‘กู้มาแจก’ชอบธรรม เศรษฐาย้ำยึดเสียงปชช./ตั้งศูนย์แก้หนี้นอกระบบ

"เศรษฐา" ย้ำเศรษฐกิจไทยวิกฤต แจงออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านหวังให้โปร่งใส-ตรวจสอบได้ ชี้หากรัฐสภาเห็นชอบถือเป็นเสียงของประชาชน ยันแจกเงินดิจิทัลยังอยู่ในไทม์ไลน์เดิมเดือน พ.ค. บอกอีกไม่กี่วันถึงมือกฤษฎีกา "ก.ก." ตั้งกระทู้บี้นายกฯ แก้ปัญหาฮั้วประมูล จี้ตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรลงราชกิจจาฯ “ปานปรีย์” ถกขึ้นเงินเดือน ขรก. อุบบอกรายละเอียดรอเสนอ ครม.เคาะสัปดาห์หน้า  "พท." แย้มเสี่ยนิดเตรียมแถลงแก้หนี้ 12  ธ.ค. "มท." คึกสั่งผู้ว่าฯ-นอภ.ตั้งศูนย์ฯ สางหนี้นอกระบบทั่วประเทศ

 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 23 พ.ย. เวลา 09.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM หัวข้อ “FUTURE READY THAILAND เศรษฐกิจไทยในอนาคตแห่งความเปลี่ยนแปลง” โดยมีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมงานด้วย

นายเศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้รัฐบาลนี้มีความตั้งใจจะนำคืนศักดิ์ศรีของคนไทยในเวทีโลกอีกครั้ง ทำให้คนไทยหัวใจฟู มีความภาคภูมิใจในการที่ประเทศไทยสามารถยืนหยัดในเวทีโลกและสามารถต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านคู่แข่งได้ในแง่การดึงนักลงทุน ในแง่การทูตเชิงรุก

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตไทยต้องเป็นการทำการพูดเชิงรุก สามารถมีความรู้ที่จะไปขายจุดแข็งของประเทศไทย ต้องเข้าใจว่าประเทศนั้นๆ มีความต้องการอะไร  เอกชนของเขาภาคส่วนไหนแข็งแกร่งพร้อมที่จะลงทุนในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นแค่ทูตอย่างเดีย วและทำแต่เรื่องโปรโตคอล

"เรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลาพอสมควร ระหว่างนี้รัฐบาล ทราบกันดีอยู่ว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่จะวิกฤตหรือไม่วิกฤตเป็นข้อถกเถียง ซึ่งผมก็คุยกับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติอยู่ แต่ก็เป็นสังคมที่เราเห็นต่างและพูดคุยกันได้ และเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่คุยกันได้ แต่ผมมั่นใจว่าทุกคนเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ดีในช่วงนี้ รัฐบาลตั้งแต่เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการลดค่าน้ำมัน ค่าไฟ พักหนี้เกษตรกร ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่เราได้ทำ ดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาจากต่างประเทศ วีซ่าฟรีจีน อินเดีย คาซัคสถาน ไต้หวัน ถามว่าเป็นที่พอใจหรือยัง ตัวเลขออกมายังไม่ดีด้วยหลายเหตุผล เพราะเศรษฐกิจต่างประเทศก็ไม่ค่อยดี แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศเรา สิ่งที่อยากจะฝากไว้เศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดีเวลาเขาเดินทางมาในประเทศไทยเขาก็ต้องคิด" นายเศรษฐากล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ประเทศเราก็มีปัญหาใหญ่ คือปัญหาของหนี้สิน ซึ่งตนได้มีโอกาสคุยกับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติแล้ว หนี้สินคนไทยมีทั้งในระบบและนอกระบบ และหนี้นอกระบบเป็นปัญหาที่กัดกร่อนสังคมไทยมายาวนาน น่าสงสารประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดดอกเบี้ยที่ถูกชาร์จต่อวัน 10% ต่อเดือนต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายระบุไว้หลายเท่าตัว ดังนั้นต้องคิดว่าในภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี ตนขอใช้คำว่าวิกฤต ตนเชื่อว่าเรื่องหนี้สินหากเป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ทำงานมาต้องใช้หนี้และดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม กำลังใจในการทำงานจะลดน้อยลง เมื่อลดน้อยลงทำงานเท่าไหร่ใช้หนี้ไม่หมดเกิดความไม่สบายใจขึ้น ไม่ว่าจะการหันไปพึ่งยาเสพติด ก่ออาชญากรรม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสังคมรายได้ ดังนั้นการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาลนี้

นายกฯ กล่าวว่า ระหว่างที่เราคอยหลังหว่านเมล็ดพืชไปเพื่อให้รายได้ของประชาชนสูงขึ้น ตรงนี้ต้องใช้เวลา บางอันใช้เวลาน้อย บางอันใช้เวลามาก แต่ตนเชื่อว่าภายในเวลา 1 ปี คนอาจจะไม่เห็นอะไร แต่เป็นเรื่องที่เราจำเป็นต้องทำในวันนี้ ถ้าไม่มีจุดเริ่มต้นคงทำไม่ได้ และต้องเข้าเรื่องว่าวันนี้เราทำอะไรไปแล้วบ้าง นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาหนี้สิน ลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน

สภาผ่าน กม.กู้เงินถือว่าชอบธรรม

"นโยบายหลักของรัฐบาลนี้เราเห็นว่าต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นความจำเป็นที่ต้องทำ และเป็นที่มาที่ไปของดิจิทัลวอลเล็ต ต้องเข้าใจว่าทีแรกบอกไม่ต้องกู้ แต่รับฟังความคิดเห็นจากหลายฝ่ายมา หลายๆ ภาคส่วนทั้งนักวิชาการดิจิทัลวอลเล็ตทำอย่างไรให้โปร่งใส ชอบธรรม ถูกหลักนิติรัฐ เป็นที่มาที่ไปของการที่รัฐบาลนี้ตัดสินใจออกพระราชบัญญัติเงินกู้ หาก ครม.เห็นด้วย ซึ่ง ครม.คือตัวแทน สส. และ สส.ก็คือตัวแทนประชาชน และประชาชนเห็นด้วยกฤษฎีกาเห็นชอบ ก็ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย พระราชบัญญัติต้องผ่านสภา ก็เป็นหน้าที่ของรัฐสภาที่ต้องลงรายละเอียดให้กับรัฐบาล ตอบรายละเอียดทุกข้อให้ได้ หากรัฐสภาผ่านความเห็นชอบก็ถือเป็นนโยบายที่มีความชอบธรรม ซึ่งผ่านการตรวจสอบของทุกภาคส่วน ผมไม่อยากจะพูดต่อว่าดิจิทัลวอลเล็ตได้ประโยชน์อะไรบ้าง ทำไมต้องเป็นพระราชบัญญัติ ก็คอยให้ขั้นตอนดำเนินไปอาจจะช้าบ้าง แต่ถือเป็นขั้นตอนที่มีความชอบธรรมและโปร่งใสและตรวจสอบได้จากทุกภาคส่วน" นายกฯ กล่าว

จากนั้นนายเศรษฐาเดินทางไปที่กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมรับฟังการนำเสนอเรื่อง ประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ซึ่งงานดังกล่าวมีกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตไทย กงสุลใหญ่ไทย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และกระทรวงการต่างประเทศ โดยก่อนการประชุมนายกฯ ได้ร่วมถ่ายรูปกับเอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ไทยจากทั่วโลกที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้

นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมรับฟังการนำเสนอเรื่องประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ถึงกรณีพูดบนเวที The Standard ชี้แจงความจำเป็นต้องออกพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ผ่านขั้นตอนรัฐสภา เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยย้ำว่า จริงๆ แล้ว พ.ร.บ.เงินกู้เป็นเรื่องระหว่างที่เราเข้ามาบริหารประเทศ ได้พูดคุยหลายภาคส่วน และเป็นเรื่องที่หลายภาคส่วนเรียกร้องมา ซึ่ง พ.ร.บ.เงินกู้ต้องผ่าน ครม. ซึ่ง ครม.เป็นตัวแทนของ สส. และ สส.เป็นตัวแทนของประชาชน ถ้าผ่าน ครม.ก็ถือเป็นความเห็นชอบของประชาชน ขณะที่ทางกฤษฎีกาจะดูว่าถูกต้องตามหลักนิติธรรมหรือไม่ หากกฤษฎีกาผ่านก็ถือว่าเห็นชอบ และการที่เราต้องผ่านระบบรัฐสภา ก็เป็นการชี้แจงรายละเอียดให้สภาได้มีการซักถามรายละเอียด ก็อยากจะให้ผ่านทุกขั้นตอน ถึงแม้อาจจะล่าช้าไปบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องที่โปร่งใส และตรวจสอบได้

ถามว่า ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งในเบื้องต้นหรือไม่ ต้องใช้เวลาในการพิจารณาเท่าไหร่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน ได้เพียงแต่ย้ำทางกฤษฎีกาว่าขอให้ทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน ซึ่งเป็นครั้งเดียวที่ได้คุยกับกฤษฎีกาไป

เมื่อถามว่า ยืนยันในซีกรัฐบาลได้ส่งไปถึงมือกฤษฎีกาแล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องถามนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ซึ่งต้องมีขั้นตอนอีก ซึ่งก็คงอีกไม่กี่วัน คิดว่าเดี๋ยวก็คงจะส่งแล้ว

ย้ำถามว่า ไทม์ไลน์ที่วางไว้เดือนพฤษภาคมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ครับ ก็ยังอยู่ในไทม์ไลน์นี้อยู่ครับ

ต่อมานายกฯ เดินทางกลับเข้าทำเนียบรัฐบาล โดยเวลา 14.00 น. นายโทชิโอะ คุวาฮาระ ประธานบริษัท  เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่ฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย) และนายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และคณะผู้บริหาร เยี่ยมคารวะ

นายเศรษฐากล่าวว่า ญี่ปุ่นเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของไทยอย่างยาวนาน ไม่ใช่เพียงบริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น  แต่รวมไปถึงทุกบริษัทของญี่ปุ่นด้วย โดยกว่า 50 ปีที่ผ่านมา บริษัทญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่สนับสนุนประเทศไทยให้สามารถเป็นอยู่ได้อย่างทุกวันนี้  พร้อมเชื่อมั่นว่าไทยจะร่วมงานกับทุกบริษัทในการผลักดันการดำเนินการและพัฒนาการผลิตยานยนต์ และต่อยอดไปในภาคการผลิตอื่นๆ ซึ่งจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นด้านมาตรการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ซึ่งนายกฯ มอบหมายให้ BOI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ร่วมกัน และส่งเสริมความร่วมมือในตลอดกระบวนการของ Supply Chain โดยให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะทำให้การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทั้งในช่วงเปลี่ยนการผ่านจากรถสันดาป ไปสู่ภาคอุตสาหกรรม EV อีกทั้งในช่วงเดือนธ.ค.2566

ก.ก.จี้นายกฯ เร่งแก้ฮั้วประมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 15.55 น. นายเศรษฐาได้ออกมาสูดอากาศจิบกาแฟอเมริกาโนเย็น หน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี เนื่องจากตลอดช่วงบ่ายมีประชุมหลายวงต่อเนื่อง โดยนายกฯ ได้บอกกับคณะทำงานว่า ขอออกมาสูดอากาศสักหน่อย และหารือกับคณะทำงานว่าในช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่อากาศเย็น เป็นไปได้หรือไม่จะมีการจัดกิจกรรมที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า

ทั้งนี้ นายกฯ ได้โบกมือทักทายสื่อมวลชนพร้อมยิ้มให้ ก่อนเดินกลับขึ้นไปประชุมต่อบนตึกไทยคู่ฟ้า โดยไปประชุมเรื่องน้ำกับนายอนุชา นาคาศัย รมช.เกษตรและสหกรณ์ และบันทึกเทปรายการ 4 รายการ

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงภารกิจของนายกฯ ว่า นายกฯ เตรียมเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สระแก้ว ในวันเสาร์ที่ 25 พ.ย. เพื่อติดตามงานและตรวจเยี่ยมงาน 3 จุดที่ อ.อรัญประเทศ คือ 1.ติดตามความคืบหน้าพื้นที่ก่อสร้างอาคาร CIQ ของกรมศุลกากร 2.ตรวจเยี่ยมจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และ 3.ตรวจเยี่ยมนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว

ที่รัฐสภา น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ  สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมเพื่อศึกษาการบริหารงบประมาณ ในการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการขึ้นทะเบียนผู้ก่อสร้างที่มีสิทธิยื่นข้อเสนอต่อกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ร่วมกับผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล พร้อมด้วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ร้องเรียน

น.ส.รักชนกกล่าวว่า กมธ.มีข้อเสนอแนะให้มีการแก้ไขประกาศคณะกรรมการราคากลาง และขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการฉบับข้างต้น เพื่อแก้ปัญหาการฮั้วประมูลที่อาจเกิด 3 แนวทางคือ  1.ยกเลิกผู้รับเหมาชั้น 1 ก แล้วแก้ไขหลักเกณฑ์ผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ในการเลื่อนชั้นจากผู้รับเหมาชั้น 1 เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ จาก 450 ล้านบาท เป็น 250 ล้านบาท เพื่อให้ได้สัดส่วน ‘ครึ่งหนึ่งของวงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1 ประมูลได้’ สอดคล้องกับการเลื่อนชั้นของผู้รับเหมาชั้นอื่นๆ ทั้งนี้ เห็นว่าทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

2.แก้ไขหลักเกณฑ์ ผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ในการเลื่อนชั้นจากผู้รับเหมาชั้น 1ก เป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ จาก 450 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท เพื่อให้ได้สัดส่วน ‘ครึ่งนึ่งของวงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1ก ประมูลได้’ สอดคล้องกับการเลื่อนชั้นของผู้รับหมาชั้นอื่นๆ และ 3.แก้ไขหลักเกณฑ์ให้วงเงินที่ผู้รับเหมาชั้น 1ก สามารถประมูลได้ ขยับจาก 600 ล้านบาท ให้อยู่ในระดับที่ไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งจะมีมูลค่าเป็น 2 เท่าของผลงาน 1 โครงการภายใน 10 ปี ที่เป็นเกณฑ์ในการเลื่อนชั้นเป็นผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ที่กำหนดไว้ที่ 450 ล้านบาท

ส่วนนายวิโรจน์กล่าวว่า ได้ตั้งกระทู้ถามไปยังนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลกรมบัญชีกลาง ให้ตอบกลับมาเป็นลายลักษณ์อักษร ลงราชกิจจานุเบกษา ว่าจะมีการแก้ไขในกรณีฮั้วประมูลอย่างไร ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการตอบกลับ

 “หวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกฯ จะเร่งตอบกลับมา เพราะการประมูลเกิดขึ้นทุกวี่ทุกวัน นายกฯ ต้องการหาเงินมาทำโครงการดิจิทัลวอตเล็ต ผมก็ช่วยหาให้แล้ว” นายวิโรจน์กล่าว

อุบขึ้นเงิน ขรก.รอ ครม.เคาะ

ส่วนนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลจะออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อแจกในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตคนละ 1 หมื่นบาทว่า  การกู้เงินมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะทำได้หรือไม่ เนื่องจากผิดรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง รวมถึงพ.ร.บ.หนี้สาธารณะ และกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ก็ยังไม่ทราบ เพราะต้องรอผู้ขี้ขาดคือศาลรัฐธรรมนูญ หรือศาลคดีอาญา ตนมีข้อเสนอแนะถึงนายเศรษฐาถ้าต้องการหาเงิน 5 แสนล้านบาทมาทำโครงการนี้ ยังมีเงินอยู่ 2 ก้อน คือ 1.ให้นายเศรษฐาตรวจสอบหรือสอบถามไปยัง ป.ป.ซ.และ ปปง. รวมถึงคณะกรรมการธุรกรรมของ ปปง. ว่ามีคดีทุจริตและการใช้อำนาจหน้าที่มิชอบใดบ้าง ที่ศาลได้ตัดสินคดีถือเป็นที่สิ้นลุดแล้วในรอบ 20 ปี

"ผมเคยศึกษาและทำคดีตัวอย่างให้รัฐบาลอายัดยึดทรัพย์ในคดีโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จ.สมุทรปราการ ที่มีมูลค่า 9,058 ล้านบาทว่า เข้าข่ายความผิดฐานทุจริตในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ศาลฎีกา (แพ่ง) ได้มีคำพิพากษาให้อายัดยึดทรัพย์ผู้ทำความผิด แม้ว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาให้ชำระเงิน 9,058 ล้านบาทให้ก็ตาม" นายชาญชัยกล่าว

อดีต สส.พรรค ปชป.กล่าวว่า 2.ถ้านำคดีการทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นๆ ในรอบ 20 ปี นับแต่ปี 2540 ตั้งแต่มีกฎหมาย ป.ป.ช.บังคับใช้ มีเงินทุจริตจากมูลฐานความผิดสามารถอายัดยึดทรัพย์เข้ารัฐได้ มีจำนวนมากกว่า 1 ล้านล้านบาท หากรวมทุกคดี ถ้านายกฯ อยากได้เงินมาทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่ได้หาเสียงเป็นสัญญาประชาคม โดยไม่ต้องกู้เงิน ก็ให้นายกฯ บังคับใช้กฎหมายป้องกันการฟอกเงิน สั่งอายัดยึดทรัพย์โดยเฉพาะคดีทุจริตที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว หรือที่ ป.ป.ซ.ชี้มูลความผิดแล้ว รวมทั้งมูลฐานความผิดอื่นตามกฎหมาย ปปง. ซึ่งตนจะรวบรวมตัวเลขการทุจริตของคดีต่างๆ ส่งให้นายกฯ ไปดำเนินการสั่งอายัดและยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดิน ซึ่งเป็นเงินภาษีแผ่นดิน ให้กลับคืนมาใช้ทำประโยชน์ต่อประเทศชาติได้

ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า นายปานปรีย์ให้แจ้งกับสื่อมวลชนว่าจะยังไม่ให้สัมภาษณ์ ขอนำรายละเอียดที่ได้จากการประชุมในวันนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 28 พ.ย. ก่อนที่จะมีการแถลงความชัดเจนอีกครั้ง

วันเดียวกัน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายกฯ เตรียมแถลงแก้หนี้นอกระบบและในระบบครบวงจรว่า นายกฯ ทำงานอย่างหนักตามยุทธศาสตร์ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส และมีผลสัมฤทธิ์ของนโยบายต่างๆ มากมาย ทั้งลดค่าไฟฟ้า ลดค่าน้ำมัน รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกร ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในช่วงเวลา 60 วัน เดินทางไปเยือนหลายประเทศ เข้าร่วมการประชุมสำคัญของโลกทุกเวที โดยนายกฯ และรัฐบาลเตรียมแถลงมาตรการแก้หนี้สินให้กับประชาชนวันที่ 12 ธ.ค.นี้

"เรื่องหนี้สินเป็นเรื่องใหญ่ เป็นอุปสรรคสำคัญกับชีวิต การออกมาตรการครั้งนี้ไม่ใช่การแก้แบบปะผุ ลูบหน้าปะจมูก แต่จะแก้ทั้งระบบแบบครบวงจร นอกเหนือจากการทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงิน รัฐบาลต้องทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ บูรณาการร่วมกันในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การแก้หนี้ควรทำควบคู่กับการส่งเสริมให้มีการฝึกทักษะวิชาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน จะเป็นทางออกช่วยให้ประชาชนสามารถยืนด้วยตัวเองอย่างมั่นคง" นายอนุสรณ์กล่าว

ที่กระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์  จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและปัญหาหนี้สินรายย่อยว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และนายอำเภอทุกอำเภอ เร่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบให้แล้วเสร็จ และให้รายงานกระทรวงมหาดไทยทราบทันที  พร้อมทั้งกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เป็นประจำทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ตามที่เห็นสมควร และประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้นอกระบบที่มีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือหรือให้ทางราชการแก้ไขปัญหา ลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนด้วยตนเองที่เว็บไซต์ https://debt.dopa.go.th หากไม่สามารถดำเนินการได้เองทางระบบออนไลน์ดังกล่าว หรือสามารถเดินทางไปลงทะเบียนด้วยตนเอง กรณีอยู่ในพื้นที่อำเภอให้ลงทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ และหากอยู่ในกรุงเทพมหานคร ให้ลงทะเบียนที่สำนักงานเขตทุกแห่ง หรือผ่านช่องทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังได้สั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ได้แจ้งเรื่องร้องเรียนไว้แล้วให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว พร้อมทั้งมอบหมายเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในการรับลงทะเบียนลูกหนี้นอกระบบและให้คำปรึกษาเรื่องหนี้นอกระบบ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ทันที.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่ไหวแล้ว 'เศรษฐา' จ่อเรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ นัดพิเศษ หลังรู้จีดีพีไทยโตต่ำสุดในอาเซียน

“เศรษฐา” เรียกประชุม ครม.เศรษฐกิจ นัดพิเศษ 27 พ.ค.นี้ หลังจีดีพีไทยไตรมาสแรกโตต่ำสุดในอาเซียน

เริ่มฮั้วยึดเก้าอี้สว. กกต.จับตาพวกไร้คะแนน-ท็อปไฟว์/‘ทักษิณ’ส่ง‘สมชาย’ดันนั่งปธ.

ประเดิมสมัคร สว.วันแรก มีทั้งพื้นที่คึกคักและกร่อย สะพัด! กทม.เริ่มมีเรื่องฮั้ว รวมกลุ่ม “กกต.” จับตาพวกไร้คะแนนและบรรดาท็อปไฟว์