เหลิมป้องอิ๊งค์ฉะสว.ปัญญาทึบ

“บิ๊กตู่” ลั่นมีความปรารถนาดีให้ทุกคน ไม่เคยเกลียดหรือโกรธใครเพราะต่างเป็นคนไทยทั้งสิ้น “บิ๊กป้อม” สุดคึกคักควง 33 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ลุยเขตป้อมปราบฯ ชูก้าวข้ามความขัดแย้ง-ขจัดความยากจน “ท็อป” ไม่ขวางย้ายค่าย แต่ลั่นสุพรรณบุรี 5 เก้าอี้ต้องชาติไทยพัฒนาเท่านั้น “ดร.เหลิม” โผล่อวยอุ๊งอิ๊ง บอกเป็นกระแสโลกผู้นำอายุน้อย ซัดพลังประชารัฐกากเดนรัฐประหาร

เมื่อวันอังคารที่ 14 ภุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันวาเลนไทน์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สวมเสื้อผ้าไหมสีชมพู โดยเมื่อสื่อมวลชนได้ทักทายว่า แฮปปี้วาเลนไทน์เดย์ พล.อ.ประยุทธ์ตอบกลับว่า แฮปปี้วาเลนไทน์นะ

ขณะที่รัฐมนตรีหลายคนก็พากันสวมเสื้อสีชมพู สื่อถึงความรัก ความสดใสในวันแห่งความรัก แต่ก็มีรัฐมนตรีลาประชุม 4 คน ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ, นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ, นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายสุนทร ปานแสงทอง รมช.เกษตรและสหกรณ์

ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในวันวาเลนไทน์ว่า บอกแล้วไง รักทุกคน รักทุกวัน วันวาเลนไทน์ถือเป็นวันสำคัญ ซึ่งจริงๆ ถือเป็นวันของต่างประเทศ วันนี้กลายเป็นของไทยไปด้วยแล้ว ก็ยินดี ใครที่ยังไม่มีแฟนก็ขอให้มีแฟนทุกคน ใครยังไม่แต่งงานก็ขอให้แต่งงานทุกคน ถ้าพยายามมาหลายปียังไม่สำเร็จก็พยายามต่อไป ขอให้มีความสำเร็จนะจ๊ะ

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ติดอันดับที่ 5 มีคนอยากมอบดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ขอรับไว้ด้วยใจนะจ๊ะ นายกฯ ก็มอบดอกไม้ในดวงใจของนายกฯ ให้ทุกคนเหมือนกัน นายกฯ ไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้น มีแต่ความปรารถนาดีให้กับคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ว่าจะชอบไม่ชอบ แต่นายกฯ ไม่เคยเกลียดไม่เคยโกรธ บางเวลาก็มีอารมณ์บ้าง ก็แค่นั้นเอง เพราะเราคือคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือ เราควรมอบความรักความปรารถนาดีให้กันและกัน สนับสนุนกำลังใจให้กันและกัน มีข้อบกพร่องหรือมีปัญหาอะไรต่างๆ ก็ตาม ก็ถามมาก็ตอบไป

 “เราต้องรักกันให้มาก ไม่ใช่รักกันเฉพาะวันวาเลนไทน์ รักกันได้ทั้งปี ทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งเดือน ตลอดชีวิตนั่นแหละ เราต้องรักกัน ถ้าเราไม่รักกันแผ่นดินเราก็จะไม่สงบนะจ๊ะ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่า ความรักมันจะก่อให้เกิดความร่วมมือและปัญหาต่างๆ เราจะแก้ไขไปได้ด้วยกัน พร้อมๆ กัน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงหลังการประชุม ครม. ถึงคำปรารภและข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า เนื่องในวันวาเลนไทน์ นายกฯ ขอนำความปรารถนาดีมาถึงทุกคนในวันแห่งความรัก โดยนายกฯ ขอให้ ครม.ช่วยกันทำหน้าที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ให้เต็มที่ ในช่วงระยะเวลาที่งวดเข้ามา อะไรที่เร่งได้ ก็ขอให้เร่งดำเนินการ และนายกฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง และไม่มีเรื่องการกระทบกระทั่งกัน การให้เกียรติซึ่งกันและกันในการทำงานเป็นสิ่งที่นายกฯ ยึดมั่นมาตลอด ขอให้ทุกคนทำงานด้วยความเข้าใจ ต่อเนื่องกันไปจนกว่าจะหมดวาระการทำงาน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงวันวาเลนไทน์ว่า ขอให้โลกนี้มีความรักกันมากๆ ห่วงใยกัน เอื้ออาทรกัน ทุกอย่างก็จะไปได้ด้วยดี สำหรับตนเองแล้ว ทุกวันเป็นวันวาเลนไทน์ รักทุกวันลูเยิฟ (เลิฟยู)  

‘บิ๊กป้อม’ ลงป้อมปราบฯ คึก

วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ โดยที่วัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พล.อ.ประวิตรพร้อมผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด และได้แวะทักทายประชาชนที่มาทำบุญเสริมดวง แก้ชง พร้อมถ่ายรูปเซลฟีทำท่า Y2K และติดสติกเกอร์รูปหัวใจคืนให้ประชาชนเป็นสัญลักษณ์แทนความรัก ก่อนขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียงที่ติดป้ายสื่อสารความหมายป้อมปราบศัตรูพ่าย คือปราบศัตรู การจราจรติดขัด ยาเสพติด หนี้นอกระบบ ปัญหาฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 ปัญหารถสาธารณะ ขยะล้นเมืองความยากจน และค่าครองชีพของประชาชน รวมถึงสโลแกนก้าวข้ามผ่านความขัดแย้ง ทั้งนี้ ก่อนขึ้นรถแห่ปราศรัยหาเสียง ระหว่างทาง พล.อ.ประวิตรได้ปราศรัยขอให้ชาว กทม.เลือก พปชร. เพื่อเข้ามาขจัดปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะก้าวข้ามความขัดแย้งในสังคม

ขบวนรถแห่ได้เคลื่อนไปยังวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งตลอดเส้นทาง พล.อ.ประวิตรได้โบกมือทักทายพ่อค้าแม่ค้า  ประชาชนที่มาทำบุญและจับจ่ายซื้อของในย่านดังกล่าวตลอดสองข้างทาง เมื่อถึงวัดสระเกศฯ คณะ พล.อ.ประวิตรเข้าวางพานดอกไม้สักการะพระพุทธมงคลชินสีห์วชิรมุนี จากนั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน พร้อมกล่าวให้พรว่า “ขออนุโมทนาทุกท่านมีกำลังกาย มีกำลังใจ และสติปัญญาที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ และมีกำลังพัฒนาประเทศชาติยิ่งๆ ขึ้นไป” โดยบรรยากาศที่วัดได้มีมวลชนของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.มาถือป้ายให้กำลังใจว่าที่ผู้สมัครตัวเองและ พล.อ.ประวิตร โดยมีเด็กผู้หญิงหอมแก้ม พล.อ.ประวิตรด้วย

พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงความรู้สึกที่มีประชาชนทักทายและให้การตอบรับระหว่างลงพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ว่า ดีใจ ขอบคุณทุกคนที่ทักทาย รวมถึงที่มีประชาชนสองข้างทางทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยูในวันวาเลนไทน์ให้ด้วย อยากให้คนไทยรักกันทุกคน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดความยากจน ส่วนเรื่องกระแสตอบรับดีหรือไม่นั้น ก็ถือว่าดี แต่จะดีแค่ไหนนั้นตอบไม่ได้ เพราะอยู่ที่ประชาชน 

เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่ถูกสาวๆ หอมแก้มหลายคน ชินหรือยัง พล.อ.ประวิตรสวนว่า คุณมาโดนบ้างดิ ทำให้แกนนำพรรคและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่ยืนอยู่ด้านหลังต่างหัวเราะชอบใจ 

ถามว่า ทำไมถึงเลือกลงพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และมาจบที่ป้อมมหากาฬ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า วันนี้วันวาเลนไทน์ ต้องการความรักของคน กทม. ให้เรารักกัน ก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด และจะมาขจัดความยากจนในทุกพื้นที่ให้หมดไป และพัฒนาเรื่องของความแห้งแล้ง ต้องไม่มีแล้งในทุกพื้นที่อีกต่อไป นี่เป็นความคิดที่ พปชร.ดำเนินการมาตลอด

เมื่อถามอีกว่า ที่ลงเขตป้อมปราบฯ เพราะมั่นใจว่าจะชนะแน่นอนใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ป้อมปราบศัตรู ต้องการปราบความยากจน ไม่ได้ปราบศัตรู ไม่มี เราก้าวข้ามความขัดแย้ง 

เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนกับพื้นที่ กทม. พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอบไม่ได้ว่ามั่นใจหรือไม่มั่นใจ แต่การที่เราส่งคนก็ต้องมั่นใจว่าเราได้พยายามคัดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถที่เข้ามาพัฒนาพื้นที่ ดูแลประชาชน ซึ่งตั้งเป้า 12 ที่นั่งเป็นต้นไปเหมือนครั้งที่ผ่านมา ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้ 12, 13, 14, 15 หรือเท่าไหร่ ต้องรอเลือกตั้ง แต่มั่นใจว่าได้พยายามคัดคนที่มีความรู้ความสามารถที่จะมาทำงานแทนประชาชน เพื่อให้ประชาชนพ้นความยากจน และขจัดความขัดแย้งตามนโยบายของพรรค 

สามมิตรยันไม่ย้ายค่าย

ถามถึงกระแสข่าวมีหลายกลุ่มในพรรค พปชร.ไหลออกไปบ้านใหญ่บ้าง  กลุ่มสามมิตรบ้าง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ไหนบ้านใหญ่ มีใครบ้าง ยืนยันว่าไม่มี กลุ่มสามมิตรยังอยู่ ไม่เห็นมีใครไปไหน มีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ คนเดียวที่ออกไป นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ก็ยังอยู่ และคนเข้ามาอีกเป็นร้อย 

เมื่อถามว่า กลุ่มตระกูลคุณปลื้ม จ.ชลบุรี ออกไปใจหายหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่หายนี่ครับ ทั้งนี้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค พูดแทรกขึ้นว่า เรามีตัวแทน

นายสมศักดิ์ยืนยันเรื่องนี้ว่า ตนเองกับนายสุริยะทำการเมืองด้วยกันมาเกือบ 30 ปี เรามีแนวทาง วิธีคิดต่างๆ เหมือนกัน เมื่อนายสุริยะประกาศแล้วก็เป็นอย่างนั้น ส่วนที่สื่ออยากรู้ คือเรื่องทีมงานใน จ.สุโขทัยจะย้ายไปพรรคอื่นหรือไม่นั้น ขอบอกว่าไม่เคยหวงห้ามใครทั้งสิ้น

 “ผมยืนยันว่าตัวผมเองและท่านสุริยะไปด้วยกันทิศทางเดียวกัน ท่านสุริยะพูดอย่างงั้นก็โอเค” นายสมศักดิ์กล่าว และว่าถึงการทำงานร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ว่าไม่มีปัญหาอะไรกัน เพราะไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เราต้องทำตัวเหมือนน้ำที่อยู่ในแก้วน้ำแข็ง ที่สามารถเชื่อมประสานให้เป็นเนื้อเดียวและทำงานร่วมกันได้

ขณะที่นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. กล่าวถึงกรณีหนังสือลงนามโดย พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค พปชร. ให้ปลดป้ายหาเสียง 2 ผู้สมัคร จ.ชัยภูมิออกว่า ได้ให้ผู้ที่มีผลกระทบไปแจ้งความกับกรณีที่มีหนังสือปลอมออกมาจนทำให้ผู้สมัคร ส.ส.ได้รับความเสียหายที่ไปให้เขาปลดป้ายลง ซึ่งเราเชื่อว่าหนังสือฉบับนี้ พล.อ.วิชญ์ไม่ได้เซ็น เพราะมีการตรวจสอบหมดแล้ว นาทีนี้จะไปเปลี่ยนเขาได้อย่างไร เขามีความผิดตรงไหน และเขายังเป็นประธานจังหวัด รวมถึงประธานสาขาด้วย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรยังไม่ทราบเรื่องนี้ ยังไม่ได้คุย แต่เชื่อว่าจะไม่กลายเป็นความขัดแย้งในพรรค

 “คงจะเป็นไอ้โม่ง น่าจะเป็นคุณโม่งอยู่แถวๆ นี้ เป็นไอ้โม่งที่อยู่ จ.ชัยภูมิ” นายวิรัชกล่าวถึงคนที่ทำเรื่องนี้

ด้านความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีบรรยากาศพรรคร่วมรัฐบาลในขณะนี้ หลังมีการออกมาระบุว่า มีพรรคการเมืองไร้มารยาทในเรื่องการดูด ส.ส.ว่า ไม่เคยได้ยิน และพรรคภูมิใจไทยก็ไม่เคยดูด

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมือง แต่จากการที่ได้ทำงานร่วมกันมาในหลายโอกาส ทำให้รู้สึกแปลกใจ ทำให้คิดว่าเมื่อเวลาผ่านไปทำให้การเมืองมีการพัฒนาวัฒนธรรมใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ตนอาจยังยึดติดอยู่กับวัฒนธรรมเดิมๆ อยู่แบบที่พรรค ชทพ.เคยทำมา และคิดว่าต่างพรรคต่างมีแนวทางการทำงานแตกต่างกันไป พรรค ชทพ.เราพูดแล้วว่าพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ถ้าไม่ใช่พรรค ชทพ.เข้ามาก็ลุยเต็มที่เหมือนกัน ในส่วนของนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.สุพรรณบุรีของพรรค ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ อ.บางปลาม้า เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ซึ่งนั่นทำให้เห็นชัดว่านายณัฐวุฒิยังอยู่กับพรรค ชทพ. แต่ในส่วนของน้องชายนายณัฐวุฒิ ก็ต่างกรรมต่างวาระ มีแนวทางแตกต่างกันไป ซึ่งก็ตอบแทนเขาไม่ได้

“ไม่ได้คุย ไม่ได้ถาม เพราะโตๆ กันแล้ว ใครอยากทำอะไรคงบังคับจิตใจกันไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำได้คือหากใครเข้ามาเราต้องป้องกันพื้นที่เราเต็มที่” นายวราวุธกล่าวตอบเรื่องได้พูดคุยกับน้องชายนายณัฐวุฒิหรือไม่

เมื่อถามว่า พรรค ชทพ.ยืนยันสุพรรณบุรีแลนด์สไลด์ 5 เขตเลยใช่หรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า “ขอไม่ใช้คำว่าแลนด์สไลด์ เดี๋ยวจะหาว่าเลียนแบบ แต่เรามั่นใจว่าเราถล่มทลาย และเราจะยึด 5 เขตของสุพรรณบุรีให้ได้”

‘ณัฐวุฒิ’ รับไม่ชอบ ‘บิ๊กตู่’

นายณัฐวุฒิให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ว่าเคยถูกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เชิญไปทานข้าวในช่วงที่ก่อตั้งพรรค รทสช. เพื่อทาบทามให้ย้ายพรรค ซึ่งปฏิเสธไปพร้อมบอกว่าไปไม่ได้ เพราะสุพรรณบุรีต้องชาติไทยพัฒนาเท่านั้น และไม่คิดย้ายพรรค เนื่องจากผูกพัน และสร้างพื้นที่มาด้วยกันตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ แม้จะสนิทสนมและเคารพกับนายพีระพันธุ์มานาน แต่บอกไปว่าไม่เคยศรัทธา พล.อ.ประยุทธ์ เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน ไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ เพราะการทำงานการเมืองต้องส่งมอบบ้านเมืองที่สมบูรณ์และครบถ้วนสำหรับลูกหลานต่อไป แต่สิ่งที่ทำทุกวันนี้ คือการหมักหมมปัญหาให้บ้านเมือง 8 ปีที่ผ่านมาสร้างความเสียหายในระยะยาวอีกมาก แม้ปฏิรูปอีก 3 รอบก็ไม่สามารถแก้ได้ ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ยังบอกว่าหากคิดจะย้ายขอให้พิจารณาพรรค รทสช.เป็นพรรคแรก

นายณัฐวุฒิยังปฏิเสธการอยู่เบื้องหลังที่นายชาญชัย ประเสริฐสุวรรณ ตอบตกลงจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 1 พรรค รทสช. ว่าไม่ทราบมาก่อน แต่เมื่อ 3-4 วันก่อนได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านว่าจะมีการประชุมเพื่อตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เพื่อทำไพรมารีโหวตผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งตกใจ เพราะไม่มีความเคลื่อนไหวมาก่อน จึงแจ้งไปยังนายวราวุธบอกว่าไม่ทราบมาก่อน และการตัดสินใจเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับความเป็นพี่น้องหรือนามสกุลประเสริฐสุวรรณ และไม่ทราบว่าอีกพรรคนั้นคิดอย่างไรที่เชิญนายชาญชัยเป็นผู้ริเริ่มประชุมตัวแทนพรรคประจำจังหวัดเพื่อเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้ง

 “ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ไม่มีใครชนะพรรคชาติไทยพัฒนาได้ การลงทุนทางการเมืองแบบนี้ ถือว่าจะมีความเสียหายทางการเมืองมากกว่า ไม่มีใครทำ เขาประเมินดูแล้วมีแต่ลบ ไม่มีบวก คนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองต้องใจใหญ่ อย่ามองแคบ หากจะเป็นแกนนำหรือเป็นนายกฯ ต่อไป” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคการเมือง พรรค รทสช. กล่าวในประเด็นนี้ว่า ไม่ทราบ และเข้าใจว่าเรื่องของการย้ายพรรคเป็นเรื่องของการเมือง และก็ต้องให้เกียรติ ส.ส. และผู้สมัคร ส.ส. ก็ย่อมรู้ว่าหากอยู่ตรงไหน แล้วจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ฉะนั้นจึงไม่อยากให้ไปตำหนิติเตียนกลไกเหล่านี้ เพราะทุกพรรคก็ขยับขยายกัน

 “ทุกพรรคก็ต้องมีมารยาททั้งนั้น แต่อยู่ที่ว่าแต่ละพรรคเข้าใจมารยาทแบบไหนมากกว่า แล้ววันนี้ต้องยอมรับจากการที่ลงพื้นที่บ่อยๆ กระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีอยู่สูงมาก ไม่ใช่เฉพาะภาคใต้ ภาคกลาง แต่มีหลายภาค ทั้งนี้ มีนักการเมืองหลายคนติดต่อที่จะมาสมัครอยู่กับพรรคจำนวนมาก” นายธนกรกล่าว และว่า พล.อ.ประยุทธ์จะขึ้นเวทีปราศรัยประตูสู่อีสานที่จังหวัดนครราชสีมาในวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคอีสาน ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว โดยจะมีคนไปร่วมฟังเวทีปราศรัย 4-5 หมื่นคน

ขณะที่พรรค รทสช.ได้เผยแพร่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อสูท ที่นิ้วนางข้างซ้ายสวมแหวนนพเก้าและแหวนนโม ยืนกอดธงชาติไทยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมมีข้อความระบุว่า “รักเธอประเทศไทย” และ “สุขสันต์วันแห่งความรัก” เพื่อเป็นการแสดงถึงความรักประเทศไทยและประชาชนคนไทย สอดคล้องกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ก่อนวันวาเลนไทน์ ว่ามีความรักให้ทุกๆ คนทุกวัน

สำหรับท่าที ส.ว.ที่ขู่ไม่โหวตให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกฯ โดยจะโหวตให้แค่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องไปถาม ส.ว. ไม่ใช่คนคุม ส.ว. เข้าใจหรือเปล่า ส.ว.เขามีความเห็นเป็นของตัวเอง ก็ว่าไป

‘ดร.เหลิม’ โผล่อัดวันชัย

พล.อ.ประวิตรกล่าวเช่นกันว่า ไม่ใช่ ส.ว. ต้องไปถาม ส.ว. ส่วนที่ ส.ว.ระบุจะปิดประตูพรรคเพื่อไทยนั้น ไม่ทราบ ต้องไปถาม ส.ว.เอง ใครก็สั่ง ส.ว.ไม่ได้  ส.ว.สามารถคิดเองทำเองได้ 

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวประเด็นนี้ว่า ส.ว.เขาเรียกว่าสภาสูง โดยหลักต้องเป็นคนมีความรู้ความสามารถถึงได้รับแต่งตั้ง แต่นายวันชัยที่บอกว่าหัวหน้าครอบครัวยังอายุน้อย แสดงถึงปัญญาทึบ ไม่ได้มองโลก โดยนายกฯ ประเทศนิวซีแลนด์ก็อายุ 30 ปีนิดๆ ขณะที่นายกฯ ฝรั่งเศสก็ 30 ปีหน่อยๆ ผู้นำครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งไม่ทราบว่าในอนาคตจะเป็นนายกฯ หรือไม่นั้น อายุ 37 ปี เรียนจบคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนปริญญาโท จบเมืองนอก เหมาะสมไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง การที่  ส.ว.มาพูดว่ายังละอ่อน คนที่ละอ่อนคือนายวันชัยต่างหาก

 “ที่ห้ามไม่ให้ไปจับมือพรรค พปชร. และคนนั้นคนนี้ มันเรื่องอะไรของพวกคุณ คุณรู้แล้วหรือว่าพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ ขอพูดความเห็นส่วนตัว เพราะพรรคพลังประชารัฐคือกากเดนของการรัฐประหาร แล้วมาสถาปนาเป็นพรรคการเมืองอวดดี อวดรู้สู่ฉลาด”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว

เมื่อถามว่า ส.ว.ออกมาพูดแบบนี้เพราะยังมีสิทธิเลือกนายกฯ ครั้งหน้า ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เป็นรัฐธรรมนูญที่บัดซบ มันไม่ควรมีอย่างนี้แล้ว เพราะให้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ.ร่างรัฐธรรมนูญ ถามมาตลอด นายมีชัยจบมหาวิทยาลัยไหนมา ถ้ามีลูกจะไม่ส่งลูกไปเรียน เป็นการร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญบัดซบแล้ว ไม่ทันสมัยในโลกยุคปัจจุบัน ไม่ต้องร่างรัฐธรรมนูญโดยมี ส.ส.ร. แต่ให้เอารัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นตัวตั้ง แล้วแก้ไขสัดส่วนการเข้าชื่อของ ส.ส.ในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ เพื่อป้องกันวาทกรรมเผด็จการรัฐสภาที่สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ประสบ

นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. กล่าวว่า การพูดเช่นนี้สะท้อนที่มาของ ส.ว. ที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากระบอบเผด็จการ ก็ต้องทำหน้าที่รับใช้ผู้แต่งตั้ง เพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป ไม่ได้สนใจประชาชน แตกต่างจาก ส.ส. ที่เข้าสภาด้วยเสียงของประชาชน จึงต้องตอบสนองความต้องการของประชาชน

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวในวันวาเลนไทน์ว่า หวังว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ประชาชนจะได้ผู้นำที่มาจากเสียงข้างมากของประชาชน รักและห่วงใยประชาชนจากใจจริง เพื่อเข้าไปทำงานให้กับทุกคนให้มีความกินดีกินดีมีความสุข.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พ่อนายกฯขู่เช็กบิล! พรรคร่วมโดดประชุมครม.-นักร้อง/ขอพระเจ้าอยู่ต่ออีก17ปี

"เพื่อไทย" คึก! 3 นายกฯ ร่วมทีมขึ้นรถไฟสัมมนาพรรคที่หัวหิน "นายกฯ อิ๊งค์" ขอ  สส.ไม่แบ่งขั้ว-อายุ ยอมรับ 3 เดือนโฟกัสงานรัฐบาล

หัวลำโพงคึกคัก! 'อิ๊งค์' นำทีม พท. สัมมนาหัวหิน ตื่นเต้นขึ้นรถไฟรอบ 20 ปี

’แพทองธาร‘ นำทีม ’เพื่อไทย’ ขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ มุ่งหน้าสัมมนาหัวหิน ‘เศรษฐา-โอ๊ค-เอม’ ร่วมด้วย ตื่นเต้นนั่งรถไฟรอบ 20 ปี