อิทธิพรขึงขังโกงเลือกตั้ง เคาะสเปกผู้สังเกตการณ์

"อิทธิพร" ยัน กกต.กัดไม่ปล่อยคนทำทุจริตเลือกตั้ง ส.ส. ชี้กรอบ 60 วันหลังเลือกตั้งไม่มีผลต่อการสืบสวน ไม่มีปล่อยผีเร่งให้ตั้งรัฐบาลก่อน

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการสืบสวนทุจริตการเลือกตั้งว่า ขณะนี้มีเรื่องการซื้อเสียงเข้ามาจำนวน 8 เรื่อง และ 15 เรื่องเป็นการหาเสียงหลอกลวง โดยมาตรการการป้องกัน กกต.ได้มีการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง 423 คน ซึ่งผู้ตรวจการเลือกตั้งจะมีผู้ช่วย 1 คน นอกจากนี้ยังมีชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจ ที่จะปฏิบัติหน้าที่ 15 วันก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นกลไกที่ช่วยป้องกันการทุจริตได้ อีกทั้งครั้งนี้มีอาสาสมัครที่มาจากไอลอว์และวีวอตช์เข้ามาช่วย จะทำให้หูตาของเรากว้างขวางยิ่งขึ้น จะช่วยป้องกันในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ อยากเชิญชวนประชาชนร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพราะถ้าท่านมีข้อมูลเบาะแสแล้วแจ้งต่อ กกต. หากนำไปสู่การพิพากษาว่ามีการกระทำความผิด กกต.มีเงินรางวัลชี้เบาะแสในกรณีถ้าพบการกระทำความผิดของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 300,000-1,000,000 บาท

ส่วนกรณีการแจกใบส้ม ใบเหลืองกับผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ถ้าหาก กกต.พบความปรากฏ และมีพยานหลักฐานอันทำให้เราเชื่อว่ามีการทุจริตและยังไม่ได้ประกาศผล กกต.สามารถแจกได้ ทั้งนี้ กกต.ไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะให้ใบส้มกับใคร กกต.ตัดสินตามพยานหลักฐานตามระเบียบว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนของ กกต.

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า กกต.อาจไม่กล้าแจกใบส้ม เนื่องจากมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหายของนายสุรพล เกียรติไชยากร ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ประธานกกต.ตอบว่า กกต.พิจารณาเรื่องนี้บนข้อมูลหลักฐานในช่วงเวลานั้น ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวินิจฉัยแล้วผลที่จะตามมาเป็นอย่างไรก็ต้องยอมรับ

ถามว่า กกต.จะพิจารณาเหตุทุจริตทันก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า จะทันหรือไม่ก็ไม่กระทบต่อการดำเนินการของ กกต. เพราะว่าจะเชื่อมโยงต่อการประกาศผลการเลือกตั้งที่จะต้องประกาศภายใน 60 วันหลังวันเลือกตั้ง ถ้าสอบสวนไม่ทันก็สามารถสอบสวนต่อได้ ซึ่งการสอบสวนหลังการประกาศผลการเลือกตั้งจะไม่ได้แจกใบส้ม แต่จะต้องแจกใบแดงแทน ซึ่งศาลฎีกาจะเป็นผู้ตัดสิน

ซักว่า หากครบ 60 วันแล้วพิจารณาเรื่องร้องเรียนไม่ทัน จะต้องปล่อยผีไปก่อนใช่หรือไม่ เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาล ประธาน กกต.แจงว่า เราคงปล่อยแบบนั้นไม่ได้ เพราะว่าจะเป็นการละเลยหน้าที่ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และกระบวนการทำงานของเรา เช่น ถ้ามีคำร้องแล้ว กกต.ไปพบเหตุ เรื่องต้องตั้งต้นจากคณะสืบสวนไต่สวนของจังหวัดก่อน ถ้ามีพยานหลักฐานชัดเจนผอ.กกต.จังหวัดสามารถเสนอความเห็นประกอบส่งมาที่ส่วนกลาง ซึ่งส่วนกลางจะพิจารณาว่ามีความเห็นอย่างไรต่อความเห็นของ กกต.จังหวัดดังกล่าวที่เสนอความเห็นมา จากนั้นสำนักงาน กกต.กลางก็เสนอความเห็นมาให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัย ซึ่งหากเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็จะพิจารณาทันที แต่หากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ต้องสืบพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็จะส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาก่อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ กกต.เร่งหรือไม่เร่งดำเนินการ แต่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับกระบวนการและพยานหลักฐานที่มีอยู่

นายอิทธิพรกล่าวถึงบัตรเลือกตั้งว่า บัตรมี 2 ประเภท เลือกตั้งแบบแบ่งเขตจะเป็นสีม่วง ส่วนแบบบัญชีรายชื่อเป็นสีเขียว ซึ่งเรื่องของสีบัตรนั้นมีหลายคนสงสัยว่าทำไมต้องเป็น 2 สี ก็เพราะเวลาเราพิจารณาสีบัตรเราได้คำนึงถึงสีที่จะไม่ไปซ้ำกับสีที่พรรคการเมืองใช้ ฉะนั้นสีบัตรที่เราเลือกมานั้นจะไม่มีความเกี่ยวพันกับพรรคการเมืองใด จึงได้เป็น 2 สีนี้

ด้าน พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร.โฆษกศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เปิดเผยว่า ศลต.ตร. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. ได้เปิดศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา

ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นมา พบว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงทั้งหมด 639 ป้ายนั้น เกิดจากหลายสาเหตุ แยกออกเป็นเหตุจำนวน 54 คดี 1.มีการดำเนินคดีเสร็จสิ้นไปแล้ว และมีคำพิพากษาของศาลแล้วจำนวน 4 คดี ซึ่งคำพิพากษามีตั้งแต่ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน (ความผิดเสพยาเสพติด จำคุก 1 เดือน + เพิ่มโทษกรณีกระทำผิดซ้ำอีก 1 เดือน และกรณีทำให้เสียทรัพย์ จำคุก 1 เดือน) และมีคำพิพากษาให้จำคุก 2 เดือน โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 1 ปี และปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท

2.อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จำนวน 1 คดี, แจ้งข้อกล่าวหาแล้วอยู่ระหว่างการรอผลประวัติ และใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับอาการทางจิตเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน จำนวน 1 คดี 3.อยู่ระหว่างการสืบสวน จำนวน 27 คดี 4.ไม่ประสงค์ดำเนินคดี ผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน/ ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ยอมความในชั้นสอบสวน จำนวน 18 คดี

5.พบปรากฏข่าวในหน้าสื่อโซเชียล หรือ โทรทัศน์ เมื่อไปตรวจสอบแล้ว เป็นเหตุจากภัยธรรมชาติ, ไม่พบป้ายที่ถูกทำลายนั้นๆ และไม่มีการมาลงประจำวันแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษของผู้เสียหาย จำนวน 3 คดี

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่าคนที่ปาระเบิดรถแห่หาเสียงของนายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ มีความเกี่ยวข้องกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า พรรคเพื่อไทยควรรอการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียก่อน ไม่ใช่ช่วงชิงสถานการณ์กล่าวหาว่าเป็นหัวคะแนนของพรรค รทสช. พรรคเราไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง หรือเล่นการเมืองแบบสกปรกแน่นอน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมายืนยันผลสอบสวนแล้ว ไม่เกี่ยวกับการเมือง และญาติก็ออกมาพูดแล้วเช่นเดียวกันว่าเขาเป็นผู้ป่วยจิตเวช ไม่ได้เป็นหัวคะแนนให้พรรคการเมืองแต่อย่างใด

 “การมาใส่ร้ายป้ายสีพรรคการเมืองอื่นเพื่อหวังผลทางการเมือง ถือเป็นความผิดร้ายแรง การออกมาพูดโดยไม่ตรวจสอบให้ละเอียดก่อน เดี๋ยวหน้าจะแหก” นายธนกรกล่าว

 ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพื้นที่หนองคายเป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันดุเดือด เพราะล่าสุดมีคลิปที่มี อสม.ไปซื้อเสียงว่า ก็เศร้าใจ ซึ่งไม่ใช่ที่หนองคายอย่างเดียว ทุกที่ก็มีปัญหาเรื่องนี้เหมือนกัน กกต.ก็ต้องดูเรื่องนี้ ก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการซื้อเสียงอยู่แล้ว เชื่อว่าวันที่ 14 พ.ค. พี่น้องจะไว้วางใจเรา ถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้าคูหาแล้วไปกาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง