เที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน ชมงานศิลป์สุดวิจิตร

บุษบกมาลา จำลองแบบจากพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย 

หลายคนคงได้ยินชื่อ”พิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน”ที่ตั้งณ เกาะเกร็ด อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา มาแล้ว หรืออาจจะเคยผ่านไปผ่านมาหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยแวะเวียนเยี่ยมชมสักครั้ง วันนี้จะพาไปรู้จักและเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้   ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งรวมศูนย์งานหัตถศิลป์ชั้นสูง  อันเปรียบประดุจดั่งอัญมณีด้านหัตถศิลป์ชั้นสูงของประเทศก็ว่าได้  ผลงานทุกชิ้นล้วนเกิดจากฝีมือของช่างสถาบันสิริกิติ์  ซึ่งบรรจงสร้างสรรค์ผลงานด้วยสองมืออย่างประณีต  บางชิ้นสืบทอดเทคนิคโบราณจากสมัยอยุธยา หรือบางชิ้นเป็นผลงานร่วมสมัยที่คิดค้นขึ้นใหม่ในรัชกาลที่ 9 ทำให้ผู้มาเยือนได้เห็นทั้งรากเหง้าที่ทรงคุณค่าและพัฒนาการของภูมิปัญญาไทย

ก่อนจะไปเดินชม ต้องทำความรู้จักกับ สถาบันสิริกิติ์ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2521 โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อสืบสานงานหัตถศิลป์ไทยที่ใกล้เลือนหาย ซึ่งพระองค์ได้คัดเลือกให้บุตรหลานชาวนา ชาวไร่ และผู้ด้อยโอกาสทั่วประเทศได้เรียนรู้งานศิลป์ชั้นสูง สร้างอาชีพ และมีรายได้เลี้ยงดูครอบครัวอย่างมั่นคง ทำให้ตลอดระยะกว่า 40 ปีที่ผ่านมา สถาบันสิริกิติ์ได้หล่อหลอมช่างฝีมือพื้นบ้านให้ก้าวสู่งานศิลป์ชั้นสูง ปัจจุบันมีช่างกว่า 300 คน และได้ฟื้นฟูเทคนิคโบราณที่เกือบสูญหาย พร้อมขยายหลักสูตรกว่า 23 แขนง ตั้งแต่เครื่องเงิน–เครื่องทอง ถมทอง คร่ำ ลงยา แกะสลักไม้ ไปจนถึงงานเฉพาะทางอย่างการตกแต่งปีกแมลงทับ รวมทั้งพัฒนานวัตกรรมใหม่ให้ศิลปะไทยร่วมสมัย

ห้องปีกแมลงทับ

เมื่อเดินทางมาถึงพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน สิ่งแรกที่สะดุดตาคือ บุษบกจตุรมุขพิมานสีทองอร่าม ที่ตั้งเด่นตระหง่านราวกับเชื้อเชิญให้ก้าวเข้าสู่โลกแห่งงานช่างศิลป์ไทยชั้นสูง เนื่องจากผลงานมีหลากหลาย เราจะขอพาไปทำความรู้จักกับ 10 ผลงานชิ้นเอก ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเกาะเกิดแห่งนี้ เริ่มที่ชั้นล่าง ห้องปีกแมลงทับ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความระยิบระยับจับตา ผนังทั้งห้องถูกประดับด้วยงานสานย่านลิเภาที่สอดปีกแมลงทับละเอียดงดงาม ทุกครั้งที่แสงสะทบจะเห็นเหลือบรุ้งเปลี่ยนสีไปตามมุมมอง ทำให้ห้องทั้งห้องดูมีชีวิต บนเพดานยังมีโคมไฟระย้ารูปหงส์และพญานาคที่ตกแต่งด้วยปีกแมลงทับเช่นกัน ทั้งหมดนี้ใช้ปีกของแมลงทับที่ทิ้งตัวตายตามธรรมชาติ สีเขียว–น้ำเงินเหลือบเงาจึงสวยทนทานแบบธรรมชาติแท้ ๆ

ฉากจำหลักไม้เรื่องสังข์ทอง

ผลงานเด่นอีกชิ้นที่ต้องยืนมองนานคือ ฉากจำหลักไม้เรื่องสังข์ทอง ขนาดยาวกว่า 6 เมตร สูงกว่า 5 เมตร สร้างโดยช่าง 79 คน ใช้เวลากว่าสองปีครึ่ง ถ่ายทอดเรื่องราวตามบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ตั้งแต่ตอนชิ้นฟักถึงรจนาทิ้งพวงมาลัย–ตีคลี–ถอดรูป–เลียบนคร รายละเอียดประณีตจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามาจากปลายสิ่ว ความพิเศษอยู่ที่การฉลุโปร่ง เชื่อมฉากพระราชวังและเมืองต่าง ๆ อย่างสมจริง ตัวละครทั้งท้าวพระยา มาตยา ไพร่พล และเสนามารถ แกะสลักลอยตัวกลึงกลมงดงาม รอบกรอบฉากประดับลายนาคพันเกี่ยวตามนักษัตรปีมะโรง ส่วนฐานสิงห์ด้านล่างแกะเป็นรูปเงาะ–รจนาชัดเจน เติมเสน่ห์ให้งดงามครบทุกมิติ

ตรีพิธพรรณบุษบก

เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์จำลอง ส่องประกายอยู่กลางห้องจัดแสดง งานชิ้นนี้จำลองจากเรือพระที่นั่งในรัชกาลที่ 1 ทั้งลำถมทองอย่างงดงาม ส่วนศีรษะหงส์ ทำจากทองคำสลักดุนลงยา ตาและเขี้ยวประดับเพชร พู่ห้อยเป็นพุ่มทองคำระย้าก็แต่งเพชรเช่นกัน กลางลำเรือมี บุษบกพิมานทองคำลงยา ประดับเพชรขนาดจิ๋ว พร้อมฉัตรทอง 7 ชั้นและ 5 ชั้นตั้งขนาบดูสง่างาม ม่านบุษบกทำจากห่วงทองคำถักเป็นลายแก้วชิงดวง ส่วนท้ายเรือยังมีธงฉลุทองคำลงยาที่ประณีตละเอียดทุกเส้นสาย

เรือพระที่นั่งศรีสุพรรณหงส์จำลอง

ถัดมาที่ สัปคับคร่ำ ดูเด่นสะดุดตา โดยผลงานชิ้นนี้สร้างด้วยโครงเหล็กทั้งชิ้น แล้วใช้เทคนิคคร่ำทอง–คร่ำเงินสร้างลวดลายเถาไม้เทศอย่างประณีต จุดที่น่าทึ่งคือช่างสามารถฉลุเหล็กให้บางและโปร่งจนดูเหมือนลูกไม้ละเอียด บริเวณเสาและพนักประดับลายคร่ำทองสลับเงิน พร้อมกระจังปฏิญาณทำจากทองคำประดับเพชร รอบพนักยังมีลวดลายต่าง ๆ เสริมความวิจิตร ที่ส่วนเท้าบน มีลายฉลุเหล็กเป็นรูปกระบี่เหินประดับด้วยคร่ำเงิน–คร่ำทอง ส่วนปลายเท้าสลักเป็นรูป “หน้าเหรา” เพิ่มความสง่างามในทุกรายละเอียด

สุพรรณเภตรา

เดินขึ้นสู่ชั้นบน ความงดงามยิ่งเด่นชัดเมื่อได้ชม บุษบกมาลา ผลงานหัตถศิลป์วิจิตรของช่างสถาบันสิริกิติ์ จำลองจากพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย โครงสร้างสลักทองคำประดับเพชรตั้งแต่ยอดพุ่ม ซุ้มบันแถลง หลังคา เสา ม่าน เพดาน และพื้นทองคำ มี ฐานสิงห์ถมทองวางพานพุ่มและพานลงยาดอกไม้เพชร ตกแต่งด้วยลายกระหนก พานเชิงนาค พุ่มดอกไม้เพชร ฉัตรทองคำ 7 ชั้น เทพยดาทองคำ และฐานล่างไม้แกะสลักประดับครุฑ ทุกองค์ประกอบสะท้อนความประณีตและวิจิตรของงานหัตถศิลป์ไทยอย่างครบถ้วน

สัปคับคร่ำ

พระที่นั่งพุดตานถมทอง เป็นอีกชิ้นโดดเด่น เป็นองค์จำลองจากพระที่นั่งพุดตานวังหน้า ตัวเรือนทรงชั้นทำด้วยเงินและถมตะทอง เป็นท้องไม้สองชั้น ชั้นล่างประดับครุฑยุดนาค ชั้นบนรายด้วยเทพยดาประนมกร ราวพนักถมทองซับปีกแมลงทับ หัวเสา–ลูกกรงสลักทองคำ กระดานพิงถมทองเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ กระจังปฏิญาณประดับพลอยแดง ด้านข้างและด้านหลังเป็นกระจังถมทองฉลุโปร่งติดปีกแมลงทับและหงส์ถมทอง แท่นวางพระบาทเขียนลายหน้ายักษ์ลงถมตะทอง ทั้งองค์ตั้งบนฐานสิงห์ที่ด้านบนมีครุฑยุดนาค ส่วนล่างแกะลายนกกรวิกสลับพุ่มข้าวบิณฑ์และดอกประจำยาม

.สีวิกากาญจน์

สีวิกากาญจน์ ที่สถาบันสิริกิติ์สร้างจากต้นแบบบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทองค์นี้ ทำด้วยทองคำและงานประณีตหลายแขนง โครงสร้างเป็นเรือนกัญญาหลังคาลดชั้น หน้าบันลงยาราชาวดีประดับรูปหงส์หรือพระพรหมทรงหงส์ รวยระกาและนาคสะดุ้งฉลุทองลงยา หางหงส์เป็นรูปเทพถวายกรประดับเพชร ช่อฟ้าและสันบนฉลุทองลงยา ผืนหลังคาลายพุ่มข้าวบิณฑ์ซับปีกแมลงทับ คันทวยเป็นรูปนาคห้อยหัวรองชายคา เสาและเชิงเสาลงยาทองคำ ลำเสาลายพุ่มข้าวบิณฑ์ผูกม่านทอง แผงบังม่านสลักเป็นนกไม้เทศ ฐานสิงห์และราวต่าง ๆ ฉลุไม้ปิดทองคำ พื้นเรือนสานเส้นเงินเป็นลายดอกสี่กลีบ คานหามแกะพุ่มข้าวบิณฑ์สอดในห่วงทองลงยางดงามประณีตทุกมุม

ฉากปักไหมน้อย เรื่อง “อิเหนา”

ตรีพิธพรรณบุษบก โดดเด่นด้วยความหมายอันมงคล ภายในประดิษฐานตราสัญลักษณ์ในโอกาสที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ขณะทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ) ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ถัดมาเป็น สุพรรณเภตรา สำเภาถมทองงดงามสง่า ตัวเรือถมทอง เสาคร่ำเงิน–คร่ำทอง ใบเรือทองคำฉลุโปร่ง ยอดเสาเป็นธงทองคำลงยา หน้าสำเภาสลักรูปอสุรกุมภัณฑ์ บัลลังก์บัวหน้าติดกระจังปฏิญาณ และมีพญานาคทองคำประดับเพชรคาบโคมประทีป ด้านข้าง–ด้านหน้าแกะลายหน้าขบ ช่องกาบฉลุทองคำซับปีกแมลงทับ ตรงกลางติดดอกไม้ทองคำ ส่วนท้ายเรือสลักนกวายุภักษ์ โครงเรือเป็นแบบบุษบกจีนคร่ำเงิน–คร่ำทอง

พระที่นั่งพุดตานถมทอง

ปิดท้ายชั้นนี้ที่ ฉากปักไหมน้อย เรื่องอิเหนา งานหัตถศิลป์ไทยโบราณที่ใช้วิธีปักซอย เส้นไหม อย่างละเอียดถูกไล่สีและแสงเงาอย่างประณีตจนเกิดภาพมีมิติ ผลงานของช่างสถาบันสิริกิติ์ยังเพิ่มเทคนิคปักหนุน ให้ภาพพระ–นางนูนเด่นจริงจัง ประดับด้วยดิ้นเลื่อมแบบโบราณที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 นพินิจใกล้ ๆ จะเห็นความละเอียดทุกฝีเข็ม ชวนทึ่งจนต้องหยุดมองอยู่นาน เป็นการได้ชมงานศิลป์ชั้นสูงอย่างคุ้มค่า ใกล้ชิด จดจ่อกับความวิจิตรและปราณีตราวกับหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ

สังข์ทองประกอบฉากจำหลักไม้สุดงดงาม

สำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน เปิดทำการ วันพุธ- อาทิตย์ เวลา 9:45 น. – 15:30 น.  (ปิดวันจันทร์ – อังคาร) ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook.com/artsofthekingdom  โทร.035 352 995

โคมไฟระย้าที่ทำจากปีกแมลงทับ
บริเวณการจัดแสดงผลงานภายในพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน
ตัวอย่างสีของปีกแมลงทับ
กระเป๋าย่านลิเภา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พระราชทานหนังสือที่ระลึก พิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ถวายพระบรมศพ 'พระพันปีหลวง'

ในหลวง-พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวารถวายพระบรมศพ“พระพันปีหลวง” พระราชทานหนังสือที่ระลึก 50 วัน “ความทรงจำตามเสด็จต่างประเทศทางราชการ-สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถกับงานประณีตศิลป์” แก่ผู้เข้าร่วมพิธี

ชาวนครปฐมเข้ากราบพระบรมศพ 'พระพันปีหลวง' รวมใจสานพระราชปณิธานพัฒนาชุมชน อนุรักษ์แม่น้ำท่าจีน

ชาวนครปฐมเข้ากราบพระบรมศพ "พระพันปีหลวง" รำลึกพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดินแก้ปัญหายาเสพติด คืนชีวิตให้ผู้เสพ รวมใจสานพระราชปณิธานพัฒนาชุมชน-อนุรักษ์แม่น้ำท่าจีนตามพระราชดำริ

กรมศิลป์ เตรียมบวงสรวงตัดไม้จันทน์หอม ค้นพบ 20 ต้น ใช้ในพระราชพิธีพระบรมศพพระพันปีหลวง

นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการออกแบบพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ภายหลังจากสำนักสถาปัตยกรรม

สำนักพระราชวัง แจ้ง 5 ธ.ค. ปรับเวลาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ 'พระพันปีหลวง'

พระราชวงศ์- องคมนตรี บำเพ็ญพระราชกุศลถวาย "พระพันปีหลวง" แม่ชาวสระบุรีอุ้มลูกเข้ากราบพระบรมศพ ปลูกฝังรักสถาบันกษัตริย์ เปิดมุมมองเด็กรุ่นใหม่ ไม่หลงลืมรากเหง้าของชาติ 5 ธ.ค. ปรับเวลาเข้าถวายสักการะ