เด้งผกก.ห้วยขวางเซ่นสาวไต้หวัน

กู่ไม่กลับ ตำรวจไทยเน่าเฟะ เด้ง ผกก.สน.ห้วยขวางช่วยราชการ "ชูวิทย์" โพสต์หลักฐานมัดรับสารภาพรีดเงินดาราสาวไต้หวันจริง ผลสอบวงใน 6  ตร.สน.ห้วยขวางเปิดปากแล้วไถจริง 27,000 บาท แต่นครบาลฮึ่ม แจ้งข้อหา 157 ไปก่อน ส่วนเรียกรับเงินรอสอบพยานเพิ่มเติม 

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ด่วนที่สุด! ตำรวจรีดเงินดาราสาวไต้หวันจริง” ระบุว่า "ระเบิดลงนครบาล! เมื่อเย็นนี้ ผบช.น.ให้โฆษกฯ แถลงข่าวยืนยันว่า ตรวจสอบแล้ว ไม่มีตำรวจห้วยขวางเรียกรับผลประโยชน์ แต่ปรากฏว่ามีผู้หญิงคนไทย แฟนเป็นคนสิงคโปร์ ที่ไปร่วมวงสังสรรค์กินเหล้ากับดาราสาวไต้หวัน ให้การยืนยันว่า ได้เป็นผู้จ่ายเงินจำนวน 27,000 บาท ให้กับตำรวจที่ตั้งด่านด้วยตัวเอง! และมีคลิปยืนยันด้วย เพราะเห็นว่าการแถลงข่าวเมื่อเย็นของนครบาลยังปากแข็ง ไม่ยอมรับ ทำให้ตำรวจห้วยขวางชุดที่ตั้งด่าน เพิ่งรับสารภาพสดๆ  ร้อนๆ ว่ารีดเงิน 27,000 บาท จริง!"

"ก่อนหน้านี้ ผบช.น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ใช้ให้ลูกน้อง พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการ น.1 และ  พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง ไปวางแผนทำขายขี้หน้าหลายเรื่อง 1.ลบคลิปที่ด่านหน้าสถานทูตจีน 2.ลบคลิปกล้องบนหมวกของตำรวจที่ด่าน 3. กล่อมให้คนขับแกร็บยืนยันว่าดาราสาวไต้หวันเมามาก พูดไม่รู้เรื่อง อยู่ที่ด่านแค่ 40 นาที แล้วอ้างว่ากล้องหน้ารถบันทึกได้แค่ 20 วัน จึงไม่มีภาพ 4.ปล่อยคลิปสารพัดเพื่อดิสเครดิตดาราสาวไต้หวัน 5.ตอบโต้ แก้ตัวแทนลูกน้องตัวเอง โยนไปว่าสาวไต้หวันแต่งเรื่อง"

 “ผบ.ตร.เห็นท่าไม่ดี สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้การศูนย์สืบสวนนครบาล รีบบินด่วนเพื่อไปสอบปากคำดาราสาวไต้หวัน พร้อมกันกับที่สาวไทยที่ไปเที่ยวด้วยกัน มาให้ข้อมูลว่าเป็นคนจ่ายเงิน 27,000 บาทด้วยตัวเอง ทีม บช.น.จึงชิงกลับลำ ให้ตำรวจห้วยขวางสารภาพเสียดีกว่า ระเบิดจึงลงที่นครบาลอีกครั้ง พังไม่เป็นท่า วันจันทร์คงแบกหน้าสารภาพผิด”

นายชูวิทย์ระบุด้วยว่า "เรื่องสำนวน 'ตู้ห่าว' ยังมีกลิ่นตุๆ ไม่หาย ยังมาทำเรื่อง 'สาวไต้หวัน' ให้กลิ่นเหม็นเน่าเข้าไปอีก เพิ่งเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว กลับเจอด่านรีดไถ เพราะบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้อับอายขายขี้หน้าไม่พอ ที่สำคัญยังไป 'แต่งเรื่อง' ทำลายหลักฐาน ไม่ยอมรับความจริง กลับโทษสาวไต้หวันคนพูดความจริงเสียอีก ตำรวจนครบาลภายใต้การกำกับของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง เจ้าเก่าอีกแล้ว แทนที่จะกล้ายอมรับความจริง จัดการให้คนต่างชาติเขาเห็นว่า เราเอาจริงกับตำรวจรีดไถ ดันแต่งเรื่องช่วยปกป้องคนผิด โยนว่าสาวไต้หวันเมา"

 “ผมบอกท่านนายกฯ ไว้แล้ว เมื่อวันไปพบที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ดันไม่เชื่อผม ให้ ผบช.น.คนนี้อยู่นครบาลต่อไป ยังมีระเบิดลงอีกเป็นลูกระนาด”

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ดำรงตำแหน่งระดับ สว.และรอง ผกก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร.  ซึ่งภายหลังจากประชุมผู้บังคับบัญชาได้มีการหารือในกรณีสาวไต้หวันถูกรีดเงิน 27,000 บาท

มีรายงานในการพูดคุยยืนยันว่า ตำรวจที่ตั้งด่านสกัดในวันนั้นมีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นเงินสดจำนวน  27,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี โดยกล่าวหานักท่องเที่ยวว่ามีความผิด ซึ่งการจ่ายเงินครั้งนี้มีเพื่อนชายชาวสิงคโปร์เป็นคนจ่ายเงินให้ตำรวจ

ทั้งนี้ จากการสอบสวนปากคำอย่างละเอียดของตำรวจแต่ละนาย ทำให้มีผู้ยอมรับสารภาพว่าในวันดังกล่าวมีการเรียกเก็บเงินจริง และมีการแบ่งเงินกันที่บริเวณด่านในคืนเกิดเหตุ จากนั้นเมื่อปรากฏเป็นข่าว ชุดตำรวจในวันนั้นพยายามปกปิดข้อมูลและไม่ยอมรับในช่วงแรก เนื่องจากเห็นว่าผู้เสียหายเป็นคนต่างชาติและไม่มีการแจ้งความดำเนินคดี

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการตรวจสอบหลังจากนายชูวิทย์แฉหลักฐานว่า การดำเนินการในส่วนของการตรวจสอบตั้งแต่มีคำสั่งให้ดูทั้ง 2 ส่วน

ส่วนที่ 1.ประเด็นเป็นการละเว้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ในส่วนนี้ได้มีการเรียกผู้ที่ทำการสืบสวนนำข้อมูลมาสรุปให้ฝ่ายคณะกรรมการตรวจสอบรับทราบ ซึ่งคณะกรรมการได้ตรวจสอบมาแล้วระยะหนึ่ง มีความเห็นรอสรุป โดยความสรุปแล้วคณะกรรมการมีความเห็นเรื่องการละเว้นนั้น เจ้าหน้าที่มีการละเว้นอันเป็นความผิด 157  และได้มีหนังสือสั่งการแจ้งข้อกล่าวหาไปส่วนหนึ่งแล้ว

2.เรื่องการเรียกรับเป็นคนละส่วนกับ 157 จะต้องดำเนินการติดตามพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องมาสอบสวน ถ้ามีความผิดชัดเจนก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติม ไม่ได้มีการละเว้น ดำเนินการทั้ง 2 ส่วน ทั้ง157 และการเรียกรับ แต่ในขณะนี้หลักฐานชัดเจนว่า พนักงานสอบสวนตรวจสอบจากวงจรปิดที่มีก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ และช่วงเวลาตรวจค้นพบว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มนักท่องเที่ยวดำเนินการอย่างไร หลังเกิดเหตุดำเนินการอย่างไร ในช่วงเวลาทำการตรวจค้นคณะกรรมการตรวจสอบตั้งว่า เหตุใดจึงมีการเรียกหยุดตรวจค้น ตรวจอะไร พบอะไร และทำไมถึงใช้เวลานาน  ทุกอย่างอยู่ในเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริง และเมื่อตรวจสอบพบว่าพยานหลักฐานที่ได้จากคลิปวงจรปิดสอดคล้องหรือไม่สอดคล้อง

ที่มีความผิดชัดเจนหรือ 157 ก็เอาเรื่อง 157 ดำเนินการทางอาญาและวินัยไปก่อน ส่วนเรื่องการเรียกรับคณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ถ้าครบองค์ประกอบก็แจ้งข้อหาเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผบก.น.1 และ ผกก.สน.ห้วยขวาง  ได้มีการสั่งให้ทำลายหลักฐานโดยลบภาพวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ ตามที่นายชูวิทย์กล่าวหาหรือไม่ พล.ต.ท.ธิติยืนยันว่า ไม่มีใครสั่งให้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายได้ เพราะต้นฉบับมีอยู่ที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบได้

 ถามต่อว่า ตำรวจทั้ง 6 นายรับสารภาพหรือยัง  ผบช.น.ตอบว่า สอบครั้งแรกยังไม่รับ แต่ครั้งนี้ถ้ามีข้อมูลเอาเข้ามา ส่วนจะกลับคำให้การหรือไม่ต้องให้ ผบก.น.1  ไปตรวจสอบอีกครั้ง ต้องทำเรื่องนี้ให้ชัดเจน

 “ในฐานะที่เป็นข้าราชการตำรวจ ต้องขอฝากขออภัยไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจบางส่วนทำให้เกิดผลกระทบภาพลักษณ์ของสังคมและประเทศแทนข้าราชการตำรวจทุกคนด้วย” ผบช.น.กล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการด่วนให้ ผบช.น.สั่ง ผกก.สน.ห้วยขวางมาช่วยราชการ พร้อมกำชับ น.1 ดำเนินการตั้งกรรมการวินัยร้ายแรงและดำเนินคดีอาญาในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่กระทำความผิดในเหตุดังกล่าวทุกรายอย่างเด็ดขาด มิให้เป็นเยี่ยงอย่าง”

ขณะที่ บช.น.ได้แจกจ่ายข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่า  หากพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ไม่มีการละเว้น ไม่ว่าฝ่ายใด บช.น.ต้องขอโทษมายังประชาชนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้กระทำการให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดผลกระทบต่อส่วนรวม ซึ่ง บช.น.จะรายงานความคืบหน้าการดำเนินการในโอกาสต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา  พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น.ได้แถลงผลการประชุมคลี่คลายปมดาราไต้หวันอ้างถูกตำรวจรีดเงิน 27,000 บาท ยืนยันสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า  10 คน เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่ามีการเรียกรับเงินตามที่ถูกกล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม หลังมีข่าว ตร.สน.ห้วยขวางรับสารภาพมีการรีดเงินดาราสาวไต้หวันจริง  บช.น.ได้ทำเอกสารข่าวแจก โดยไม่ได้มาตั้งโต๊ะแถลงข่าวแต่อย่างใด

ที่วัดดงแม่ศรีเมือง ต.ตาสัง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พูดบนเวทีว่า ได้ลงนามคำสั่งย้ายตำรวจที่มีการทุจริตหลังนักท่องเที่ยวชาวไต้หวันร้องเรียนว่า​ ให้ไปตามข่าวเอาเอง ขอมาก็ดำเนินการให้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เรื่องการโยกย้ายตำรวจได้มีการสั่งการเองใช่หรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ระบุว่า​ ไม่ต้องสั่ง​ หน่วยงานเขา​ ขออนุมัติมา​ก็ให้เขาไป​ ซึ่งหน่วยงานเขาเป็นคนทำก็ให้เขาทำไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง