินทางครั้งนี้จะเพิ่มทางเลือกให้กับนักท่องเที่ยวไทยที่อยากไปสิงคโปร์ และเชื้อเชิญให้คนสิงคโปร์อยากแพ็คกระเป๋าไปเมืองไทยดินแดนแห่งรอยยิ้ม ที่ซึ่งธรรมชาติงดงาม วัฒนธรรมหลากหลาย และมีเทศกาลประเพณีสนุกสนานรอคอยการมาเยือนของทุกคน




ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โฉมหน้า 110 ผู้สร้างแรงบันดาลใจ
110 บุคคลที่ร่วมส่งเสริมการพัฒนาประชากรในมิติต่างๆ ช่วยเพิ่มโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดีขึ้นตบเท้าเข้ารับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติโครงการ “HER AWARDS, UNFPA THAILAND 2024 ประชากรหญิงผู้สร้างแรงบันดาลใจ “ เช่น สายสุนีย์ จ๊ะนะ
‘ภาษาไทย’มาแรงในเวียดนาม ต้นแบบความร่วมมือ 2 ประเทศ
พลังการลงทุนภาคธุรกิจไทยในเวียดนาม ซึ่งไทยเป็นนักลงทุนอันดับ 9 ของการลงทุนในเวียดนาม ผลักดันให้ ”ภาษาไทย” ขึ้นชาร์ทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ติด 1 ใน 5 ของภาษาที่มีคนเวียดนามเรียนและเติบโตอย่างรวดเร็ว จากรายงานของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ


