ประเทศไทยต้องไปต่อ ‘บิ๊กตู่’แจงเหตุสมัครสมาชิกรทสช.มวลชนนับหมื่นเชียร์ลั่น

“ประยุทธ์” สมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติตลอดชีพอย่างเป็นทางการสุดคึกคัก ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนนับหมื่น รมต.-ส.ส.-นักการเมืองพาเหรดแห่มาเชียร์ พูดบนเวที 33 นาที รับคิดหนักมาหลายเดือน ไม่ได้อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่ที่มาถึงจุดนี้เพราะเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย ที่ประเทศไทยต้องไปต่อ ลั่นมีหัวใจสีม่วงไม่ใช่สีแดง เพราะเป็นสีหัวใจของคนใกล้ตาย ที่ไม่โกหก มีแต่ความซื่อสัตย์ “พี่ป้อม” อวยพรขอให้ประสบความสำเร็จ ภท.ประกาศเดินหน้าแข่งขันเต็มสูบ

เมื่อวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 แวดวงการเมืองต่างโฟกัสไปที่ความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

โดยช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย ประจำปี 2565  โดยก่อนการประชุมได้ยกมือรับไหว้สื่อมวลชนด้วยสีหน้าปกติ ขณะที่ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ ทำเพียงรับไหว้และยกมือทักทายสื่อมวลชน ก่อนเดินขึ้นไปทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที

ขณะเดียวกัน สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสือด่วนที่สุด นร 0508/ว (ร) 14 เรื่องนายกรัฐมนตรีขอลากิจ โดยแจ้งถึงรัฐมนตรีทุกคน โดยเนื้อหาระบุว่า "นายกฯ มีความประสงค์จะลากิจในวันจันทร์ที่ 9  มกราคม 2566 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ.2555 ข้อ 41 จึงเรียนมาเพื่อทราบ"

ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ยังลงนามในหนังสือคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 3 ฉบับ แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่  3/2566 แต่งตั้งนายชัชวาลล์ คงอุดม คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 4/2566 แต่งตั้งนายชุมพล กาญจนะ และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 5/2566 แต่งตั้งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ซึ่งทั้ง 3 คนที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯ ต่างเป็นนักการเมืองที่จะไปร่วมงานกับพรรค รทสช.ทั้งสิ้น

นายเสกสกลกล่าวหลังได้รับแต่งตั้งว่า พร้อมทำงานที่นายกฯ มอบหมายภารกิจให้ในเวลาที่เหลืออยู่ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ซึ่งที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าการที่ตั้งคนของพรรค รทสช.มาเป็นที่ปรึกษา จะเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่นั้น ไม่มีแน่นอน เพราะตำแหน่งนี้ไม่ใช่ตำแหน่งรับเงินเดือน แต่เป็นที่ปรึกษาที่นายกฯ แต่งตั้งเวลาที่มีภารกิจอะไรก็มอบเป็นเรื่องๆ ไป

“เป็นเรื่องปกติที่นายกฯ จะเอามาช่วยงาน ไม่ได้ฉวยโอกาสอะไร นายกฯ มีความเชื่อมั่นว่าอะไรที่จะให้จบก็ต้องจบ อะไรที่เป็นโครงการใหญ่ๆ ก็ต้องรอสานต่อสมัยหน้า นี่คือสิ่งที่นายกฯ ตั้งใจ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมืองเลย  เราไม่คิดจะเอาตำแหน่งหน้าที่ไปหาเสียง หรือเอาเวลาราชการไปลงพื้นที่เพื่อเอาเปรียบคู่ต่อสู้ ส่วนเรื่องหาเสียงหรือลงพื้นที่เป็นเวลานอกราชการ ซึ่งทั้ง 3 คนที่ตั้งวันนี้มีประสบการณ์การทำงานมาแล้วทั้งนั้น” นายเสกสกลระบุ

โวคนร่วมงานกว่า 3 หมื่น

ส่วนความเคลื่อนไหวที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช.ให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ว่าเป็นการประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี  และ พล.อ.ประยุทธ์จะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ทำให้สมาชิกจากทั่วประเทศอยากมาเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จึงทำให้มีผู้มาร่วมงานเป็นจำนวนมากกว่า 30,000 คนได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะเปิดตัวเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเลยหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ไม่ใช่ วันนี้ท่านมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้มีการเปิดตัวอะไรในลักษณะแคนดิเดตนายกฯ และยังไม่มีการดำรงตำแหน่งใดๆ ยังไม่ถึงเวลา

ส่วนบรรยากาศในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีสมาชิกพรรคมารอเข้าร่วมกิจกรรมล้นหลามตั้งแต่สถานที่จัดงานยังไม่เปิด โดยมีการเตรียมป้ายรอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์  รวมถึงซ้อมตะโกนเชียร์ "ลุงตู่สู้ๆ" เป็นระยะ รวมถึงมีการวางสแตนดีของนายพีระพันธุ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ที่ใส่เสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ด้วย ซึ่งได้รับความสนใจมีคนเข้าไปร่วมถ่ายรูปกับสแตนดีดังกล่าว

ขณะเดียวกันก็เริ่มมี ส.ส.และนักการเมืองหลายคนที่จะมาร่วมงานกับพรรค รทสช.ทยอยเดินทางมา โดยในเวลา 15.40 น. น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม  พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินทางมาถึง ตามด้วย  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯ กทม. ที่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค, นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน  อดีต ส.ส.ชลบุรี พรรค พปชร. ที่เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว  พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมชาวชลบุรีมาให้กำลังใจกว่า 5,000 คน, นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ  พร้อมนายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา และนายพยม  พรหมเพชร ส.ส.สงขลา พรรค พปชร., นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ รวมถึงนายเสกสรร ชัยเจริญ หรือหนุ่มเสก นักร้องนักแสดงชื่อดังในยุค 90 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น นายจงรักภักดี ญาณวินะโย

สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น เมื่อเวลา 15.00 น.ได้เดินทางออกจากทำเนียบฯ กลับเข้าบ้านพักเพื่อเปลี่ยนรถยนต์ จากรถประจำตำแหน่งหมายเลขทะเบียน 4 กต 29 กรุงเทพมหานคร เป็นรถยนต์ส่วนตัวทะเบียน ญค 1881 กรุงเทพมหานคร พร้อมเปลี่ยนชุดจากเครื่องแบบข้าราชการสีกากี เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวคลุมด้วยเสื้อแจ็กเก็ตลำลองสีดำ ก่อนเดินทางมายังศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยขบวนรถ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีรถนำและไม่มี  รปภ.ติดตามเหมือนตอนปฏิบัติหน้าที่นายกฯ มีเพียง รปภ.ส่วนล่วงหน้าแต่งกายนอกเครื่องแบบมาดูแลความเรียบร้อยสถานที่จัดงานเท่านั้น

และในเวลา 17.24 น. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีนายพีระพันธุ์นำแกนนำพรรคมารอต้อนรับ และพาเข้าห้องรับรองเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเวที ทั้งนี้ยังมีสมาชิกที่มาร่วมงานได้มาให้กำลังใจตะโกนลุงตู่สู้ๆ พร้อมมอบดอกกุหลาบ ขณะที่นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ โดยมีสีหน้าเรียบเฉย ท่ามกลางสื่อมวลชนจำนวนมาก

บิ๊กตู่สมัครสมาชิกตลอดชีพ

ต่อมาเวลา 17.35 น. ที่ห้องรับรองศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ถือฤกษ์ลงนามในใบสมัครสมาชิกพรรค รทสช.และได้เสียเงินค่าสมาชิก  2,000 บาทเป็นสมาชิกตลอดชีพ ทั้งนี้ช่วงเซ็นใบสมัคร มีนายพีระพันธุ์และนายเอกนัฏเป็นสักขีพยาน จากนั้นนายพีระพันธุ์เป็นผู้สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีขาวของพรรครวมไทยสร้างชาติให้ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมถ่ายภาพ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ทำมือเป็นสัญลักษณ์มินิฮาร์ต โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้เปลี่ยนเสื้อด้านในจากเสื้อเชิ้ตเป็นเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินของ รทสช. และสวมทับด้วยเสื้อแจ็กเก็ตสีขาวของพรรค

ในเวลา 18.15 น. บนเวทีในงานรวมใจ รวมไทยสร้างชาติ ได้มีการแนะนำตัวแกนนำและกรรมการบริหารพรรค  รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ อาทิ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี, นายชัชวาลล์ คงอุดม, นายเกชา ศักดิ์ สมบูรณ์, นายชุมพล กาญจนะ, นายปรีชา มุสิกกุล, นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร, นายโกวิทย์ ธารณา, นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายสยาม บางกุลธรรม และนายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง

จากนั้นนายพีระพันธุ์ได้ขึ้นเวทีกล่าวถึงแนวคิดและจุดยืนของพรรคตอนหนึ่งว่า เดือน ส.ค.เราประกาศจะนำความรักสามัคคีกลับสู่ประเทศ ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย พรรค รทสช.จะทำให้ประเทศไทยกลับมาปรองดองกันเหมือนเดิม  วันนี้เราได้รับความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่รักชาติบ้านเมืองเหมือนกัน เราไม่มีเวลาทะเลาะกันแล้ว ประเทศไทยต้องเดินหน้า พรรค รทสช.พรรคเดียวทำไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกและคนทั้งประเทศ แต่เราต้องนำความรักสามัคคีกลับมาให้ได้ นี่คือภารกิจหลักของพรรค ไม่มีประโยชน์ที่เราจะทำอะไร หากประเทศลุกเป็นไฟเพราะทะเลาะกันเอง วันนี้เรามีคนที่จะมาร่วมผลักดันพรรค รทสช.เดินหน้าประเทศ นั่นคือ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านเป็นทหารอาชีพ ไม่ได้คิดมาเป็นนักการเมือง แต่ที่ต้องเดินหน้าทางการเมือง เพราะต้องการสร้างพรรคการเมืองที่เป็นพรรคหลักของประเทศ เป็นสถาบันการเมืองเชิดชูชาติ  ศาสนา พระมหากษัตริย์ สร้างความสามัคคีปรองดองให้ประเทศและลูกหลาน เมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งขอให้รับฟังคำปราศรัยของพรรคเพื่อนำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง

จากนั้นเวลา 18.50 น. นายพีระพันธุ์เดินไปรับ  พล.อ.ประยุทธ์ในห้องรับรอง และพาเดินโชว์ตัวแก่สมาชิกพรรคภายในงาน ท่ามกลางเสียงเชียร์ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่อยู่ต่อ  เป็นกำลังใจให้นะ

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเวทีกล่าว Mission และทิศทางก้าวต่อไปเพื่อคนไทยทั้งชาติรวม 33 นาที โดยช่วงหนึ่งกล่าวว่า ขอขอบคุณด้วยใจจริง ได้เดินมาท่ามกลางหัวใจดวงเดียวกัน พวกเราคือคนไทยหัวใจเดียวกัน  ทั้งคนที่นี่และที่อยู่ทางบ้านทุกฝ่ายในฐานะคนไทย วันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองและเป็นพรรค รทสช. ทุกคนคงคุ้นเคยเพราะอยู่มาหลายปี คงจำหน้าได้ วันนี้อยากบอกว่าลบภาพลักษณ์ของเราไม่ได้  เป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่พยายามปรับตัวมาตลอด

เมื่อนายกฯ พูดถึงช่วงนี้มีเสียงกรี๊ดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า พูดจนเขิน อะไรก็ดีไปหมด ที่มีวันนี้ได้เพราะพวกเรา เพราะเราคือประเทศไทย คือแผ่นดินที่ศักดิ์สิทธิ์ เราเกิดที่นี่หากินที่นี่ บางท่านก็อยู่ที่นี่ บางท่านก็ไม่อยู่แล้ว แต่เราต้องดำรงรักษาแผ่นดินนี้ให้มากที่สุด รู้สึกตื้นตันใจ ไม่เคยตื่นเต้นมาก่อน วันนี้ได้พูดกับผู้บริหารพรรคว่าตื่นเต้น ปกติไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว เพราะเป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่วันนี้กลัวความรักที่ให้กับท่านจะเพียงพอกันไหม เพราะรักทุกคนจริงๆ เพราะเราคือเจ้าของแผ่นดินนี้  อยากที่จะบอกว่าเป็นทหารมาทั้งชีวิต ได้รับสั่งสอนมาแบบนี้มาตลอด ตั้งแต่เป็นทหารชั้นผู้น้อยมาจนเดินหน้าการบริหารประเทศ ยืนยันจะทำเพื่อความเจริญก้าวหน้าประเทศ

'บิ๊กตู่' ลั่นหัวใจสีม่วง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เราต้องยึดมั่นในชาติ  ศาสนา และพระมหากษัตริย์ นี่คือหัวใจของคนไทยทั้งชาติ  เป็นสิ่งสำคัญที่สุด คนเป็นทหารมาทั้งชีวิตผ่านการถวายสัตย์มาไม่รู้กี่ครั้ง ต้องซื่อสัตย์สุจริต และเป็นทหารเสือราชินี มีเครื่องหมายเสือสองตัวหัวใจตรงกลาง ถามว่าทำไมหัวใจสีม่วงไม่ใช่สีแดง เพราะผู้บังคับบัญชาต้องมีหัวใจแห่งความซื่อสัตย์ สีม่วงเป็นหัวใจคนใกล้ตายต้องไม่โกหก คนใกล้ตายต้องไม่โกหก ไม่รู้วันนี้เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ วันนี้ความมุ่งหมายจะมาพบทุกคนเพื่อดูว่าเรายังคงรักกันเหมือนเดิมหรือไม่ และได้คำตอบในห้องนี้ก็เยอะจริงๆ ไม่เคยเจอคนเยอะแบบนี้ วันนี้ทราบว่าทุกคนมาด้วยใจ หัวใจเป็นสิ่งที่แสดงออกให้เห็นถึงความรัก

 “พูดไปชักหายตื่นเต้น บางทีเครื่องร้อนเร็ว บางทีอุณหภูมิขึ้นเร็ว วันนี้ไม่ได้มาในฐานะนายกฯ แต่มาเพื่อบอกว่าทำไมผมต้องอยู่ รู้หรือไม่ว่าทำไม จะบอกว่าทำไม มายืนตรงนี้วันนี้เมื่อเรามีหัวใจดวงเดียวกัน ทำเพื่อชาติ  ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนเป็นหลัก เราต้องเป็นที่พึ่งประชาชนทุกโอกาส เราต้องร่วมมือร่วมใจ วันนี้หลายคนสงสัยว่าผมอยากเป็นต่อหรือไม่ ผมไม่ได้อยากเป็นใหญ่ ไม่ได้อยากมีอำนาจ อำนาจมีเยอะแล้ว มีมาทั้งชีวิต แต่อำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ การมีอำนาจต้องใช้ให้ถูกต้องเป็นธรรมตามกระบวนการ ที่มาวันนี้ไม่ได้อยากเป็น ไม่ได้อยากเป็นผู้ยิ่งใหญ่ และไม่อยากรับผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น วันนี้ที่มายืนตรงนี้เพราะผมเคารพในกระบวนการประชาธิปไตยของประเทศไทย ไม่ได้มาเพราะอยากอยู่ต่อ แต่อยากพูดกับทุกคนว่าประเทศไทยต้องไปต่อ บนพื้นฐานความมีศักยภาพ ความมั่นคง เพื่อเดินหน้าสู่การเมืองที่เป็นประชาธิปไตย ตลอดจนการพัฒนาประเทศ วันนี้ถ้ารวมใจ รวมคนไทย รวมไทยสร้างชาติ  ทุกอย่างเราแก้ได้แน่” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ฝากถึงทางบ้านด้วยเชียร์ออกทีวี ถ้าเข้าใจตนเอง ยิ้มที่บ้านก็พอ วันนี้ย้อนกลับดูว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร ซึ่งไม่สามารถแก้คนเดียว ต้องมีทีมงานที่เรียกพรรคการเมือง หลายคนหาว่าไม่เคารพกระบวนการ วันนี้จำเป็นด้วยเหตุผลประเทศไทยต้องไปต่อ สู่อนาคตที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน จึงตัดสินใจเข้าพรรคซึ่งคิดแล้วคิดอีกมาหลายเดือน ถ้ารู้แบบนี้มานานแล้ว เพราะไม่แน่ใจจะมีคนรักตนเองอีกหรือไม่ อย่าเป็นคนขี้เบื่อเร็วนัก

ช่วงหนึ่งมีกองเชียร์ตะโกนว่า “รักลุงๆ” พล.อ.ประยุทธ์จึงกล่าวว่า เราเป็นครอบครัวเดียวกัน เหมือนสามีภรรยา ต้องอย่าเบื่อกัน ต้องรักมากขึ้นตามเวลา ยิ่งแก่ก็ยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน ตนปากหวานแต่จริงใจ อย่างไรก็ตามย้อนไปตั้งแต่ปี 2562 เราเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่มีงานของเราที่ทำไม่จบ ตนจึงจำเป็นต้องก้าวมาสู่ตรงนี้ หลายอย่างต้องทำต่อ ทำใหม่ ทำเพิ่ม ทำอย่างไรให้เดินหน้าไปให้ได้ และในเมื่อตัดสินใจทางการเมืองร่วมกับพรรคนี้ หวังว่าจะมีโอกาสทำเรื่องต่างๆ ได้ วันนี้ต้องทำให้เราเข้มแข็งก่อน ประเทศไทยมีอยู่แล้วความมีเสถียรภาพ ความรัก และความสามัคคี ต้องไม่ให้ใครมาทำลายความรักความสามัคคี ซึ่งคนไทยรักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด ต้องต่อสู้ฟันฝ่าไปข้างหน้า ดังนั้นงานที่ตนจำเป็นต้องทำต่อจำเป็นต้องมายืนตรงนี้ ประเทศไทยไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของพวกเราทุกคน ปัญหาที่ผ่านมาทุกคนทราบดีอยู่แล้ว หลายๆ อย่างค้างอยู่ เราต้องเดินหน้าสานต่อให้ได้ พวกเราต้องไปร่วมกันให้ได้ จับมือชูไปด้วยกัน ไม่มีอะไรเอาชนะไม่ได้ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน เราทุกคนถึงต้องมายืนตรงนี้ในนามรวมไทยสร้างชาติ เป็นสิ่งที่ตัดสินใจมายืนตรงนี้ แม้เหนื่อยเครียดก็พยายามอดทน เพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า แต่ไม่ใช่ตนพูดแล้วจะได้เลย ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่เสียงของประชาชนตัดสินใจ ตนไปกำหนดอะไรไม่ได้อยู่แล้ว

ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จริงๆ คิดมาหลายวัน คิดมาหลายเดือนว่าไปตรงไหนดี กลับบ้านนอนเลยดีกว่า แต่ก็คิดว่าแล้วเราจะนอนหลับหรือไม่ ก็ต้องเลือกว่าทำอย่างไรต่อไปดี รวมไทยสร้างชาติเป็นคนพูดคำนี้ไว้เองว่า ถ้าประเทศไทยจะเดินไปข้างหน้าต้องรวมไทยสร้างชาติ แล้ววันนี้เอาชื่อที่พูดมาตั้งชื่อพรรค เดี๋ยวคงต้องเรียกลิขสิทธิ์

จากนั้นในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ได้นำร้องเพลงศรัทธา ของวงหินเหล็กไฟ พร้อมตะโกนดังๆ ว่ารวมไทยสร้างชาติ

พี่ป้อมอวยพรให้ประสบความสำเร็จ

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ นั้น  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอให้ประสบความสำเร็จ"  และเมื่อซักต่อว่าเป็นห่วงอะไรหรือไม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์จะมาเล่นการเมืองเต็มตัว พล.อ.ประวิตรปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว

นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า พรรคจะส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตครบทั้ง 400 เขต และเมื่อสถานการณ์การเมืองชัดเจนจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์เปิดตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว ถือว่าเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นวันใดวันหนึ่งไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้านี้ พรรคจึงต้องประชุมเตรียมความพร้อมเข้มข้นมากขึ้น โดยได้แต่งตั้งผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่หาเสียงในแต่ละภาค และในวันที่ 11 ม.ค.นี้ นายพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์ จะเข้ามาเปิดตัวที่พรรคพร้อมกับทีม ทม. รวมถึงจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.อีกบางส่วน ซึ่งยืนยันว่าวันนี้พรรคมีความพร้อมในการเลือกตั้งแล้ว

นายศุภชัยกล่าวอีกว่า ช่วงปลายปีที่ผ่านมามีผู้บริหารพรรคการเมืองได้แสดงความเห็นกรณีการย้ายพรรคของ  ส.ส.จากพรรคอื่นมาอยู่ภรรค ภท. โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคเสรีรวมไทย เราจึงปกป้องสิทธิ์ โดยจะร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)  ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อให้  กกต.ดำเนินการสอบสวนหาผู้กระทำผิดต่อไป และถ้าพฤติการณ์ยังแสดงให้เห็นถึงขั้นยุบพรรค เราก็จะขอให้ กกต.ดำเนินการด้วย นอกจากนี้มีประเด็นที่ให้สัมภาษณ์ลักษณะใส่ร้ายหัวหน้าพรรค ภท.ในเรื่องชะลอเบิกเงินประกันสุขภาพนอกสิทธิ สปสช.ของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล เราก็จะดำเนินคดีกับกรณีดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง เพราะการใส่ร้ายโดยไม่เป็นความจริงมีผลกระทบอย่างยิ่ง โดยเฉพาะช่วงใกล้การเลือกตั้ง เราจึงต้องปกป้องตัวเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เศรษฐา’ ลุยสวน ชิมทุเรียน 3 สายพันธุ์

เมื่อเวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางด้วยรถยนต์อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน 8 กผ 1127 กรุงเทพมหานคร ถึงสวนนวลทองจันทร์ ตำบลมาบไพ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจติดตามการผลิตทุเรียนคุณภาพปลอดภัยมูลค่าสูง และรับฟังปัญหาจากเกษตรกร