อสส.สอบสำนวนคดี‘แป้ง’ จี้ปฏิรูปยุติธรรมทั้งระบบ

ผบ.ตร.เชื่อ “แป้ง นาโหนด” ยังหลบหนีอยู่ในไทย แนะให้มอบตัวโดยไม่มีเงื่อนไข ยันไม่มีเรื่องตามไปวิสามัญ สั่งจเรตำรวจตรวจสอบคลิป หากมีมูลให้เสนอขึ้นมาตั้ง กก.สอบ โฆษก อสส.เผยสำนวนคดี "เสี่ยแป้ง" จากอัยการ ภ.9 ส่งมาให้ อธ.อัยการวิชาการวิเคราะห์แล้ว อุบย้าย "อัยการบอย" หรือไม่ต้องรอผลสอบก่อน "เทพไท" บอกรัฐบาลไม่ควรมองข้ามที่แป้งเปิดโปง สะท้อนกระบวนการยุติธรรมล้มเหลวทั้งระบบ อาสาให้ข้อมูลเชิงลึกปฏิรูปครั้งใหญ่

เมื่อวันจันทร์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการติดตามตัวนายชวลิต ทองด้วง หรือ "เสี่ยแป้ง นาโหนด" ที่อยู่ระหว่างหลบหนีว่า ได้สั่งการให้ชุดตำรวจภูธรภาคติดตามตัวผู้ต้องหาอยู่ ทั้งนี้ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ตำรวจไม่ใช่ผู้ต้องหา ตำรวจสืบตามเส้นทางและพยานหลักฐานประกอบกับมีปัญหาอุปสรรคเยอะ โดย พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.  และ พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่เร่งติดตามตัวคนร้ายอยู่ ตำรวจทราบแล้วว่าคนร้ายหลบหนีลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ส่วนใครที่เป็นผู้ช่วยเหลือก็จะดำเนินคดีทั้งหมดทุกคน

 ส่วนคลิปที่ปรากฏในโลกโซเชียล พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ไปตรวจสอบข้อมูลในคลิปแล้วว่ามีมูลหรือไม่ หากมีมูลก็ให้ตั้งเรื่องเสนอขึ้นมาตั้งกรรมการสอบ หากมีเจ้าหน้าที่รายใดเกี่ยวข้องก็ต้องรับกันไป

 "ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่านายชวลิตหลบหนีไปอยู่ที่ใด แต่เชื่อว่ายังอยู่ในประเทศไทย ส่วนลวดหนามที่ปรากฏในคลิปมีเยอะหลายสถานที่มาก ก็ต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ว่าเป็นสถานที่ใด ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน ซึ่งได้สั่งการลงไปหมดแล้ว"

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการติดต่อขอเข้ามอบตัวบ้างหรือไม่ ผบ.ตร.กล่าวว่าไม่มี ที่มีติดต่อก็มีญาติประสานติดต่อผ่านทางทีมงานมาว่าจะขอมอบตัว แต่มีเงื่อนไข ซึ่งหากมีเงื่อนไขตนเองรับไม่ได้ ไม่ให้มีเงื่อนไข ต้องมอบตัวอย่างเดียว หากนายชวลิตไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ให้ทำหนังสือร้องเรียนมาที่กระทรวงยุติธรรม

เมื่อถามถึงกรณีที่นายชวลิตระบุว่า หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขก็ให้รับศพเขาไป พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา ส่วนตำรวจมีหน้าที่ติดตามตัวและบังคับใช้กฎหมายติดตามตัวคนร้ายกลับมาให้ได้ ตำรวจจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และยืนยันว่าไม่มีเรื่องที่จะตามไปวิสามัญ แต่หากมีการต่อสู้ระหว่างการเข้าจับกุมก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย ไม่มีใครตั้งเป้าที่จะไปเอาชีวิตเขา หากไม่มั่นใจก็ให้ติดต่อมาจะส่งทีมไปรับ หรือจะมากับญาติพี่น้องก็ได้หากเกรงว่าไม่ปลอดภัย ตนรับรองความปลอดภัยให้เข้ามอบตัวแต่ต้องไม่มีเงื่อนไข

"นายชวลิตเป็นผู้กระทำความผิดหนีการควบคุมจากเรือนจำออกมา หากตำรวจต้องไปตามจากโซเชียลทั้งหมด ตำรวจก็ไม่ต้องทำงานแล้ว งั้นเวลาแต่งตั้งก็เอาโซเชียลมาแต่งตั้งตำรวจ ผมไม่สนเพราะหน้าที่ของตำรวจคือบังคับใช้กฎหมาย อยากให้ไปลองถามคนที่ได้รับผลกระทบบ้างว่าเขาเชียร์นายชวลิตหรือไม่ ตำรวจมีหน้าที่ก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี ไม่ได้ทำตามเสียงในโลกออนไลน์" ผบ.ตร.กล่าวถึงกระแสโซเชียลส่วนใหญ่เข้าข้างนายชวลิต

 ส่วนที่มีนักการเมืองตำหนิการทำงานของตำรวจ ผบ.ตร.กล่าวว่า กลุ่มคนเหล่านั้นไม่เคยเข้ามาอยู่ในพื้นที่ และไม่ทราบการทำงานของตำรวจ อีกทั้งสถานการณ์ในปัจจุบันและสิ่งแวดล้อมเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างมาก

ส่วนการข่าวที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เป็นเพราะประชาชนในพื้นที่ไม่เชื่อมั่นกับการทำงานของตำรวจนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้ตนก็มีนโยบายที่จะปรับทัศนคติตำรวจชุดปฏิบัติงานและตำรวจในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจและมีความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ ซึ่งเรื่องนี้ตนทราบปัญหาดี แต่ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีปัญหากับชาวบ้าน และไม่ได้มีความบกพร่องในการทำงานแต่อย่างใด

 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ได้ฝากไปถึงนายชวลิตว่า การหลบหนีแบบนี้จะทำให้ต้องหนีไปตลอดชีวิต ดังนั้นควรจะติดต่อเข้ามอบตัว แต่ถ้าหากไม่รับความเป็นธรรมก็ให้แจ้งมาได้

นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวถึงการตรวจสอบคลิปนายเชาวลิตที่มีการพาดพิงพนักงานอัยการชื่อ "บอย" ที่เคยเป็นผู้ต้องหาร่วมกับนายเชาวลิต แต่อัยการภาค 9 สั่งไม่ฟ้องว่า เรื่องนี้อัยการสูงสุดสั่งให้อธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และยังได้สั่งการให้อธิบดีอัยการภาค 9 และอธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการประสานงานกันเพื่อนำสำนวนดังกล่าวมาวิเคราะห์ ซึ่งเดิมสำนวนคดีนี้มีอยู่ 2 ส่วน 

ส่วนแรกเป็นส่วนที่สั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งในส่วนนี้มีอัยการที่ชื่อ "บอย" อยู่ในกลุ่ม 1 ใน 6 ผู้ต้องหาที่อธิบดีอัยการภาค 9 ในปี 2563 มีคำสั่งไม่ฟ้อง และคำสั่งส่งไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้พิจารณาแล้วเห็นพ้องกัน ไม่ได้โต้แย้งถือเป็นคำสั่งเด็ดขาด ส่วนอีกคำสั่งคือคำสั่งที่ได้ฟ้องเสี่ยแป้ง จนศาลพัทลุงมีคำพิพากษาจำคุก และมีข่าวว่าเสี่ยแป้งหลบหนีจนมาออกคลิปวิดีโอพาดพิงถึงอัยการ เรื่องนี้อธิบดีอัยการภาค 9 ได้รายงานผลการตรวจสอบมายังอัยการสูงสุดแล้วเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 2 ที่มีบัตรสนเท่ห์กล่าวถึงอัยการอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงจังหวัดสงขลา ซึ่งอธิบดีอัยการภาค 9 ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เนื่องจากขณะเกิดเหตุรับราชการอยู่ที่สำนักงานอัยการอาญามีนบุรี รวมทั้งไม่รู้จักกับอัยการบอยและเสี่ยแป้ง

นายประยุทธกล่าวว่า ในส่วนคำสั่งไม่ฟ้องอัยการบอยกับพวกรวม 6 คน และสำนวนที่มีการฟ้องเสี่ยแป้ง หลังได้รับคำสั่งอัยการสูงสุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ผู้บริหารของสำนักงานอัยการวิชาการ โดยนายวัชระ อินทุสุต อธิบดีอัยการสำนักงานวิชาการ ได้ประสานไปยังอธิบดีอัยการภาค 9 แล้ว และเมื่อช่วงเช้าทีมโฆษกอัยการได้ข้อมูลว่า สำนวนดังกล่าวมีการส่ง EMS ด่วน คาดว่าจะถึงสำนักงานวิชาการช่วงบ่ายวันนี้หรืออย่างช้าช่วงเช้าพรุ่งนี้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปต้องรอผลการวิเคราะห์คดีของสำนักงานอัยการสำนักงานวิชาการ

"สิ่งที่แจ้งให้ทราบได้ตอนนี้คือ กระบวนการสั่งไม่ฟ้องหรือฟ้องคดีดังกล่าวที่ผ่านมา เป็นการสั่งเด็ดขาดตามกระบวนการกฎหมายบัญญัติทุกประการ แต่กฎหมายเขียนไว้ว่าการจะสั่งคดีใหม่ได้จะเป็นไปตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 141 ที่จะต้องมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใหม่ที่สามารถนำสืบพิสูจน์ให้ศาลลงโทษผู้ถูกกล่าวหาได้ ถ้าเป็นกรณีเช่นนี้ก็อาจจะรื้อฟื้นคดีได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอผลวิเคราะห์สำนวน"

โฆษก อสส.กล่าวว่า จะต้องตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ต้องรอผลการวิเคราะห์ของสำนักงานอัยการสำนักงานวิชาการก่อน ส่วนจะต้องย้ายอัยการบอยออกจากพื้นที่หรือไม่นั้นก็ต้องรอผลการตรวจสอบ เชื่อว่าอธิบดีอัยการภาค 9 ต้องรวบรวมส่งสำนักงานอัยการวิชาการทั้งหมด

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กว่า เห็นข่าวที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พูดถึงแป้ง นาโหนด หรือนายเชาวลิต ทองด้วง ว่าขอให้มามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เมื่อกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับเขาได้ แล้วเขาจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร หากเขายอมรับกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้น เขาคงไม่หนีจากการถูกจองจำของกรมราชทัณฑ์ไปแบบนี้

การออกมาเคลื่อนไหวของแป้ง นาโหนดผ่านคลิป เป็นการท้าทายอำนาจรัฐมากที่สุด และแป้ง นาโหนดกำลังเปลี่ยนสถานะของตัวเอง จากนักโทษหนีคุก เป็นฮีโร่ของคนไทยบางกลุ่ม และเป็นดาว TikTok ที่เคลื่อนไหวอยู่ในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวาง

รัฐบาลไม่ควรข้ามประเด็นที่แป้ง นาโหนดออกมาแฉ หรือเปิดโปง แม้ว่าจะเป็นคำพูดออกมาจากปากของนักโทษก็ตาม แต่สาระสำคัญที่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องต้องนำมาขบคิด นั่นก็คือกระบวนการยุติธรรมกำลังมีปัญหาเกิดวิกฤตศรัทธา เพราะแป้ง นาโหนดออกมาพาดพิง แฉตั้งแต่ ศาล อัยการ ตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ นั่นหมายความว่า กระบวนการยุติธรรมไทยล้มเหลวทั้งระบบ ต้องสังคายนา หรือยกเครื่องใหม่ทั้งหมด

"ผมคนหนึ่งที่ผ่านกระบวนการยุติธรรมไทยมาทั้งระบบ ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ มีประสบการณ์ตรง พร้อมจะให้ข้อมูลเชิงลึกกับรัฐบาล ถ้าหากมีความจริงใจ ต้องการแก้ไขปัญหากระบวนการยุติธรรมจริง และเห็นว่ากระบวนการยุติธรรมไทยมีปัญหาอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ถึงเวลาแล้วที่จำเป็นต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ เพราะถ้าหากกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถให้ความยุติธรรมได้ แล้วประชาชนจะได้รับความยุติธรรมได้อย่างไร?" นายเทพไทระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง