ชงศาลปิดลาซาด้า DESส่งหลักฐานใครผิด ศคบ.เรียกผู้บริหารแจง

ลาซาด้าอ่วม! "ดีอีเอส" ส่งหลักฐานยื่นศาลสั่งปิดแพลตฟอร์ม ขอช่วยชี้ "ผู้จัดทำ-ผู้ว่าจ้าง-ผู้รับงาน-คนแสดง-คนโพสต์-คนแชร์" ใครเข้าข่ายผิดบ้าง "สคบ." เรียกผู้บริหารแจงโฆษณาไม่เหมาะสม "ตำรวจ" เตรียมฟันเบื้องต้นก่อน 3 ราย "ผบ.ตร." ไม่ห้ามลูกน้องสั่งสินค้า เชื่อมีจิตสำนึกไตร่ตรองเอง "ไทยภักดี" ออกแถลงการณ์ จี้ Lazada ขอโทษคนไทย "พท." ชิงดักทาง "ปฏิวัติ" ขอบคุณ "ผบ.ทบ." ออกมายืนยัน "สฤณี" สะกิดกองทัพห้ามทหารสั่งของ เสี่ยงบริษัทขายสินค้าฟ้องได้

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม หรือดีอีเอส  กล่าวถึงกรณีการเสนอศาลสั่งปิดเว็บไซต์ของลาซาด้าว่า ต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ตามกฎหมาย ขณะนี้ทางกระทรวงดิจิทัลฯ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนำส่งเรื่องให้ศาลเร็วๆ นี้ หากพบมีความผิดทั้งผู้จัดทำ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง คนแสดง คนที่ไปโพสต์ ไปแชร์ ทั้งหมดเหล่านี้ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานส่งไปให้ศาลพิจารณาว่าจะตัดสินว่าใครผิดบ้าง ก็จะลงโทษ อย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย

นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตามกฎหมายเรายังปิดลาซาด้าไม่ได้ เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม ซึ่งดำเนินการไปตามขั้นตอน อยู่ที่การพิจารณาของศาล ส่วนที่ประชาชนมีความไม่พอใจในสิ่งที่ลาซาด้าได้ทำเพราะว่ากระทบต่อความรู้สึกคนไทยทั้งประเทศนั้น อันนี้ก็เป็นสิทธิของพี่น้องประชาชน หรือขององค์กรต่างๆ ที่จะแบนลาซาด้า คนไทยมีสิทธิที่จะต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยในสิ่งที่ลาซาด้า

“ผมว่ามันเป็นสิทธิของแต่ละฝ่าย ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าสังคมไทยก็มีบริบทมีค่านิยมที่แตกต่างจากต่างประเทศ ก็อยากให้ทุกคนที่มาทำธุรกิจในเมืองไทยเข้าใจในสิ่งนี้ด้วย” รมว.ดีอีเอสกล่าว

                    ส่วนนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวถึงแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ลาซาด้าลงโฆษณาที่มีลักษณะไม่เหมาะสม จนเกิดกระแสสร้างความขัดแย้งในสังคมออนไลน์ว่า ตนได้สั่งการเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาว่ามีความผิดอย่างไร ซึ่ง สคบ.อยู่ระหว่างตรวจสอบและพิจารณาว่ากรณีการโฆษณาสินค้าของแพลตฟอร์มลาซาด้า อาจมีความผิดตามมาตรา 22 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ที่ระบุว่า "การโฆษณาจะต้องไม่ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม..." โดยโฆษณาดังกล่าวเข้าข่าย (3) ข้อความที่เป็นการสนับสนุนโดยตรงหรือโดยอ้อมให้มีการกระทำผิดกฎหมาย หรือศีลธรรม หรือนำไปสู่ความเสื่อมเสียในวัฒนธรรมของชาติ และ (4) ข้อความที่จะทำให้เกิดความแตกแยกหรือเสื่อมเสียความสามัคคีในหมู่ประชาชน

“สคบ.ได้ออกหนังสือถึงทางลาซาด้าแล้วเมื่อวันที่ 6 พ.ค. เพื่อให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงดังกล่าว หากพบว่ามีความผิดจริงตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดทันที ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ของ สคบ.ในการคุ้มครองและดูแลผู้บริโภคไม่ให้รับความเสียหาย ทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน รวมถึงต้องไม่เป็นภัยต่อสังคมส่วนรวม จึงขอกำชับให้ผู้ประกอบการคำนึงถึงประชาชนผู้บริโภคและสังคมส่วนร่วม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง ลดการสร้างความขัดแย้งและความแตกแยกในสังคมไทย” รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าว

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มลาซาด้าว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ติดตามดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง นับตั้งแต่โฆษณาเริ่มมีการเผยแพร่ วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเนื้อหามีการพาดพิงไปยังบุคคลที่มีอาการเจ็บป่วยบกพร่อง รวมไปถึงกฎหมายด้านความมั่นคง เพราะนายศรีสุวรรณ จรรยา ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยโฆษณาที่ไม่เหมาะสม ที่ บก.ปอท. ทั้งข้อหาตามมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ รวมทั้งยังจะมีข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องอีก

“หลังจากนายศรีสุวรรณมาร้องทุกข์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ ร่วมกับตำรวจ ปอท. ดำเนินการตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีการสอบปากคำตัวแทนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) พร้อมทั้งประสานไปยังกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อทำการปิดกั้นยูอาร์แอล โดยได้ประสานไปทั้งสิ้นทั้งหมด 49 ยูอาร์แอล ปิดกั้นที่นำเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมที่พบโพสต์ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งลิงก์ที่มีการนำไปแชร์ในส่วนต่างๆ” พ.ต.อ.กฤษณะกล่าว

จ่อฟัน 3 รายปมลาซาด้า

โฆษก ตร.กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ยังได้เร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อเตรียมจะดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเผยแพร่ เนื้อหาตรงนี้ออกไป ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่รับดำเนินการด้านคอนเทนต์ บริษัท ลาซาด้าฯ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการ ส่วนตัวนักแสดงจะดูว่าพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องจะสามารถดำเนินคดีใดและดำเนินการอย่างไรต่อไปได้ เช่นเดียวกับตรวจสอบเส้นทางการเงิน ผบช.ก.ได้สั่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เบื้องต้นมีผู้ที่จะถูกดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ราย

“อยากให้เป็นอุทาหรณ์ เราไม่มีทางเลือก ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ถ้าทำมาค้าขายอย่างสุจริตไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายข้อใดคงไม่มีหน่วยงานใดไปยุ่ง แต่ถ้าฝ่าฝืนกฎหมาย โดยเฉพาะด้านความมั่นคง เราจำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบกฎหมาย” โฆษก ตร.กล่าว

ถามถึงท่าทีของ ตร.หลัง 3 เหล่าทัพแบนลาซาด้า พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ในส่วนของตำรวจมี 2 สถานะ 1.ผู้บังคับใช้กฎหมาย 2.ประชาชนทั่วไป ทาง ผบ.ตร.อยากให้กำลังพลที่อยู่กว่า 2 แสนนาย รวมถึงประชาชน ถ้ารู้สึกว่าเหตุการณ์ลักษณะแบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่รับไม่ได้ ก็ควรมีวิธีการปฏิบัติกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ คงไม่ต้องมีคำสั่งไปห้ามปรามเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 2 แสนนาย เนื่องจากการไตร่ตรองการซื้อสินค้าในลักษณะนี้ที่ไหนก็มี

                    วันเดียวกัน พรรคไทยภักดีออกแถลงการณ์ต่อกรณีโฆษณาของลาซาด้า เนื้อหาโดยรวมระบุว่า โฆษณาของลาซาด้าที่ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรงทั้งทางพฤติกรรมและเจตนา อันได้แก่เป็นการดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และมีเจตนาบูลลี่ สร้างความเสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกของคนไทยโดยทั่วไป เป็นการล้อเลียนและบูลลี่ผู้ที่เจ็บป่วย หรือผู้พิการที่นั่งวีลแชร์ รวมทั้งลาซาด้าไม่ได้แสดงความผิดรับผิดชอบในการออกมาขอโทษอย่างจริงใจ นอกจากนี้ยังมีพรรคการเมืองบางพรรคบิดเบือนความผิดของลาซาด้า รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์กองทัพไทย ที่ออกมาแสดงจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติ

“พรรคไทยภักดีจึงได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนอย่างหนักแน่น ขอเรียกร้องให้ลาซาด้าแถลงการณ์ขอโทษต่อประชาชนคนไทยด้วยจิตสำนึกและความรับผิดชอบอย่างจริงใจ และเรียกร้องให้พรรคการเมืองทุกพรรค ได้ตระหนักและมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เกิดขึ้นอีกในอนาคต” แถลงการณ์พรรคไทยภักดีระบุ

                    ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.กล่าวถึงกรณี ผบ.ทบ.ยืนยันหากอนาคตไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายจะไม่มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นว่า ขอบคุณ ผบ.ทบ.ที่กล้าประกาศแบบนั้น มันจะไม่มีเหตุให้เกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่าจะเอาเหตุการณ์การบอยคอตลาซาด้ากระตุ้นให้เกิดการต่อต้านหรือการชุมนุมประท้วง และก่อให้เกิดรัฐประหารหรือเปล่า ดังนั้นท่านประกาศออกมาแบบนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เชื่อว่าประชาชนคงไม่หลงเข้าไปร่วมชุมนุม ยกเว้นมีการจัดตั้ง อันนี้ไม่แน่ เพราะที่ผ่านมาเกิดขึ้นแบบนี้ตลอด ดังนั้นต้องยึดประกาศของท่าน ผบ.ทบ.เป็นหลัก ถ้ามีมวลชนเคลื่อนไหวจริง เพียงเหตุการณ์แค่นี้และเกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลาย พอจะสันนิษฐานได้ว่าจะทำให้เกิดสิ่งนี้ โดยการนำมวลชนออกมาต่อต้านเคลื่อนไหวเสมือนทำให้เกิดเหตุการณ์ย้อนไปเมื่อปี 2557 ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครต้องการให้เกิด

น.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์ นักเขียน นักแปลชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุตอนหนึ่งว่า 1.กองทัพบกมีสิทธิอะไรมาสั่งห้ามทหารและครอบครัวทหาร ไม่ให้สั่งของจากลาซาด้า คำสั่งนี้เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ทหารอย่างไร? ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลแบบนี้ ทหารและครอบครัวฟ้องกลับได้นะนั่น (แต่คงไม่ทำ ด้วยบรรยากาศแห่งความกลัว) 2.การออกคำสั่งของหน่วยงานรัฐแบบนี้ เป็นการเลือกปฏิบัติต่อบริษัทหนึ่งรายอย่างชัดเจน บริษัทฟ้องได้นะนั่น (แต่คงไม่ทำ ผู้บริหารอาจจะนั่งขำมากกว่า) 3.กองทัพทำได้อย่างมากคือการรณรงค์บอยคอตแบบที่ผู้บริโภคทำเวลาที่พบเห็นผู้ประกอบการทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบใจ แต่เอาจริงๆ แค่นั้นก็เกินหน้าที่ของกองทัพและไม่เหมาะสมอยู่ดี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง