วันเดย์ทริป ‘คลองบางหลวง’ ตลาดริมน้ำฝั่งธนฯ

“คลองบางหลวง “หรือ “คลองบางกอกใหญ่” ในซอยเพชรเกษม 28 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ กำลังกลายเป็นชุมชนตลาดน้ำท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นและนักเดินทางต่างชาติ พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งชุมชนเก่าแก่ฝั่งธนบุรีมานานหลายร้อยปี อดีตเป็นที่อยู่อาศัยของข้าราชการ ขุนนาง และเหล่าข้าหลวง ที่มาตั้งรกราก ตั้งแต่ครั้งสร้างเมืองธนบุรี ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า คลองบางข้าหลวง ปัจจุบันเพี้ยนเป็นคลองบางหลวง หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า “ตลาดคลองบางหลวง” ด้วยเสน่ห์บรรยากาศริมฝั่งคลองที่ยังคงวิถีชุมชนดั้งเดิมตั้งแต่วัดกำแพงบางจากถึงวัดคูหาสวรรค์

แม้กาลเวลาจะผันเปลี่ยนการพัฒนาบ้านเมืองจะมีตึกสูงระฟ้า มีการคมนาคมที่ทันสมัย แต่เสน่ห์เก่าแก่เหล่านั้นยังคงหลงเหลืออยู่ที่ตลาดคลองบางหลวง ซึ่งได้ถูกเติมความสดใหม่ด้วยดีไซน์แลพไลฟ์สไตล์ร่วมสมัย ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหารเรือนริมน้ำ พื้นที่ทำงานศิลปะ และแกลเลอรี ที่แทรกตัวอยู่ในบ้านไม้อย่างกลมกลืน ทำให้ที่ชุมชนคลองบางหลวงมีชีวิตชีวาผสมผสานอดีตและปัจจุบันไว้อย่างลงตัว

และการเดินทางมาเที่ยวตลาดคลองบางหลวงง่ายและสะดวกแบบสุด ๆ เพียงนั่งรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีบางไผ่ จากนั้นจะเดินเท้าเข้าไปประมาณ 900 เมตร หรือเลือกนั่งวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้ตามสะดวก เหมาะมากสำหรับเที่ยวชิล ๆ เราจึงไม่พลาดจัดวันเดย์ทริปในกรุงเทพฯ  พอมาถึงสถานีบางไผ่ อากาศกำลังดี มีแดดอ่อน ๆ พัดลมเย็นตลอดทาง จึงตัดสินใจเดินเท้าเข้าไปยังชุมชน ระหว่างเดินรู้สึกเพลินไปกับบรรยากาศเช้าในเมือง ไม่ช้าก็มาถึงในตัวตลาด มาเช้าแบบนี้ถือว่าโชคดี เพราะนักท่องเที่ยวยังไม่มาก ร้านค้าต่างๆ ก็พร้อมต้อนรับอย่างอบอุ่น

เริ่มต้นทริปกันที่ท้ายคลอง ณ วัดคูหาสวรรค์วรวิหาร วัดที่มองเผิน ๆ อาจเหมือนวัดทั่วไป แต่แท้จริงคือประตูสู่ประวัติศาสตร์กรุงธนบุรี เพราะสร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แม้ไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้างเดิม แต่ชื่อเดิมวัดศาลาสี่หน้า และการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งทรงเปลี่ยนชื่อเป็นวัดคูหาสวรรค์ พร้อมสถาปนาเป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร ล้วนสะท้อนความสำคัญของวัดแห่งนี้อย่างชัดเจน

ภายในพื้นที่วัดมีพระอุโบสถและศาลาการเปรียญที่ได้รับการบูรณะอย่างประณีตตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 5 ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานองค์ใหม่แทนพระพุทธเทวปฏิมากรที่อัญเชิญไปวัดพระเชตุพนฯ ความงามของวัดยังปรากฏผ่านงานศิลปะหลายยุค ทั้งถ้วยชามเบญจรงค์ที่ประดับขอบประตู และบานหน้าต่างลายรดน้ำซึ่งสะท้อนศิลปะสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อเดินออกมายังริมคลอง ยังสามารถสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และขอพรพระพุทธเทวนฤมิตพิชิตมาร

เดินเข้ามาในซอยริมฝั่งคลอง สิ่งแรกที่ได้สัมผัสหรือบางคนอาจจะเคยเห็นผ่านละคร บนทางเดินเดินไม้ที่ถอดยาว คือรูปแบบบ้านเรือนริมฝั่งคลองที่ส่วนใหญ่จะก่อสร้างจากไม้บางหลังเป็นบ้านชั้นเดียว บางหลังสูง 2 ชั้น แต่แทบทุกหลังที่จะมีเหมือนกันคือ  ชานบ้าน ที่ยื่นออกจากมาตัวบ้านอีกที เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น ซักผ้า ล้างจาน ค้าขายหรือเป็นท่าเทียบเรือ

ที่นี่มีสะพานข้ามคลองประมาณ 2 จุดเพื่อความสะดวกในการสัญจร โดยสะพานแรกเชื่อมไปยังซอยจรัญสนิทวงศ์ 3 สามารถใช้ได้ทั้งคนเดินและรถจักรยานยนต์ จึงต้องระมัดระวังกันเล็กน้อย จากบนสะพานจะเห็นวิวสองฝั่งคลองบางหลวงอย่างสวยงาม ทั้งฝั่งทางวัดและฝั่งที่มีฉากหลังเป็นตึกสูงไกล ๆ สะท้อนภาพความวุ่นวายในเมองกรุงและบรรยากาศเรียบง่ายของชุมชนริมคลองได้อย่างดี บ้านหลายหลังปรับเป็นร้านค้าขายอาหารคาว–หวาน ภาพวาด ของที่ระลึก ทั้งกางเกงช้าง เสื้อ ขนมโบราณ และของแฮนด์เมดน่ารัก ๆ ตลอดทาง แวะทานอาหารเช้าที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก จานดารา ร้านเล็ก ๆ สไตล์เรียบง่ายที่ต้องลองมาลิ้มรส

เดินไปสักพักเริ่มสังเกตว่าร้านขายอาหารปลามีอยู่เต็มไปหมด จนอดใจไม่ไหว ต้องอุดหนุนสักหน่อยเพื่อให้อาหารปลา ปลาที่คลองบางหลวงมีเยอะจนแทบลายตา แต่ละตัวจ้ำม่ำและเนื้อแน่นมาก เดินมาถึง บ้านของเล่น ก็ต้องแวะถ่ายรูปทันที เพราะบนพื้นไม้ชานบ้านมีเพ้นท์รูปปลาน่ารัก ๆ ต้อนรับอยู่ ส่วนภายในบ้านก็เต็มไปด้วยของเล่นทั้งแบบโบราณและสมัยใหม่ให้เลือกช้อปแบบเพลินสุด ๆ

ต่อกันที่ บ้านศิลปิน บ้านไม้สองชั้นทรงมะนิลาของตระกูลรักสำรวจ อาคารเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรีที่ถูกต่อเติมมาเรื่อยตามยุคสมัย ปัจจุบันเปิดเป็นแกลเลอรี่เล็ก ๆ ขายของที่ระลึก พร้อมมุมทำงานศิลปะ ทั้งร้อยลูกปัด วาดภาพ ระบายสี และยังมีคาเฟ่ในตัวให้พักผ่อนด้วย ไฮไลท์ของบ้านศิลปินคือ เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางบ้าน เป็นเจดีย์เก่าแก่สมัยอยุธยา ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของวัดกำแพงบางจาก พื้นที่ย่านนี้มักเป็นที่ดินวัด เจดีย์จึงตั้งอยู่กลางบ้านเช่นนี้มานานโดยไม่มีใครคิดจะรื้อหรือย้าย บริเวณชานบ้านยังเป็นอีกมุมที่กลายเป็นภาพจำของคลองบางหลวง รูปปั้นสีแดงสดใส เป็นเด็กชายสวมแว่นดำยืนเท่ ๆ อยู่ริมคลอง และไม่ไกลกันก็มีรูปปั้นชายวัยกลางคนที่นั่งชิล ราวกับคอยต้อนรับผู้มาเยือนในทุกวัน

จากบ้านศิลปินจะมีสะพานข้ามคลองเล็ก ไปยังฝั่งวัดกำแพงบางจาก เป็นสะพานสำหรับเดินเท่านั้น จุดเด่นคือการเพ้นท์ลายดอกไม้สีสันสดใส ประดับด้วยถ้วยชามใบเล็ก และแผ่นไม้เขียนข้อความที่แขวนเรียงราย ทำให้สะพานดูน่ารักมีเสน่ห์ ข้ามสะพานมาแล้วจะเจอ บ้านพึ่งศิลป์ พื้นที่ทำงานศิลป์ที่มีกิจกรรม DIY น่ารัก ๆ เช่น ทำเคสโทรศัพท์ กำไล ระบายสีตุ๊กตาปูน พร้อมร้านอาหารให้แวะทาน

เดินต่อทะลุผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำออกมาก็จะถึง วัดกำแพงบางจาก จุดหมายสุดท้ายของทริปที่อยู่ช่วงต้นของตลาดคลองบางหลวง  วัดเก่าแก่สมัยอยุธยาที่ได้รับการบูรณะครั้งสำคัญในรัชกาลที่ 3 โดยพระพิศาลผลพานิช (จีนสือ) ทำให้สถาปัตยกรรมภายในวัดโดดเด่นด้วยปูนปั้นลายเครือเถาและดอกไม้ และเสาแบบย่อมุมไม้สิบสองตามแบบดั้งเดิม ภายในอุโบสถประดิษฐาน หลวงพ่อบุษราคัม พระประธานสมัยอยุธยา  และจิตรกรรมฝาผนังยุครัชกาลที่ 3–4 ที่แม้จะเลือนลางแต่ยังคงความงดงาม ซึ่งด้านนอกอุโบสถก็มีจิตรกรรมพระพุทธรูปยืนสุดวิจิตรมากอีกด้วย

ทริปสั้นๆ หนึ่งวันที่ ตลาดคลองบางหลวง  ไม่ว่าจะมาคนเดียว มากับเพื่อน หรือครอบครัว คลองบางหลวงเป็นอีกจุดหมายปลายทางที่มีทั้งความเพลินตา อิ่มท้อง อิ่มใจไปกับวิถีริมคลองอันเรียบง่าย สามารถมาได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 09.30-18.30 น.