
กรุงเทพฯ ๐ "จุรินทร์" เผยปัญหาส่งผู้สมัคร ส.ส.เป็นเรื่้องบวก เพราะพรรคเนื้อหอม เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ หากเขตไหนมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คนเป็นเรื่องปกติ ขณะที่พลังประชารัฐยันคนใต้ยังรัก "บิ๊กตู่" พร้อมชูเป็นนายกฯ เชื่อได้เพิ่มอีก 6 เขต "ธรรมนัส" แผ่นเสียงตกร่องไม่ยอมพูดเรื่องหนุน "ประยุทธ์"
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจในการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พัทลุง ว่า เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา และเป็นเรื่องบวก เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว จะเห็นว่าการหาตัวผู้สมัครของพรรคยังอยู่ในภาวะที่มีคนปฏิเสธจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้ที่แสดงความจำนงจะไม่ลงสมัครหลายคน
"แต่มาถึงวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป หลังมีคนรุ่นใหม่ เลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ รวมทั้งพื้นที่ภาคใต้ที่มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจจำนวนมาก ดังนั้นหากเขตไหนมีผู้สมัครเกินกว่า 1 คน จึงเป็นเรื่องปกติของคนที่แสดงความจำนงแล้ว อยากได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรค ซึ่งสุดท้ายก็มีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้วตามข้อบังคับพรรค และที่สุดจะมีข้อยุติโดยมติพรรคที่เป็นแนวปฏิบัติที่ทำกันมา"
เมื่อถามว่าจะต้องเคลียร์ใจกับนายนิพิฏฐ์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ขอไม่พูดถึงตัวบุคคล และทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการเลือกคนในตระกูลเดียวกันลงสมัครนั้น พรรคจะเป็นผู้พิจารณาว่าใครมีความเหมาะสมที่สุด ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) มีดุลพินิจและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับพรรคอยู่แล้ว
ถามถึงกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงเจตนาสมัคร ส.ส.จังหวัดพังงา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ตอบว่า ทุกกรณี จะใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน พรรคไม่ได้เพิ่งมาคิดตอนนี้ คิดมากว่า 70 ปี และได้ดำเนินการมาต่อเนื่อง ไม่มีปัญหา และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาจะสามารถหาข้อยุติได้
“เป็นเรื่องธรรมดา หากเขตไหนมีผู้ให้ความสนใจลงสมัครหลายคนก็จะต้องมีการแย่งกันลง แต่ยืนยันเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดรอยร้าวภายในพรรค เพราะพรรคยึดกระบวนการตัดสินใจแบบนี้มายาวนาน ไม่เช่นนั้นคงไม่ยั่งยืนมาได้ถึงวันนี้ ซึ่งที่สุดแล้วมติพรรคจะเป็นผู้ตัดสิน” นายจุรินทร์กล่าว
"จุรินทร์"เป็นคนเก่ง
ด้านนางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนหน้าใหม่ของพรรคและได้มีโอกาสร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับนายจุรินทร์ ทำให้ได้เห็นถึงความตั้งใจและทุ่มเททำงานเพื่อแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนมาโดยตลอด รวมทั้งเป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองมาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์การบริหารงานกระทรวงที่สำคัญมาหลายกระทรวง ที่สำคัญคือสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติได้เป็นอย่างดี ซึ่งพิสูจน์ได้ชัดเจนจากผลงานที่ผ่านมา
"ท่านจุรินทร์ ในฐานะหัวหน้าพรรคยังพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นผู้มีวุฒิภาวะในการทำงาน มีวิสัยทัศน์พร้อมเปิดกว้างให้คนรุ่นใหม่และคนเลือดใหม่เข้ามาทำงานในพรรค ดังจะเห็นได้จากการคัดเลือกผู้สมัครว่าที่ ส.ก.ของพรรคที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มาเป็นตัวแทนพรรคเพื่ออาสาทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน ส่วนตัวก็ถือเป็นคนเลือดใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานในพรรคได้เพียง 2 ปีกว่า ก็ได้รับโอกาสให้ทำงานที่สำคัญโดยคำนึงถึงเรื่องความสามารถและศักยภาพมาเป็นลำดับแรก แม้ตนเองจะไม่มีประสบการณ์การทำงานทางด้านการเมืองมาก่อนหน้านี้ก็ตาม" รองโฆษก ปชป.กล่าว
นางดรุณวรรณกล่าวอีกว่า นายจุรินทร์มีวุฒิภาวะ มีเหตุผลในการทำงาน เป็นคนเปิดกว้าง รับฟังคนอื่นพร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีของคนที่เป็นผู้นำ จึงเชื่อมั่นว่านายจุรินทร์จะสามารถนำพาพรรคไปข้างหน้าให้ประสบความสำเร็จได้รับความนิยม ควบคู่ไปกับการทำงานเพื่อสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนได้เช่นเดียวกัน
วันเดียวกันนี้ นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐทำโพลสำรวจ ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ผลปรากฏว่า ส.ส.ภาคใต้มี 14 คน แต่คะแนนผ่านเพียงแค่ 4 คนเท่านั้นว่า ตนไม่ได้สนใจ เพราะมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระมาก ส่วนที่มีการวิเคราะห์กันว่าประเด็นนี้จะถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือไม่ส่งลงสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เนื่องจากคะแนนไม่ผ่านนั้น ตนก็ไม่ได้หวั่นไหว และไม่เห็นว่า ส.ส.ใต้ของพรรคจะมีใครรู้สึกวุ่นวายคิดอะไรกับเรื่องนี้ คนทำเขารู้ดีว่าทำเพื่ออะไร และทำไมต้องมาทำในพื้นที่ภาคใต้ ถามว่าบ้านเกิดตัวเองทำไมไม่ทำ
“ชาวบ้านเขารู้ เขาไม่ใช่คนโง่ รู้ว่าใครทำอะไรเพื่อพื้นที่ ผมสาบานว่าที่ได้เป็นส.ส.ครั้งนี้ไม่เคยซื้อเสียงเลยสักบาท มั่นใจว่าทองแท้ก็คือทองแท้ ไม่จำเป็นต้องไปดิ้นรน แต่ต้องนิ่งและชัดเจน ไม่เต้นตามเรื่องต่างๆ ปัญหาที่เกิดนี้คือคนต้องการอำนาจ ส่วนพื้นที่ภาคใต้ไม่มีปัญหา ผมไม่หนักใจและไม่ยึดติดกับหัวโขน แค่ได้ทำงานให้กับประชาชนก็พอใจแล้ว มั่นใจว่ามีผลงานมากมาย จะอยู่พรรคไหนก็ได้ เพราะคนใต้เอาที่ตัวบุคคล ถ้าพรรคดี แต่ไม่ทำงาน เขาก็ไม่เอา ซึ่งตอนนี้กระแสพล.อ.ประยุทธ์ในพื้นที่ภาคใต้ยังดีอยู่ เพราะท่านยอมเหน็ดเหนื่อยและอดทนทำงานเพื่อประเทศ ไม่มีใครเข้มแข็งกว่าพล.อ.ประยุทธ์อีกแล้ว” นายสัณหพจน์ กล่าว
คนใต้ยังเลือก "ประยุทธ์"
ส่วนนายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องโพล และไม่รู้สึกตื่นเต้น เสียใจหรือดีใจ ไม่ได้ติดใจเรื่องโพลอยู่ที่การกระทำต่อวันมากกว่า ซึ่งประชาชนในแต่ละพื้นที่มีอุปนิสัย วัฒนธรรม ประเพณีก็ไม่เหมือนกัน วันนี้เราทำหน้าที่ ส.ส.อย่างดีที่สุด ส่วน ส.ส.อีก 10 คน ที่ระบุว่าไม่ผ่านเกณฑ์ยังไม่ได้พูดคุยกัน เพราะไม่ทราบถึงการทำโพล และไม่รู้ว่าเป็นโพลจริงหรือเท็จ แต่คิดว่าเป็นการปล่อยมาจากพรรคตรงข้าม ทั้งนี้การเลือกตั้งที่ผ่านมาตนก็ไม่ได้อยู่ในโพลที่จะได้เป็น ส.ส. และโพลระบุว่าภาคใต้แพ้พรรคประชาธิปัตย์ แต่สุดท้ายก็ได้เป็นทั้ง 14 คน เวลานี้สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
"เลือกตั้งครั้งต่อไปชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังขายได้ และพรรคยืนยันแล้วว่าจะส่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม ผมคิดว่าคนใต้จะเลือก พล.อ.ประยุทธ์มากกว่าเดิม และจะมี ส.ส.ใต้เพิ่มอีกประมาณ 6 เขต ภาคใต้จะมีแค่พรรคเก่ากับพรรค พปชร.ที่จะแข่งขันกัน ไม่มีพรรคอื่น ซึ่งถือว่าไม่รุนแรง เพราะอยู่พรรครัฐบาลเดียวกันและนโยบายก็ซ้ำกันอยู่" นายสายัณห์กล่าว
ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่า การจัดทำโพลของพรรคในพื้นที่ภาคใต้ ที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า เรื่องนี้เป็นดำริของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งโพลที่เราจะนำมาทำต้องมีมาตรฐาน และต้องเป็นสำนักโพลที่เป็นที่ยอมรับจากสังคม เป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมือง โดยโพลที่จะทำนั้น เป็นการประเมินการทำงาน ทั้ง ส.ส. ผู้สมัคร และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เพื่อให้ได้รู้ว่าอนาคตพรรคพลังประชารัฐจะต้องปรับปรุงเรื่องใดบ้าง ถือเป็นการนำจุดอ่อนไปสู่การแก้ไข เพื่อให้พรรคเป็นสถาบันที่มีความเข้มแข็งต่อไป ตามที่หัวหน้าพรรคต้องการ
เมื่อถามว่า ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสตอบว่า ในเรื่องนี้เนื่องจากพรรคเราเป็นสถาบันการเมือง การจะทำอะไรก็ตามจะต้องผ่านคณะกรรมการบริหารพรรคแล้วนำเรียนหัวหน้าพรรค และท้ายสุดก็ต้องฟังจากปากท่านหัวหน้าพรรคโดยตรง ลูกพรรคไม่ควรไปพูด
ถามย้ำว่า การทำโพลเพื่อต้องการให้พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวในการเลือกตั้งสมัยหน้าใช่หรือไม่ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐตอบว่า อย่าไปมองอย่านั้น ทุกพรรคการเมืองทำโพลกันหมด ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการเมือง
ส่วนกรณีที่มีข่าว ส.ส.น้อยใจนั้น ร.อ.ธรรมนัสได้ย้อนถามว่า จะน้อยใจเรื่องอะไร และเชื่อว่า ส.ส.ที่เข้าใจจะไม่มีใครน้อยใจ ซึ่งตนก็เป็น ส.ส. มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาว จ.พะเยา ตนก็ทำโพลให้ตัวเองตลอด และชอบโพลที่มีตำหนิ เพื่อนำมาปรับปรุง นี่คือสิ่งที่ตนยืนยันในฐานะ ส.ส. พร้อมเชื่อว่า ส.ส.ที่อยู่กับตนตรงนี้ก็อยากจะฟังว่าเรามีจุดอ่อนจุดด้อยอย่างไร
“การทำโพลจะเป็นสิ่งที่จะบอกกับตัวเราเองว่าผ่านหรือไม่ผ่าน เพื่อปรับปรุงนำนโยบายของพรรคไปสู่การปฏิบัติที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในแต่ละเขตแต่ละพื้นที่ให้มากที่สุด” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดเบื้องลึก! ทำไมคน 'ปชป.' แห่กันลงปาร์ตี้ลิสต์
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ปัญหาปาร์ตี้ลิสต์ของประชาธิปัตย์
ศก.สู่ยุคโตตํ่า! คุมเข้มร้านทอง กดเงินบาทแข็ง
"ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ" ห่วงเศรษฐกิจไทยเข้าสู่ยุคโตต่ำเป็น New Normal หลังกินบุญเก่ามานาน
ทุกพรรคจัดทัพลุยเลือกตั้ง
ทุกพรรคพร้อมลุยเลือกตั้ง! "อนุทิน” ยันแคนดิเดตนายกฯ ภท.ไม่มีเซอร์ไพรส์เพิ่ม
เลือก‘คำถามประชามติ’ สมควรมีรธน.ใหม่หรือไม่
ครม.เคาะเลือกคำถามประชามติ “สมควรมีรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่”
พระราชทานเหรียญทองราชินี
"ในหลวง" เสด็จฯ ไปส่ง “พระราชินี” ทรงแข่งเรือใบรอบชิงชนะเลิศแข่งขันกีฬาซีเกมส์
จีนทุบ‘สแกมโบเดีย’ ‘จงอี้’แฉโยงผลประโยชน์หลายมิติ/กห.ลั่นภารกิจใกล้เสร็จ
"หลิว จงอี้" ทุบโต๊ะ! รัฐบาลกัมพูชามีความเชื่อมโยงและมีผลประโยชน์ร่วมกับขบวนการสแกมเมอร์ในหลายมิติ

