ท่องมิวเซียมยามค่ำคืน มองเมืองผ่านเลนส์วิทย์

เทศกาล “Night at the Museum”ปีนี้ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2568 ณ พิพิธภัณฑ์และภาควิชาต่างๆ ในคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ภายใต้ธีม “มองเมืองผ่านเลนส์วิทยาศาสตร์”  ชวนมาดูมาเห็นความเชื่อมโยงระหว่างเมือง วิทยาศาสตร์ และชีวิตประจำวัน ผ่านการอธิบายปรากฏการณ์ในสังคมเมืองด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และการออกแบบเชิงสร้างสรรค์ สร้างเปิดประสบการณ์วิทยาศาสตร์ ช่วยให้เมืองน่าอยู่และยั่งยืนได้อย่างไร  ถือเป็นเดสติเนชั่นของคนรักมิวเซียม

ศ.ดร.ประณัฐ โพธิยะราช คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า  พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนมีการเปิดพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ รวมทั้งนิทรรศการให้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในภาควิชาต่าง ๆ  ไฮไลต์มาชม “ปูราชินี” ปูที่หาได้ยาก ค้นพบโดยอาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ แร่หายาก พิพิธภัณฑ์พืชมีชีวิต (Living Plant Museum) จัดแสดงต้นไม้หายากในสวนขนาดใหญ่ การผ่างูเหลือม ตัวเงินตัวทอง ฯลฯ   พิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืนแตกต่างจากการชมพิพิธภัณฑ์ในเวลาเปิดทำการปกติ ปีที่แล้วมีผู้เข้าชมตลอดเทศกาลกว่า 10,000 คน  ปีนี้เตรียมสถานที่ให้กว้างขวางขึ้น วางแผนเรื่องแสงสว่างให้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์ในการชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน

สำหรับพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ชมยามค่ำคืน ประกอบด้วยพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาฯ  แสดงนิทรรศการ “กู้โลก – Chamber Secret” ถ่ายทอดความลับของระบบนิเวศและบทบาทของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ด้วงหลากชนิด กะท่างน้ำ “ลิงทุบหอย” โลกแห่งนก ไปจนถึง แมงมุมสองเพศ พร้อมนิทรรศการสัตว์เลื้อยคลานและ “ฮีโร่จิ๋ว” หอยทากผู้ย่อยสลายอินทรียวัตถุ ตลอดจน “ปูราชินี” นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง “พระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ” สะท้อนคุณค่าแห่งการอนุรักษ์

พิพิธภัณฑ์ธรณีวิทยา นิทรรศการ “ Geo-Lens : มองโลกใหม่ด้วยสายตานักธรณีวิทยา”  นำเสนอหิน แร่ ฟอสซิล และภูมิประเทศผ่านอุปกรณ์ตั้งแต่เลนส์ขยายถึงกล้องจุลทรรศน์ ส่องแร่และฟอสซิลขนาดเล็ก เห็นรายละเอียดของโลกสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กระดับไมโคร สำรวจแร่และ Rare Earth Elements รากฐานเทคโนโลยีสมัยใหม่ ตั้งแต่สมาร์ทโฟน รถไฟฟ้า  ฯลฯ

ส่วนพิพิธภัณฑ์พืช ศ.กสิน สุวตะพันธุ์  ชวนชมนิทรรศการ “พืชเพื่อชีวิตดี๊ดี (Plant for a Better Life)” เสนอการใช้ประโยชน์จากพืชด้านอาหาร สมุนไพร และมิติทางวัฒนธรรมตามหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจพืชในฐานะแหล่งทรัพยากรสำคัญของมนุษย์ ขณะที่พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีทางภาพ ศ.ศักดา ศิริพันธุ์ฯ ตื่นตานิทรรศการ “Through the Lens” เสนอชุดภาพถ่าย Faces of Bangkok และการเดินทางของแสงผ่านเลนส์เรียนรู้ศิลปะการถ่ายภาพ

นอกจากพิพิธภัณฑ์ของคณะวิทย์ฯ แล้ว ภาควิชาต่างๆ พร้อมใจจัดกิจกรรม อย่างภาควิชาเคมี  ชูนิทรรศการ “Light Up the City: GLOWMISTRY” นำเสนอการทดลองเคมี เช่น สีย้อมเรืองแสง ย้อมครามธรรมชาติ การสร้างผลึก และกลไกเคมีสนุก ๆ ได้สัมผัสเสน่ห์ของเคมีใกล้ตัว พร้อมกิจกรรม “Bingo ตารางธาตุ” , ภาควิชาฟิสิกส์ จัดกิจกรรม “คืนดาวกลางใจจุฬาฯ” ชมท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านกล้องโทรทรรศน์ การถ่ายภาพดวงจันทร์ และเกมความรู้เรื่องดวงดาวสัมผัสประสบการณ์เชิงดาราศาสตร์อย่างใกล้ชิด

ภาควิชาเคมีเทคนิคห้ามพลาดนิทรรศการ “City to Factory : มองเมืองผ่านโรงงานจำลอง” นำเสนอโรงงานเคมีจำลอง สไลด์ฟิล์มย้อนยุค และการทดลอง“เสกอสรพิษจากไฟ” เรียนรู้หลักการผลิตและเคมีอุตสาหกรรม ขณะที่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเลมาพร้อมนิทรรศการ “มุมมองของผังเมืองผ่านสิ่งมีชีวิตในทะเล” เปรียบเทียบระบบนิเวศทะเลกับผังเมือง ชวนเวิร์กชอปประดิษฐ์เครื่องประดับจากวัสดุเหลือทิ้ง

เติมเต็มความรู้ในเทศกาล “Night at the Museum” ปีนี้ มีวงเสวนาหลากหลายหัวข้อ “ปูราชินี” สัตว์ในพระนามพระมารดาแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ โดยภาควิชาชีววิทยา    พระพันปีหลวง ผู้ชุบชีวิต “ผ้าไทย” โดยภาควิชาวัสดุศาสตร์  ,  ยาดมไทย : เปลี่ยนผ่านภูมิปัญญา สู่มาตรฐานสากล โดยภาควิชาจุลชีววิทยา และภาควิชาพฤกษศาสตร์ และ “Mona Lisa: Night Light Scan” โดยศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์งานศิลปะ (SCICCA) ส่วนคณะศิลปกรรมศาสตร์จัดการแสดงวงเครื่องสายสากล วันที่ 12 และ 13 ธ.ค.2568 เวลา 18.00-19.00 น. ขับกล่อมผู้มาเที่ยวชมเทศกาล   ผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ ติดตามรายละเอียดได้ที่ https://www.facebook.com/share/14QoFGP3QQY/