
โครงการค่ายเยาวชนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเพาเวอร์กรีน (Power Green Camp) จัดขึ้นโดยบริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ภายใต้แนวคิด “วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เรียนรู้สู่การปฏิบัติ” เพื่อปลูกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติแก่เยาวชนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4–6 พร้อมทั้งส่งเสริมให้สามารถนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ
ค่ายเพาเวอร์กรีนจัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 จึงได้จัดค่ายภายใต้ธีม “ดีค้าบ – The Decarb Mission” ซึ่งมุ่งเน้นเรื่อง Decarbonization หรือการลดการปล่อยคาร์บอน ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อน อันเกิดจากกิจกรรมการผลิตและบริโภคที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่น ๆ สู่ชั้นบรรยากาศ
แนวทาง Decarbonization มีเป้าหมายเพื่อลดการสะสมของก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิที่แปรปรวน ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น และความเสียหายต่อระบบนิเวศ จึงถือเป็นแนวทางสำคัญในการบรรเทาผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งเป็นการจุดพลังคนรุ่นใหม่ให้ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ในการลดโลกร้อนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

สินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบัน เทรนด์ด้านพลังงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ Energy Symphonics ที่เชื่อว่าการสร้างสมดุลทางพลังงาน คือแนวทางสำคัญในการบริหารจัดการพลังงานของโลก และเป็นกุญแจสู่การผลักดัน สังคมคาร์บอนต่ำ ให้เกิดขึ้นจริง ที่ผ่านมา ได้มีการผลักดันแนวทาง Decarbonization หรือการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในธุรกิจอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้เทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน การพัฒนาพลังงานหมุนเวียนร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (แบตเตอรี่) และการส่งเสริมการเดินทางด้วยยานยนต์ไฟฟ้า โดยตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนลง 20% ภายในปี 2030 และมุ่งสู่การเป็น Net Zero ภายในปี 2050
“การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา รวมถึงคนรุ่นใหม่ ดังนั้นค่ายเพาเวอร์กรีน จึงยังคงจัดอย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ได้เพิ่มกิจกรรมพิเศษอย่าง ดีค้าบ เฟสติวัล (Decarb Festival) เพื่อจุดประกายพลังสร้างสรรค์ของเยาวชน ให้ใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาร่วมกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมเปิดเวทีให้ผู้มีความสนใจและหลงใหลในเรื่องสิ่งแวดล้อมได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ร่วมกัน” สินนท์ กล่าว

ด้าน ผศ. ดร.อิทธิโชติ จักรไพวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายกายภาพและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มลพิษ หรือการขยายตัวของเมือง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของทุกคน ม.มหิดล ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
ผศ. ดร.อิทธิโชติ กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ซึ่งเป็นคณะสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของประเทศไทย มุ่งเน้นการเรียนรู้แบบสหวิทยาการ ที่ผสานความรู้จากหลายด้านเข้าด้วยกัน หลักสูตรจึงได้ถูกออกแบบให้ไม่ใช่แค่มุ่งเน้นวิชาการ แต่ยังเน้นการปลูกฝังแนวคิดและจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ผ่านการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติจริง เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจปัญหา และพร้อมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีความรับผิดชอบ
ศิวัช แก้วเจริญ ผู้อำนวยการกองขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจก กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หรือกรมลดโลกร้อน กล่าวว่า ประเทศไทยได้เดินหน้าตาม แผนปฏิบัติการลดก๊าซเรือนกระจก ปี 2564–2573 (NDC Action Plan on Mitigation) ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2030 มุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ในปี 2050 และ Net Zero Emission ในปี 2065

“ทั้งนี้ ภาครัฐได้กำหนดแนวทางดำเนินงานชัดเจน ครอบคลุม 5 สาขาหลัก ได้แก่ พลังงาน คมนาคม ของเสียและน้ำเสีย กระบวนการอุตสาหกรรม และเกษตร พร้อมทั้งพัฒนาเครื่องมือและกลไกสนับสนุนการลดก๊าซเรือนกระจก แม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีและงบประมาณ แต่ กรมลดโลกร้อน ยังคงเดินหน้าสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน การศึกษา และภาคประชาสังคม โดยเฉพาะการส่งเสริมบทบาทของ เยาวชน ในฐานะพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและอนาคตสิ่งแวดล้อมของประเทศ” ศิวัช กล่าว
รัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ค่ายเพาเวอร์กรีนให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงที่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้รับความสนใจในวงกว้าง แนวคิดหลักของค่ายคือการนำวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมมาใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อให้น้อง ๆ เข้าใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ และสามารถนำความรู้ไปใช้แก้ไขปัญหาได้จริง

“โดยค่ายจะเน้นการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ ไม่ใช่แค่ทฤษฎีในห้องเรียน แต่น้อง ๆ จะได้ลงพื้นที่ สำรวจภาคสนาม และเรียนรู้จากชุมชนที่เผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมจริง หรือมีรูปแบบการจัดการที่ดี ซึ่งช่วยให้เกิดประสบการณ์ตรงและเข้าใจสถานการณ์สิ่งแวดล้อมในมิติต่าง ๆ และทุกปี ค่ายจะปรับเนื้อหาให้ทันกับเทรนด์ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมปรับวิธีการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับเยาวชนยุคใหม่มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เข้มข้นและมีคุณภาพ” รัฐพล กล่าว
รัฐพล กล่าวต่อว่า ในปีนี้เยาวชนเข้าร่วมในค่ายทั้งสิ้น 50 คน 45 โรงเรียน 28 จังหวัด จากผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 515 คนจาก 304 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยทุกคนจะได้รับการปูพื้นฐาน เรียนรู้ปัญหา เข้าใจสาเหตุและผลกระทบ รวมถึงแนวทางทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ที่คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.ลัยมหิดล ปัจจุบันเครือข่ายเยาวชนที่ผ่านการอบรมจากค่ายมีมากกว่า 1,200 คนทั่วประเทศ นับเป็นความสำเร็จในการสร้างพลังคนรุ่นใหม่ให้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บ้านปูQ3/68รายได้4.38หมื่นล.เดินหน้ากลยุทธ์ Energy Symphonics
บ้านปู โชว์ผลดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2568กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งมีรายได้กว่า4.38หมื่นล้าน มีกำไรสุทธิ33 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินหน้ากลยุทธ์ ‘Energy Symphonics’ เฟสใหม่ด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลักใหม่ มั่นใจเติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมเสนอแผนการปรับโครงสร้างที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านที่มั่นคงและยั่งยืน
บ้านปู ประกาศผล 3 ผู้ชนะกิจการเพื่อสังคม จุดไฟ SE รุ่นใหม่โตไปยั่งยืน
BC4C ปีที่ 14 มอบทุน 3 กิจการเพื่อสังคมรวม 750,000 บาท จุดไฟสร้างสรรค์ให้ “กลุ่มชาติพันธุ์ – ผู้พิการ – เกษตรอินทรีย์”
นักวิชาการแนะนายกฯ ตั้งคณะทำงานรับมือ MOUแร่แรร์เอิร์ธ
'นักวิชาการสิ่งแวดล้อม' แนะนายกฯ ตั้งคณะทำงานศึกษา-รับมือ เอ็มโอยูสหรัฐรุกไทยแร่หายาก ค้านตั้งเหมือง เต็มที่แค่ตั้งโรงงานสกัด เหตุเสี่ยงเจอมลพิษ สารปนเปื้อน กัมมันตภาพรังสี
ชำแหละ 4 ข้อ ไทยเสียเปรียบสหรัฐ MOU แร่หายาก
รุมจวก "MOU แรร์เอิร์ธ" ชี้ไทยเสียเปรียบเต็มประตูกลายเป็นเบี้ยล่างสหรัฐ สส.ปชน. เผย 4 ข้อถูกบีบ ขณะที่นักวิชาการเชื่อซ้ำเติมสถานการณ์สารพิษเหมืองแร่ลงแม่น้ำข้ามแดน
'TIPMSE'หนุนเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วเป็นวัตถุดิบสร้างมูลค่า-ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม
‘TIPMSE’ รวมพลังรวมพลังขับเคลื่อน การจัดการบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน ด้วยหลัก EPRเ ปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ ชู4กลยุทธ์ร่วมผลักดัน พัฒนากลไก EPR ระบบเก็บกลับ สร้างการมีส่วนร่วม และออกแบบเพื่อการรีไซเคิลตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนสร้างมูลค่าเพิ่ม
บ้านปูร่วมเสวนาประเด็นการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ในงาน TFAC’s Accounting Professions Summit 2025
ดร.กิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) (ลำดับที่ 2 จากขวา) ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ การประยุกต์ใช้แผนธุรกิจ ESG และ Sustainability การกำกับดูแล เพื่อความยั่งยืนและมูลค่าเพิ่มต่อองค์กร ภายในงาน TFAC’s Accounting Professions Summit 2025 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ จัดขึ้นโดยสภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในปัจจุบัน โดยมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายหน่วยงาน ทั้งผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี และผู้บริหารจากองค์กรภาครัฐและเอกชนกว่า 900 คน


