‘โจ๊ก’เผยหลังคุย ‘แอม ไซยาไนด์’ หัวเราะ-ร้องไห้

กรุงเทพฯ ๐ "บิ๊กโจ๊ก" เผยหลังพูดคุย "แอม ไซยาไนด์" ในเรือนจำ เจ้าตัวร้องไห้สลับหัวเราะ แต่ไม่มีความเครียดมากนัก รับสารภาพข้อเท็จจริงบางส่วน   ยังปฏิเสธไม่ได้ฆ่าใคร แต่พยานหลักฐานเชื่อมโยงหมด ต้นสัปดาห์หน้าจ่อแจ้งข้อหาคนใกล้ชิดเพิ่มอีก 1-2 คน

     ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี หรือ "แอม ไซยาไนด์" ผู้ต้องหาฆาตกรรม น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือเท้าแชร์ก้อย จนเสียชีวิตริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีนั้น

     เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 คณะพนักงานสอบได้นำตัว น.ส.แก้ว อายุ 60 ปี พยานปากสำคัญซึ่งรับกล่องพัสดุภายในบรรจุทรัพย์สินของก้อย เข้าไปพบกับแอมภายในทัณฑสถานหญิงกลาง โดย น.ส.แก้วมีความประสงค์จะเข้าไปพบแอม คาดว่าต้องการไปพูดคุยให้รับสารภาพ และอาจจะสอบถามถึงเรื่องทรัพย์สินดังกล่าว

     ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาร่วมสอบสวน ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ยังไม่ได้สอบปากคำ โดยได้เพียงมาพูดคุยก่อน อาจจะสอบปากคำในวันหลัง ซึ่งมีการให้การที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาก ซึ่งมีการรับในข้อเท็จจริงในบางส่วนถึงรายละเอียดต่างๆ แต่เรื่องการฆาตกรรมยังไม่รับสารภาพ สาเหตุที่แอมส่งกระเป๋าไปให้ น.ส.แก้ว เพราะเจ้าตัวจนแต้มไปไม่รอด ส่วนเงิน 50,000 บาทของก้อยที่หายไป แอมบอกว่าก้อยไม่มีเงิน แต่อย่างอื่นรับสารภาพหมด เรื่องโทรศัพท์และกระเป๋า ส่วนโทรศัพท์ไอโฟนอีกเครื่องที่หายไป แอมบอกว่าเอาไปทิ้ง เพราะมองว่าไอโฟนติดตามได้ และกรณีทองคำของนายแด้ อดีตสามี แอมยอมรับว่านำไปขายที่ร้านทอง แต่ปฏิเสธไม่รู้เรื่องที่นายแด้ เสียชีวิต

     รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ตอนแรกที่แอมโกหกเรื่องกระเป๋าก้อย เป็นวิธีการเอาตัวรอดของผู้ต้องหา ส่วนหนึ่งอาจมีผู้แนะนำ เพราะวันนี้เขาตั้งทนายสู้คดี สำหรับ น.ส.แก้ว จะเป็นผู้เสียหายหรือไม่ เพราะอ้างว่าเคยถูกแอมวางไซยาไนด์ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน และ น.ส.แก้วยังไม่มีความผิดร่วม เนื่องจากมีเจตนานำของกลางมาให้ตำรวจตรวจสอบ เป็นคนที่แอมไว้วางใจ เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่ปี 2563 และเป็นคนแนะนำให้รู้จักกับทนายพัชมาช่วยเหลือทางคดี

     "การสอบปากคำแอมวันนี้ เจ้าตัวมีอาการร้องไห้สลับหัวเราะ ไม่มีความเครียดมากนัก"

     กรณีที่ทนายพัชได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนว่า แอมไม่ต้องการให้บุคคลใดเข้ามาพบ รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ด้วยนั้น เห็นว่าแอมไม่มีท่าทีที่จะไม่ให้เข้าพบ และไม่ได้ถามถึงในประเด็นดังกล่าว และการที่เข้ามาพบวันนี้ เป็นความต้องการของ น.ส.แก้ว พยานในคดี ไม่ได้เป็นการตามใจผู้ต้องหา แต่หลังจากที่ น.ส.แก้วมาพร้อมกับตำรวจวันนี้ แอมมีท่าทีระแวง ไม่ไว้ใจ น.ส.แก้ว เนื่องจากไปออกรายการโทรทัศน์ และอยู่กับตำรวจ แต่ไว้ใจทนายพัชมากกว่า ส่วนหลังจากนี้จะเรียกทนายพัชมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา

     พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยืนยันว่า ไม่หนักใจ แม้แอมจะโกหกและไม่ยอมรับสารภาพเรื่องการเป็นผู้ลงมือฆ่าหรือเป็นคนวางไซยาไนด์ แต่พยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงหมดแล้ว เหลือเพียงข้อมูลเส้นทางการเงินที่รอตอบกลับมาจากธนาคาร รวมทั้งต้นตอผู้สั่งซื้อไซยาไนด์ให้กับแอม เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้อัยการในบางคดีได้ภายในสัปดาห์หน้า

     หลังจากสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป จะเริ่มสรุปสำนวนการสอบสวนเพื่อทยอยส่งสำนวนการสอบสวนมีความเห็นทางคดีไปยังพนักงานอัยการ แต่ยังเหลือเนื้อหาสาระบางส่วนของสำนวนการสืบสวน และสำนวนการสอบสวน โดยช่วงบ่ายวันนี้ได้นัดทั้งฝ่ายสืบสวนและสอบสวนเข้ามาบูรณาการร่วมกันทั้งหมด เพื่อสรุปสำนวนการสอบสวนใน 2 สัปดาห์ นอกจากนั้นจะเรียกผู้ใกล้ชิดมาแจ้งข้อกล่าวหา หรือขอศาลออกหมายจับอีก 1-2 คนในสัปดาห์หน้าเช่นกัน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าทำหน้าที่อะไรบ้าง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง