ทล.ล้อมคอกสะพานถล่ม วุ่นอีกด่านมอเตอร์เวย์พัง

คานสะพานกลับรถถนนพระราม 2 ถล่ม สังเวย 2 ศพ "บิ๊กตู่" ฮึ่ม! สั่งใช้มาตรการปลอดภัยคุมเข้มพื้นที่ก่อสร้างคมนาคมทั่วประเทศ "กรมทางหลวง" อ้าแขนรับผิดชอบ-เยียวยาครอบครัว เผยไร้เอกชนเกี่ยวข้อง ตั้ง กก.ทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญหาความจริงภายใน 14 วัน ชี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่พร้อมล้อมคอกอีก 200 โครงการ  "ก้าวไกล" สับเละไร้มาตรฐานกระทบชีวิตคน โยนเข้า กมธ.คมนาคมสัปดาห์นี้ "ศักดิ์สยาม" วุ่นอีกรอบ ฝนตกหนักหลังคาด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์บางปะกงพัง

เมื่อวันจันทร์ จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนคานสะพานกลับรถพังลงมาทับรถยนต์ เหตุเกิดบริเวณสะพานกลับรถ ถนนพระรามที่ 2 กม.34 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกะเจ้า อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย บาดเจ็บรวม 2 คน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง  วิเคราะห์หาสาเหตุเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด

 “และให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกพื้นที่ของโครงการปรับปรุงสะพาน หรือในบริเวณพื้นที่ที่มีการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุและเหตุการณ์ดังกล่าว ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางและถนน อันนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนขึ้นอีก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พร้อมสั่งการให้ช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุตามระเบียบกฎหมายที่มีอยู่” นายธนกรกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงเช้า ที่บริเวณจุดเกิดเหตุบนถนนพระรามที่ 2 กม.34 ด้วยว่า เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงได้นำเชือกแดงมากั้นล้อมเอาไว้ เป็นเขตอันตรายห้ามผู้ใดเข้าไปบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้การจราจรบนถนนพระรามที่ 2 เช้านี้ยังคงปิดช่องทางด่วนฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมากในช่วงทางเบี่ยงออกคู่ขนานก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 1  กิโลเมตร 

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า สะพานกลับรถดังกล่าวก่อสร้างเมื่อปี 2536 ซึ่งได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี จึงมีความจำเป็นต้องบูรณะซ่อมแซมสะพาน โดยเริ่มเข้าซ่อมแซมสะพานตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำหนดแล้วเสร็จในเดือน  ส.ค.65 ประกอบด้วยการทุบรื้อพื้นสะพานและเปลี่ยนพื้นใหม่จำนวน 2 ช่วง งานสกัดโครงสร้างสะพานที่เสียหาย  ส่วนที่อยู่บนคานคอนกรีตอัดแรง รวมทั้งบริเวณพื้นที่ส่วนของทางขึ้นทางลง ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่กรมทางหลวงจะต้องทบทวนและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยด้านต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้นในทุกมิติ

อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยจะตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง  วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความปลอดภัย

อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้มีความพร้อม หากพบว่าส่วนหนึ่งส่วนใดไม่พร้อม ไม่ปลอดภัย ให้หยุดงานก่อสร้างทันที โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด ซึ่งมีกว่า 200 โครงการทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีก ทั้งนี้กรมทางหลวงพร้อมรับผิดชอบเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และขออภัยประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้

 “ยืนยันว่าเป็นโครงการที่ดำเนินงานโดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) ไม่ได้เป็นงานก่อสร้างที่ดำเนินการโดยเอกชน ดังนั้นบริษัทเอกชนไม่มีความเกี่ยวข้อง เป็นความรับผิดชอบเต็มๆ ของกรมทางหลวง ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบผลอย่างเป็นทางการ ถ้าพบความบกพร่องที่เกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ กรมทางหลวงก็จะลงโทษอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีบทลงโทษทางวินัย และมีความผิดทางละเมิดต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบ และหากพบว่ามีผู้รับเหมาในโครงการใดละเมิด มีเครื่องจักรหรือเจ้าหน้าที่ไม่พร้อมปฏิบัติการ กรมฯ จะให้หยุดพักงานก่อสร้างทันที”  นายสราวุธระบุ 

นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า ขอให้กรมทางหลวงเร่งวิเคราะห์สภาพสะพานโดยด่วนว่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน สามารถเปิดถนนได้ปกติหรือไม่ หากพบชำรุดมากเสี่ยงอันตรายเปิดไม่ได้ ก็ขอให้เปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวน หากต้องเปิดขอให้เปิดโดยด่วนเพื่อบรรเทาการจราจรที่ติดขัด และให้ทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางการจราจรให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ ต่อไป

ขณะที่นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล เขตบางขุนเทียน ระบุว่า การก่อสร้างและซ่อมแซมตลอดเส้นถนนพระรามที่ 2 นั้น มีหลายสัญญาโครงการที่ดำเนินการพร้อมกัน ทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาได้รับความยากลำบากมาหลายปี​ ซึ่งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็มีเหล็กหล่นลงมา  นี่คือความเสี่ยงของพี่น้องประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา  ขณะที่คนทำงานซ่อมสร้างทางไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย อันตรายมาก นี่เป็นตัวอย่างว่าการไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของทุกคน

ด้านนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และรองประธาน กมธ.คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า การซ่อมแซมเป็นเรื่องระเบียบวิธีทางวิศวกรรม กระบวนการขั้นตอน การควบคุมปัญหาความปลอดภัย แต่ในประเทศเราก็ละเลย ทำให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการก่อสร้างเยอะ แต่ตรงนี้เป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ให้เกิดขึ้นได้ ถ้าเราปฏิบัติตามหลักวิชาการ จะติดตามเรื่องนี้ต่อโดยการเสนอเรื่องนี้เข้าไปใน กมธ.คมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ภายในสัปดาห์นี้

วันเดียวกัน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า กองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง กรมทางหลวง (ทล.) ได้รายงานอุบัติเหตุบนทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.65  เมื่อเวลา 10.34 น.ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนัก เป็นเหตุให้หลังคาช่องเก็บค่าผ่านทาง ตู้เก็บเงินที่ 1 และ 2 บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เส้นทางกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา,  ช่องเก็บค่าผ่านทางด่านบางปะกง 2 ได้พังลงมา

นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีรถคันใดได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต มีเพียงทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย เบื้องต้นอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด โดยนายสราวุธได้สั่งการให้ผู้บริหาร ทล.ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาและสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว.