ปชป.แตก!เลือกผู้นำใหม่ล่ม

ประชุมใหญ่ ปชป.ล่ม! เลื่อนโหวตหัวหน้าพรรค "กลุ่มเพื่อนมาร์ค"   ล้มกระดาน โดดเป็นองค์ประชุม แก้เกมฝั่ง "เฉลิมชัย" ดัน "นราพัฒน์" แข่ง "อภิสิทธิ์" หลังซัดกันนัว "สาธิต" เสนองดใช้สัดส่วนโหวต 70:30 ไม่สำเร็จ "จุรินทร์" นัดถก กก.บห. 12 ก.ค. ยกเว้นข้อบังคับเคาะวันเลือกใหม่

ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์  คอนเวนชั่น เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พรรคประชาธิปัตย์จัดประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2566 เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ ตามข้อบังคับพรรคการเมือง หลังจากที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยแกนนำพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

โดยก่อนการประชุม เวลา 08.00 น.  นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า แคนดิเดตหัวหน้าพรรคอาจจะมีม้ามืดที่ไม่เป็นข่าวเลยก็ได้ แต่เป็น ส.ส.มาหลายสมัย มีการศึกษาดี เคยทำงานเป็นผู้บริหารประเทศมาแล้ว เป็นคนไม่มีประวัติด่างพร้อย และมีชื่อเสียงตระกูลดี ซึ่งครั้งนี้อาจเป็นนิมิตหมายที่ดี อาจจะเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ภาคหนึ่ง  เลขาธิการพรรคอยู่อีกภาคหนึ่ง ถ้าให้ใบ้คือสิงห์เหนือเจอสิงห์ใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม้ามืดที่นายชัยชนะพูดถึงก็คือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง  รักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ และคาดว่าจะมีการเสนอชื่อนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้

จากนั้นเวลา 08.45 น. นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เดินทางมาถึงที่ประชุมพรรค โดยมีสมาชิกพรรคมารอต้อนรับ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยตอบสั้นๆ ถึงกรณีจะถูกเสนอชื่อและเป็นม้ามืดหรือไม่ว่า  “เคยพูดไปแล้ว ขอให้รอในที่ประชุมอย่างเดียว"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะได้รับเสียงสนับสนุนในที่ประชุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมพูดไปหมดแล้ว รอในที่ประชุม" ส่วนการกลับมาครั้งนี้จะมากู้วิกฤตพรรคและรีแบรนด์พรรคใช่หรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ตอบว่า "ผมจะพูดในที่ประชุม"

ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบายกรุงเทพมหานครของพรรค ให้สัมภาษณ์เช่นกันว่า วันนี้จะไม่ลงสมัครในตำแหน่งหัวหน้าพรรคอย่างเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง ผู้จัดการทีมชาติไทย เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมครั้งนี้ด้วย โดยยิ้มแย้มทักทายกับสื่อมวลชนและกล่าวสั้นๆ ว่า “คุณพ่อ (นายโพธิพงษ์ ล่ำซำ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์) เป็นโหวตเตอร์” ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่าจะลงสนามการเมืองหรือไม่ นางนวลพรรณตอบติดตลกว่า "ทำฟุตบอลสนุกกว่า" ส่วนการโหวตเลือกหัวหน้าพรรค มีคนที่เชียร์ในใจแล้ว

ขณะที่นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรค และผู้สมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุม แต่ได้ส่งข้อความแจ้งผ่านไลน์กลุ่มสื่อมวลชนประชาธิปัตย์ โดยระบุตอนหนึ่งว่า ขอให้การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและ กก.ชุดใหม่ ที่ต้องแบกรับภารกิจยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของพรรคเป็นไปโดยราบรื่น ด้วยคุณค่าแห่งอุดมการณ์และความดีงามมากกว่าสิ่งตอบแทนใดๆ อย่าให้ซ้ำรอยปี 2561

จากนั้นเวลา 10.00 น. ได้เริ่มการประชุมใหญ่ฯ โดยนายจุรินทร์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เป็นผู้ดำเนินการประชุม ขณะที่องค์ประชุมมีจำนวน 299 คน ครบตามกฎหมายและข้อบังคับพรรค ซึ่งก่อนเข้าสู่วาระการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ได้เชิญสื่อมวลชนและผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องประชุม หลังจากนั้นพรรคได้ตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของพรรค เพื่อตรวจนับคะแนน ระหว่างนั้น นายสาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ได้เสนอญัตติขอใช้เสียง 3 ใน 5 ของที่ประชุม งดเว้นข้อบังคับพรรคที่ 87 ไม่ใช้สัดส่วนน้ำหนักการโหวตของ ส.ส. ร้อยละ 70 และสมาชิกอื่นๆ ร้อยละ 30 

ปชป.ซัดกันนัว

ซึ่งที่ประชุมได้ใช้เวลาถกเถียงถึงสองชั่วโมงกว่า โดยมีสมาชิกแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับญัตติดังกล่าว อาทิ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการให้น้ำหนัก ส.ส.มากกว่า ทั้งที่เวลาไปหาเสียงเราบอกว่าพรรคเรามีความเสมอภาค และที่บอกว่าคนที่เป็นส.ส.ทำงานหนักเหนื่อยนั้น เผลอๆ คนที่ไม่ได้เป็น ส.ส.เหนื่อยมากกว่าพวก ส.ส.อีก

นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค กล่าวว่า วันนี้พรรคมีความชัดเจนว่ามีปัญหาความขัดแย้ง แม้ว่าตนจะไม่เห็นด้วยกับสัดส่วน 70:30 ก็ไม่เห็นด้วยที่มาขอยกเว้นตอนนี้ แต่ควรนำไปพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมใหญ่ของพรรคในภายหลัง เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้มีส่วนร่วมพิจารณาสัดส่วนที่เหมาะสมจะถูกต้องกว่า ตนไม่รู้ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรค แต่ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ชุดใหม่ เพื่อให้งานของพรรคเดินต่อได้ แต่ถ้าไม่ร่วมมือกัน จะเกิดความวุ่นวาย

นอกจากนี้ ยังมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมเช่นกันว่า โดนพาดพิงเกี่ยวกับการงดเว้นข้อบังคับที่ตนเองเป็นคนเขียนเอง ซึ่งได้ชี้แจงว่าเขียนตามวิวัฒนาการสถานการณ์ต่างๆ ทั้งสถานการณ์ทางการเมือง การบริหารจัดการพรรค และกฎหมายพรรคการเมือง นอกจากนี้ ขอให้สมาชิกพรรคภูมิใจกับความทุกข์ที่เกิดขึ้น ในการเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห. เพราะเป็นเพียงพรรคเดียวที่ทุกข์ได้แบบนี้ พรรคอื่นไม่มีแบบประชาธิปัตย์

กระทั่งนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รักษาการรองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ กทม. เสนอญัตติว่า ขอใช้เสียง 3 ใน 5 ขององค์ประชุมเท่าที่มีอยู่ เพื่องดเว้นข้อบังคับที่กำหนดไว้ว่าเมื่อหัวหน้าพรรคลาออก ให้เลือกตั้ง กก.บห.ชุดใหม่ภายใน 60 วัน ทำให้ที่ประชุมตกลงกันว่าหากญัตติของนายองอาจผ่าน ญัตติของนายสาธิตก็ไม่จำเป็นต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีก เพราะจะทำให้การเลือกหัวหน้าพรรคต้องเลื่อนออกไป

จากนั้น 13.10 น. ได้มีการลงมติในญัตติของนายองอาจ โดยวิธีการยกมือ ซึ่งผลปรากฏว่าที่ประชุมลงคะแนนสนับสนุนเพียง 151 คะแนน เท่ากับว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 5 ขององค์ประชุมเท่าที่มีอยู่  ต่อมาที่ประชุมได้ดำเนินการลงมติในญัตติของนายสาธิต ที่ให้งดเว้นข้อบังคับที่ 81 ปรากฏว่าที่ประชุมลงคะแนนสนับสนุน 147 คะแนน เท่ากับว่าเสียงไม่ถึง 3 ใน 5 ขององค์ประชุมเท่าที่มีอยู่เช่นกัน

ต่อมาเวลา 13.35 น. ได้สั่งพักการประชุม เพื่อให้สมาชิกรับประทานอาหารกลางวัน

นายองอาจเปิดเผยภายหลังการลงมติว่า สาเหตุที่เสนอญัตติดังกล่าว เนื่องจากการประชุมตั้งแต่ช่วงเช้าสมาชิกมีการถกเถียงกันมาก และมีการกระทบกระทั่งกันตลอด หากยังให้ดำเนินการต่อไป อาจก่อให้เกิดผลกระทบภายในพรรค เพราะจะมีคนแพ้คนชนะ แต่ถ้ามีโอกาสยืดเวลาออกไปเพื่อให้ได้พูดคุยกันให้ตกผลึกก่อน เราก็จะร่วมกันชนะคนอื่น ซึ่งไม่ได้คิดถึงเรื่องรอเป็นรัฐบาล

กระทั่งเวลา 14.15 น. ที่ประชุมใหญ่ได้เริ่มต้นอีกครั้ง โดยสมาชิกทยอยเดินเข้าห้องประชุม แต่ที่นั่งยังคงบางตา จนเวลาผ่านไป 10 นาที คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ในฐานะ กกต.พรรคได้ประกาศว่า ขณะนี้มีจำนวนสมาชิก 221 คน ถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว แต่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ หนึ่งใน กกต. พรรคแย้งว่า ตามข้อบังคับพรรคต้องมีองค์ประชุมไม่น้อยกว่า 250 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในห้องประชุมเริ่มมีความตึงเครียด เนื่องจากยังไม่มีสมาชิกทยอยเข้ามาเพิ่ม ขณะที่ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ กล่าวว่า ขอให้ผู้มีสิทธิ์ทุกคนชูบัตรขึ้นเพื่อยืนตัวตนของผู้ที่มีสิทธิ์โหวต ปรากฏว่าไม่ครบองค์ประชุม เพราะได้แค่ 221 คน

อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกบางส่วนได้เสนอให้รอองค์ประชุมที่กำลังเดินทางมา เหมือนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ยังให้โอกาส ส.ส.เข้าร่วมประชุม ซึ่งนายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกหลายคนเดินทางกลับไปโรงแรม กำลังเก็บกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน และกำลังเดินทางมา ขอให้เลื่อนไปประชุมอีกครั้งเวลา 15.00 น.

องค์ประชุมล่ม

จากนั้นเวลา 15.00 น. กลับมาประชุมอีกครั้ง ภายหลังเจ้าหน้าที่นับองค์ประชุม คุณหญิงกัลยาแจ้งว่า ขณะนี้มีองค์ประชุมเพียยง 201 คน ดังนั้น กกต.พรรคจึงไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ และขอเชิญหัวหน้าพรรคมารับหน้าที่ดำเนินการต่อ

ต่อมานายจุรินทร์กล่าวว่า เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ประชุมไม่ได้ หลังจากนี้ตนและเลขาธิการพรรคจะได้หารือต่อไป เพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง และขอยุติการประชุมในเวลา 15.09 น.

นายองอาจเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ กก.บห.ชุดรักษาการจะกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อคัดเลือกหัวหน้าพรรคอีกครั้งหนึ่ง โดยขั้นตอนแรก จะต้องงดเว้นข้อบังคับพรรคที่ 37 ที่ตนเสนอญัตติไปก่อนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อปลดล็อกเงื่อนเวลา 60 วันออกไป จากนั้นจึงค่อยกำหนดวันประชุมอีกครั้ง

นายจุรินทร์ให้สัมภาษณ์ว่า จะรีบนัดประชุมกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการโดยเร็ว คาดว่าจะเป็นวันที่ 12 ก.ค. เพื่อยกเว้นข้อบังคับพรรค ให้มีการประชุมเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ชุดใหม่อีกครั้ง

นายชัยชนะกล่าวว่า การที่ไม่สามารถเลือกหัวหน้าพรรคภายในวันนี้ได้นั้น ไม่ใช่ความล้มเหลว ซึ่งวันที่ 11 ก.ค.นี้ 25 ส.ส.ของพรรคจะพูดคุยกันถึงแนวทางการโหวตนายกรัฐมนตรี

นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีที่การประชุมล่มแสดงว่าความคิดเห็นในพรรคยังไม่เป็นเอกภาพใช่หรือไม่ว่า คิดว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ ต้องมีการพูดคุยกันในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ

ด้านนายนราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เปิดเผยว่า ใช้เวลาตัดสินใจระยะหนึ่งที่เข้ามาเสนอตัวชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งคิดไว้อยู่แล้ว แต่มีผู้ใหญ่มาทาบทามเสนอมุมมองและไอเดียหาใครสักคนที่เป็นกลาง สามารถพูดคุยกับทุกฝ่ายไ ด้เพื่อให้เรารวมกันเป็นหนึ่ง หากได้รับโอกาสจากสมาชิกสนับสนุนให้เป็นหัวหน้าพรรค ยินดีที่จะมาเป็นคนขับเคลื่อนกฎและร่างข้อบังคับหรือกติกาให้มีความทันสมัยต่อโลก รวมถึงผนวกผู้อาวุโสกับคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน อาจจะอยู่ในตำแหน่ง 1 ปีครึ่ง ไม่เกิน 2 ปี เพื่อคืนอำนาจให้สมาชิกได้พิจารณาอีกครั้ง

"วันนี้ถือเป็นเสน่ห์ความเป็นประชาธิปไตยของพรรค ที่เป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในเวลาเดียวกัน ซึ่งวันข้างหน้าหวังว่าประชาธิปัตย์จะเป็นพรรควันเดโมแครต หรือวันประชาธิปัตย์ให้ได้" นายนราพัฒน์ระบุ

มีรายงานว่า สาเหตุที่การประชุมใหญ่ต้องล่มไป เนื่องจากสมาชิกพรรคส่วนหนึ่งที่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์แก้เกมโดยการไม่อยู่เป็นองค์ประชุม หลังที่ประชุมมีมติยืนยันที่จะใช้น้ำหนักคะแนน 70:30 ตามข้อบังคับพรรค โดยสัดส่วนคะแนนร้อยละ 70 นั้น จะขึ้นอยู่กับ 25 ส.ส. ในขณะที่ ส.ส.ปัจจุบันประมาณ 17 คน จากทั้งหมด 25 คน มีท่าทีที่จะสนับสนุนนายนราพัฒน์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ทั้งนี้ นายชวนเตรียมเป็นผู้เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ต่อที่ประชุมด้วยตนเอง แต่นายนราพัฒน์ยืนยันพร้อมที่จะท้าชิง ดังนั้น จึงมีความกังวลว่าผลคะแนนที่ออกมาจะไม่เป็นธรรม และทำให้นายนราพัฒน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จ่อผุด13อรหันต์นิรโทษ

กรมคุกร่อนแถลงการณ์ ยันทัณฑสถานราชทัณฑ์ช่วยชีวิต ‘บุ้ง ทะลุวัง‘ ตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเต็มกำลัง