ปลุกเป็นเจ้าภาพที่ดี บิ๊กตู่หวังAPECพาไทยรุ่ง กต.ย้ำ‘สี-มาครง’ร่วมเวที

"บิ๊กตู่" ขอร้องทำบ้านเมืองให้สะอาดรับเอเปก ไม่เหมาะเกิดปัญหาเด็ดขาด วอนเห็นใจเจ้าหน้าที่ไม่อยากทำร้ายใคร เช็กการข่าวแล้วยังไร้กังวล "จุรินทร์" ติงม็อบอย่าใช้ความรุนแรง ห่วงประเทศย้อนยุคเกิดแผลซ้ำอดีต ตร.ย้ำชุมนุมพื้นที่ประชุม-19 รร.เจอคุกแน่ บัวแก้วเปิดรายชื่อผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจ-3 แขกพิเศษ

ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 16.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ประเทศกัมพูชา โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มาต้อนรับ และรายงานสถานการณ์ภาพรวมก่อนการประชุมเอเปก

จากนั้น นายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งนี้ เหมือนไปดูงานก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปก ยอมรับว่าเป็นห่วงและกังวลในประเทศด้วยเช่นกัน แต่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ติดตามอยู่ และตนได้ติดตามจากรายงานและข่าวต่างๆ จึงไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน อย่าให้เกิดปัญหาอะไรก็แล้วกัน การที่เราจะได้อะไรมาก็ต้องช่วยกัน และเวลาวันนี้ไม่เหมาะสมที่จะทำให้เกิดปัญหาในช่วงนี้เด็ดขาด

ขอร้องกันให้ทำวันนี้แก้ไขวันนี้เพื่อเดินไปสู่อนาคต คนที่จะได้รับประโยชน์คือประชาชนในวันข้างหน้า แต่เราต้องทำให้ดีที่สุดตั้งแต่วันนี้ เหมือนโครงสร้างพื้นฐาน การก่อสร้างไม่ได้เสร็จแค่วันนี้ อาจจะ 3-4 ปี เมื่อถึงวันนั้น คนในวันนั้นจะได้ใช้ อะไรไม่ดีก็เตือนกันมา รัฐบาลพร้อมที่จะดูแลแก้ไขด้วยความเข้าใจ แต่ยอมรับว่าบางอย่างก็อาจจะไม่เข้าใจกันมากนัก บางทีงานมันเยอะ และในช่วงระยะหลังพูดนานๆ ไม่ได้พูด เลยตีความก็ไปกันใหญ่ แต่วันนี้ยืนยันว่าเราไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าใคร ขอความร่วมมือกัน และคอยดูในช่วงจัดประชุมเอเปก บ้านเมืองเราต้องสวยงาม เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้มันเสียก็แล้วกัน เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารบ้าง ไม่มีใครอยากทำอะไรให้มันเกิดความรุนแรงอยู่แล้ว

"งานนี้ถือเป็นงานส่งท้ายปีเก่าก่อนไปปีใหม่ในปีหน้า ทุกอย่างจะผลิดอกออกผลในปลายปีนี้ ไปสู่ความที่ดีกว่า รวมทั้งความท้าทายต่างๆ ทั้งความมั่นคงในเรื่องอาหาร และเรื่องต่างๆ เป็นสิ่งที่เราต้องเอาชนะให้ได้กับความท้าทายเหล่านี้ เราถึงจะสำเร็จ และหลายอย่างก็จะดีขึ้น เราไม่มีความหวัง ขณะเดียวกันเราก็ทำร้ายกัน ผมว่ามันไม่เกิดประโยชน์อะไรสักอย่าง และที่ผมพูดไม่ได้ว่าใครนะ ผมบอกให้ฟัง ทุกอย่างมันมีประสบการณ์อยู่แล้ว ขอร้องแล้วกัน และขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกแขนง รู้ว่ามีความห่วงใย ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่เหน็ดเหนื่อย ไม่มีใครอยากไปทำร้ายใครอยู่แล้ว และในวันที่ 14 พ.ย. ผมจะต้องไปประชุมดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ด้วย เหมือน solf opening ซึ่งวันจริงคือวันที่ 18-19 พ.ย. แต่ระหว่างนี้ก็มีการเดินทางกันเข้ามาบ้างแล้ว ตั้งแต่วันที่ 16-17 พ.ย. ขอร้องนะให้เป็นเจ้าบ้านที่ดี ทำบ้านเราให้สะอาด" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าในปีหน้าจะมีความท้าทายต่างๆ นั้น ในทางการเมืองของตัวท่านเองจะมีอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบเสียงแข็งว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวอะไรทั้งนั้นแหละ เป็นความท้าทายของโลก

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีผู้พยายามก่อม็อบช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปกว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความคิดเป็นสิทธิเสรีภาพของตนเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากเห็นคือการใช้ความรุนแรงในการดำเนินการกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ไม่อยากเห็นประเทศย้อนยุคกลับไปเหมือนที่เราเคยเกิดบาดแผลขึ้นมาในอดีต เพราะคิดว่าคนไทยทั่วไปส่วนใหญ่คงไม่อยากเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้น ความเห็นต่างเห็นได้ แต่การกระทำที่จะนำไปสู่ความเสียหายให้บ้านเมืองให้กับประเทศไม่ควรทำ

เปิดชื่อผู้นำร่วมเวทีเอเปก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศเผยแพร่รายชื่อผู้นำเขตเศรษฐกิจ และแขกพิเศษที่จะเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 ระหว่างวันที่18-19 พ.ย.65 โดยมีรายนาม ดังนี้ เขตเศรษฐกิจเอเปก 1.ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรี นายแอนโทนี แอลบาเนซี 2.บรูไนดารุสซาลาม สมเด็จพระราชาธิบดี พระองค์ที่ 29 และนายกรัฐมนตรีสมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม ซุลตัน ฮาจี โอมาร์ อาลี ไซฟุดดีน ซาอาดุล ไครี วัดดิน 3.แคนาดา นายกรัฐมนตรี  นายจัสติน ทรูโด ชิลี ประธานาธิบดี นายกาบริเอล โบริก ฟอนต์ 4.จีน ประธานาธิบดี นายสี จิ้นผิง 6.จีนฮ่องกง ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นายจอห์น ลี คา-ชิว 7.อินโดนีเซีย ประธานาธิบดี นายโจโก วีโดโด 8.ญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรี นายคิชิดะ ฟูมิโอะ

9.เกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรี นายฮัน ด็อก-ซู 10.มาเลเซีย เลขาธิการรัฐบาลมาเลเซีย ตัน ซรี ดาโตะ เซอรี โมฮามัด ซูกี บิน อาลี 11.เม็กซิโก เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย นายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย 12.นิวซีแลนด์ นายกรัฐมนตรี นางสาวจาซินดา อาร์เดิร์น 13.ปาปัวนิวกินี นายกรัฐมนตรี นายเจมส์ มาราเป 14.เปรู รองประธานาธิบดี คนที่ 1 นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา 15.ฟิลิปปินส์ ประธานาธิบดี นายแฟร์ดีนันด์ โรมูอัลเดซ มาร์โคส จูเนียร์ 16.รัสเซีย รองนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐรัสเซีย คนที่ 1 นายอันเดรย์ เบโลอูซอฟ 17.สิงคโปร์ นายกรัฐมนตรี นายลี เซียน ลุง 18.จีนไทเป ผู้แทน (ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC)) นายมอร์ริส จาง (นายจาง จงโหมว) 19.ไทย นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 20.สหรัฐอเมริกา รองประธานาธิบดี นางคามาลา แฮร์ริส 21.เวียดนาม ประธานาธิบดี นายเหวียน ซวน ฟุก

ขณะที่แขกพิเศษ ได้แก่ 1.กัมพูชา นายกรัฐมนตรี สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน 2.ฝรั่งเศส ประธานาธิบดี นายเอมมานูเอล มาครง 3.ซาอุดีอาระเบีย มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรี เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เปิดเผยว่า “ปลากุเลาจากตากใบ” ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในงานเลี้ยงกาลาร์ดินเนอร์แก่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก 2022 นอกจากจะเป็นสินค้าเลื่องชื่อของ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสแล้ว ยังเป็นสินค้าโด่งดังของ จ.ปัตตานี ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ การจัดงานเลี้ยงต้อนรับผู้นำเอเปก 2022 ใช้คอนเซ็ปต์ Sustainable Thai Gastronomy เพื่อแสดงถึงศักยภาพของอาหารไทย คัดสรรจากวัตถุดิบของไทยจากทั่วประเทศ จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสของการเผยแพร่ Soft power ในวัฒนธรรมอาหารไทย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวถึงการบริหารจัดการจราจร และข้อห่วงใยการชุมนุม ตามมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยในการประชุมเอเปก 2022 ว่า  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติ เพื่อรองรับการประชุมเอเปก 2565 มาต่อเนื่องในทุกภารกิจ จึงขอประชาสัมพันธ์เน้นย้ำ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ช่วงระหว่างวันที่ 16-19 พ.ย.65 โดยเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบด้านการจาจร ได้แก่

  1.ถนนรัชดาภิเษก แยกอโศกมนตรี- แยกพระราม 4 และถนนดวงพิทักษ์ตลอดสาย ขอให้งดใช้ตลอด 24 ชม. 2.ถนนเพลินจิต (ขาเข้า), ถนนวิทยุ (ช่องทางหลัก) ตั้งแต่แยกเพลินจิต-แยกสารสิน, ถนนราชดำริ (ฝั่งขาเข้า) ตั้งแต่แยกราชประสงค์-แยกราชดำริ, ซอยต้นสน ตลอดสาย และซอยร่วมฤดี ตลอดสาย ขอให้งดใช้ช่วงเวลา ตั้งแต่ 18.00-06.00 น. ของวันถัดไป 3.จัดเดินรถทางเดียว ตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ถนนราชดำริ (ขาออก) ตั้งแต่แยกราชดำริ-แยกราชประสงค์,  ถนนวิทยุ (ขาออกช่องคู่ขนาน) ตั้งแต่ แยกสารสิน-แยกเพลินจิต และถนนเพลินจิต (ฝั่งขวา) ตั้งแต่แยกใต้ด่วนเพลินจิต- แยกราชประสงค์

ฮึ่มม็อบล้ำเส้นเจอคุกแน่

โฆษก ตร.กล่าวถึงกรณีการชุมนุมในช่วงการประชุมเอเปกว่า แม้ว่าการชุมนุมสาธารณะจะเป็นสิทธิกระทำได้ตามกฎหมาย แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ไม่กระทบสิทธิบุคคลอื่น และไม่กระทบต่อมาตรการรักษาความปลอดภัยของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก  โดยหากจะมีการยื่นข้อเรียกร้อง หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ ได้จัดสถานที่อำนวยความสะดวกสำหรับการยื่นหนังสือไว้แล้ว ขอให้ไปยื่นตามสถานที่ที่ได้จัดไว้ให้ ทั้งนี้ ผู้ประสงค์จะจัดการชุมนุม ต้องแจ้งการชุมนุมต่อหัวหน้าสถานีตำรวจแห่งท้องที่นั้นล่วงหน้า และตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดสถานที่ตามนัยมาตรา 8 (5) แห่ง พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 กำหนดสถานที่จัดการประชุม 1 แห่ง และโรงแรมที่พักจำนวน 19 แห่ง เป็นสถานที่ต้องห้ามมิให้มีการชุมนุมกีดขวางทางเข้า-ออก รบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการของสถานที่ดังกล่าว หากมีการฝ่าฝืน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเจ้าพนักงานฯ อาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขหรือมีคำสั่งให้ถือปฏิบัติ หากฝ่าฝืนโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"ขอความร่วมมือประชาชนในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและรายได้ให้กับประเทศไทยต่อไป ตลอดจนแจ้งเบาะแส ข้อมูลหรือสิ่งผิดปกติให้กับ ตร.ได้ตลอดเวลา ที่สายด่วน 191 หรือ 1599" พล.ต.ต.อาชยนระบุ

พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เปิดเผยว่า มีมาตรการตรวจสอบชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศอย่างเข้มงวด ขณะนี้ยังไม่พบบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง โดยเฉพาะบุคคลที่เป็นภัยความมั่นคงของประเทศคู่ขัดแย้งที่ร่วมประชุมเอเปก ช่วงที่ผ่านมา สตม.สืบสวน ติดตาม และปฏิเสธคนเข้าเมืองกว่า 2,000 คน ที่มีลักษณะบุคคลต้องห้าม หรือโอเวอร์สเตย์ อยู่เกินกฎหมายกำหนด หากเกิดเหตุต้องสงสัย สามารถเข้าดำเนินคดี สืบสวน และผลักดันออกนอกประเทศได้ทันที

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบก (ทบ.) ได้รับมอบหมายให้เป็นส่วนสนับสนุน “อนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกการจราจร” พร้อมนำทุกทรัพยากรทั้งบุคลากร ยุทโธปกรณ์ ศักยภาพของหน่วยทหารมาใช้เพื่อการจัดประชุมให้ดำเนินไปอย่างราบรื่นในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้ ทบ.ได้ประสานงานด้านการข่าวกับหน่วยงานต่างๆ ติดตามข้อมูลข่าวสารทั้งในและต่างประเทศ การเฝ้าระวังด้านการข่าว การรักษาความปลอดภัยบุคคลและสถานที่ โดยเฉพาะการจัดกำลังพลวางแผนและร่วมในชุดประสานงาน ณ กองอํานวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจรในการประชุม เพื่อปฏิบัติภารกิจในหลายด้าน อาทิ จัดชุดสุนัขทหาร จำนวน 15 ชุด 30 ตัว ร่วมภารกิจตรวจสอบสถานที่ อารักขาบุคคล และปฏิบัติภารกิจร่วมกับชุด EOD จากกรมสรรพาวุธทหารบกในการตรวจสอบพื้นที่

ขณะที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ควรเปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถส่งเสียงได้ ซึ่งจะทำให้ทุกฝ่ายสามารถใช้พื้นที่ร่วมกันในการส่งเสียงไปยังผู้นำรัฐบาลหรือภาครัฐ แต่น่าเสียดายที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ปิดตาย ซึ่งยิ่งตอกย้ำว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศที่มีการเคารพระบอบประชาธิปไตยจริงๆ เพราะปกติเวลามีการจัดประชุมที่ประเทศอื่นก็มีการชุมนุม มีความพยายามที่จะส่งเสียงของภาคประชาชนตราบใดที่ยังไม่ถึงขนาดทำลายงาน ขณะที่ผู้นำประเทศอื่นๆ เขาก็รู้เรื่องนี้ดี สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีขึ้นเลย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง