รัฐบาลช่วยกันหามหมูเถื่อน “เพื่อไทย” ปากสั่นอธิบดีดีเอสไอกระเด็น ไม่เกี่ยวทุนใหญ่ โบ้ยปัญหาหมักหมมมานานแล้ว แจงยิบเร่งคลำเส้นทางเงิน ขณะที่ “ธรรมนัส” ยันคดีไม่สะดุด นายกฯ สั่งนั่งแท่นปราบสินค้าเกษตรผิด กม.ทั่วประเทศ ผงะ! เจออีกล็อตใหญ่ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง เร่งควานหาเจ้าของ ด้าน “จตุพร” หยัน “เศรษฐา” ปล่อย 3 กรมเกษตรฯ อยู่สุขสบาย อัดประเทศนี้มีผู้มีบารมีนอก รธน.สั่งการรัฐบาล ขณะที่ “กมธ.เกษตรฯ” รู้งานเล็งเรียกหาความจริง “รัฐมนตรี ป.” กังวลเกษตรกรรายย่อยสูญพันธุ์
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยก พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล จากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม จนถูกโยงว่าเกี่ยวข้องกับการปราบปรามหมูเถื่อนในช่วงที่ผ่านมาว่า ไม่ทราบสาเหตุของการโยกย้าย แต่เรื่องหมูเถื่อนไม่ได้เกิดเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นปัญหามา 2 ปี ตำรวจก็จับ เราพอเข้าใจรายละเอียดปัญหานี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปีหมูของเกษตรกรจะออกมา ทำให้ราคาขยับขึ้นนิดหน่อย เชื่อว่าประชาชนจะพออยู่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่าการโยกย้ายครั้งนี้ มีผลสืบเนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่ นายสมคิดกล่าวว่า มองว่าไม่น่าใช่ ปัญหาหมูเถื่อนมันเกิดนานแล้ว และดีเอสไอรู้หมดว่าใครเกี่ยวข้อง และทราบมาว่าผู้ที่จะถูกดำเนินคดีส่วนใหญ่เป็นรายเล็กทั้งนั้น ไม่เกี่ยวกับผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงวันนี้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังเช็กเส้นทางการเงินอยู่ มันมีรายละเอียดพอสมควร และองค์ประกอบหลายเรื่อง ส่วนที่พรรคก้าวไกลออกมาไล่บี้เรื่องโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอนั้น ก็ไม่แปลก แต่ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีรวมถึง รมว.ยุติธรรมสามารถชี้แจงได้
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ยืนยันอีกครั้งว่าการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอไม่ใช่การเด้ง เนื่องจากอธิบดีดีเอสไอทำหน้าที่ได้ดีมาตลอด และไม่ได้ทำความผิดอะไร แต่เป็นการบริหารราชการของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะต้องมีแผนงานล่วงหน้าในการจะโยกย้ายข้าราชการคนใดไปทำหน้าที่ที่เหมาะสม ทั้งนี้ การสอบสวนเกี่ยวกับขบวนการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน 161 ตู้ ซึ่งเป็นคดีพิเศษ ดำเนินมาจนทราบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง อีกทั้งชุดพนักงานสอบสวนยังเป็นชุดเดิม จึงไม่ต้องเป็นกังวล
ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมออกคำสั่งแต่งตั้งให้ตนกำกับดูแลการป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายทุกชนิด ซึ่งจะมีหลายหน่วยงานบูรณาการทำงาน โดยตนจะเข้าไปดูความคืบหน้าในการดำเนินคดีผู้กระทำผิด ส่วนการทำลายของกลาง 161 ตู้ในคดีพิเศษได้ทำลายหมดเรียบร้อยเมื่อวานนี้ (29 พฤศจิกายน) จากที่ก่อนหน้านี้มีขบวนการขัดขวางการทำลายเพื่อจะลักลอบนำหมูเถื่อนของกลางออกสู่ตลาด ทำให้ต้องปิดเป็นความลับว่าจะนำไปทำลายที่ไหน แต่ขณะนี้ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าได้ทำลายหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 30 พ.ย. ร.อ.ธรรมนัสจะเดินทางไปยังสำนักงานศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดปฏิบัติการของชุดเฉพาะกิจพญานาคราช ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย มีผู้แทนจากกรมปศุสัตว์ กรมประมง กรมวิชาการเกษตร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อยู่ในชุดปฏิบัติการนี้ ทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะมีปฏิบัติการพร้อมกันทั่วประเทศ
ยันปราบหมูเถื่อนไม่สะดุด
วันเดียวกัน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน เปิดเผยว่า พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ โดยมีมติให้ขยายคดีพิเศษเป็น 10 คดี แบ่งเป็น 9 คดี จำนวน 10 บริษัทชิปปิ้งที่ดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ว่านำเนื้อหมูเถื่อนกระจายไปที่ไหนบ้าง สำหรับกลุ่มนายทุนหลังแจ้งข้อหากับสองพ่อลูกไปแล้ว มีการขยายผลพบว่ามีอีก 2-3 กลุ่ม และวันนี้ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา 1 ราย ซึ่งเป็นนายทุนอีกบริษัท มาให้ปากคำเพิ่มเติม
พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวว่า ส่วนอีก 1 คดีพิเศษ เป็นการนำเข้าเนื้อหมูเถื่อนตั้งแต่ปี 2564-2566 ซึ่งได้ข้อมูลจากกลุ่มสัตวแพทย์ที่รายงานเรื่องโรคระบาดหมูภายในประเทศ คำอภิปรายไม่ไว้วางใจของรัฐบาลสมัยที่แล้ว ข้อมูลของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด โดยพบว่าเป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร (สุกร) และอาชีพของเกษตร มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ ข้าราชการฝ่ายการเมืองและนายทุน พบการนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เบื้องต้นที่เกี่ยวข้องแล้ว จำนวนหลายพันตู้ และยังไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน
พ.ต.ต.ณฐพลเผยอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนจำนวนตู้คอนเทเนอร์ก่อนหน้านี้ที่พบว่ามีการแอบลักลอบนำเข้าเมื่อปี 2564 จำนวน 2,385 ตู้ ล่าสุดพบเพิ่มเป็น 2,388 ตู้ มีผู้เกี่ยวข้องกว่า 10 กลุ่ม ซึ่งกำลังขยายผลตรวจสอบว่ามีใครหรือเจ้าหน้าที่ใดเข้ามาเกี่ยวข้องบ้าง
"ขอยืนยันการโยกย้าย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ไม่มีผลกระทบต่อการทำคดีหมูเถื่อน เพราะคณะพนักงานสอบสวนมีแผนแนวทางกำหนดไว้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด แม้จะเจอนายทุนใหญ่ก็จะดำเนินการตามกรอบอำนาจกฎหมายและพยานหลักฐาน" พ.ต.ต.ณฐพลระบุ
พ.ต.ต.ณฐพลกล่าวด้วยว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรพบเนื้อหมูเถื่อนเพิ่มอีก 16 ตู้ ตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษอีกเลขคดีหรือไม่ เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าเกี่ยวข้องกับ 161 ตู้ หรือ 2,388 ตู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เป็นของบริษัทใดและมีชิปปิ้งรายใดเป็นผู้สั่งนำเข้ามา
ที่รัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ประเด็นเรื่องหมูเถื่อนก็จะมีการพูดคุยในวันนี้เช่นกัน และอยากจะเชิญกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาให้ข้อมูลด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นที่จะถามต่อดีเอสไอมีอะไรบ้าง โดยเฉพาะผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นอดีตรัฐมนตรี และเราตั้งความคาดหวังหรือไม่ว่าจะสามารถเปิดเผยชื่อรัฐมนตรี ป. ได้หรือไม่ นายศักดินัยกล่าวว่า หวังว่าอย่างนั้น เราก็ต้องทำความเป็นจริงให้ปรากฏ จริงๆ คนที่รวบรวมข้อมูลในส่วนการดำเนินคดีและหลักฐานต่างๆ ทางดีเอสไอก็ต้องมีข้อมูลที่จะบอก ทางเราและประชาชนก็อยากรู้ถึงผลกระทบเหล่านี้ โดย กมธ.จะเป็นสื่อกลางและทำเต็มที่เพื่อให้ได้ข้อมูลตรงนี้ ทั้งนี้ ต้องดูด้วยว่าโยกย้ายด้วยประเด็นอะไร มีสาเหตุอะไร แต่หากไปตรวจห้างค้าปลีกและถูกย้ายทันที สังคมก็สามารถตั้งคำถามได้ ซึ่งเราเองก็สงสัย และจะถามเรื่องนี้แทนประชาชน
บี้นายกฯ แจงเหตุเด้งอธิบดี
“ต้องบอกว่าท่านนายกฯ ตกลงจะเอาจริงเอาจังเรื่องนี้หรือไม่ ท่านนายกฯ ก็ควรจะมาพูดคุยให้ประชาชนให้เข้าใจว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริง ไม่พอใจเรื่องอะไร ทางดีเอสไอที่มีการดำเนินการและทำไมต้องมีการโยกย้าย ก็ชวนให้สงสัยว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่” นายศักดินัย กล่าว
ประธาน กมธ.ระบุด้วยว่า สิ่งสำคัญที่ต้องดูต้องดูกระบวนการการนำเข้าหมูเถื่อนมาที่ท่าเรือแหลมฉบัง ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นประตูด่านแรกในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะเป็นกรมศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ มีการตรวจสอบให้ตรงกับใบที่แสดงไว้หรือไม่ และทางดีเอสไอมีการบอกมาแล้วว่ามีผู้เกี่ยวข้องเป็นข้าราชการ ก็ต้องดูว่ามีใครบ้าง ซึ่งเราไม่ต้องการเห็นเกษตรกรล้มหายตายจากไปและเหลือแต่กลุ่มผู้เลี้ยงหมูรายใหญ่ เป็นเรื่องที่น่ากังวล
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายไทกร พลสุวรรณ ตัวแทนประชาชน ยื่นหนังสือต่อนายศักดินัย โดยระบุว่า ที่ต้องมาอาศัยอำนาจของ กมธ. เพราะเห็นว่าประวัติแต่ละคนที่ดูแลเรื่องการกำจัดหมูเถื่อน 4,500 ตันนั้น ดูแล้วไม่โปร่งใส และจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้จะไม่เอาหมูเถื่อนเข้ามาเวียนขายอีก นอกจากนี้ ยังเห็นอีกว่า 90% ที่นำหมูเถื่อนเข้ามามีการเขียนสำแดงสินค้าว่า หัวปลาแซลมอน
“พวกนี้ไม่ใช่ข้าราชการ พวกนี้คือโจรในเครื่องแบบ คนที่เป็นสุจริตชนไม่มีใครปกป้องโจร มีแต่โจรด้วยกันที่ปกป้องโจร ต้องฝากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าจะกวาดล้างต้องล้างทั้งหมด ทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการที่นำเข้ามา ทำงานล่าช้า ไม่ใช่ย้ายเฉพาะอธิบดีดีเอสไอ แล้วคนอื่นลอยหน้าลอยตาแบบนี้” นายไทกรระบุ
ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุช่วงหนึ่งว่า วิญญูชนโดยทั่วไปเมื่อเห็นข่าวเด้งอธิบดี ดีเอสไอ ก็พอคิดได้ว่าถูกเด้งเพราะอะไร นอกจากนั้นคนในดีเอสไอยังเชื่อว่าถูกเด้งเพราะไม่สนองนโยบายนาย
“ขอฝากไปยังนายกฯ เศรษฐาว่า การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นเรื่องที่สามารถกระทำได้ ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แต่อย่าให้เกิดข้อครหาตามมาว่าการโยกย้ายไม่เป็นธรรม เพราะจะทำให้รัฐบาลเกิดปัญหาเรื่องการขับเคลื่อนงานไปสู่เป้าหมายในที่สุด” นายองอาจ ระบุ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ระบุว่า ถ้ามีปัญหามาจากหมูเถื่อนแล้ว ทำไมไม่ย้ายอธิบดีอีก 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ศุลกากร ปศุสัตว์ และกรมประมง ซึ่งล้วนสุขสบายถ้วนหน้า ส่วนดีเอสไอกลับถูกสั่งย้าย จนเกิดข้อสงสัยว่าการค้นหมูเถื่อนที่ห้างสรรพสินค้าแม็คโครเป็นสายเหตุหรือไม่ รัฐจึงต้องตอบสนองทุนเอกชน
"ถ้าย้ายอธิบดีดีเอสไอแล้ว นายกฯ ไม่คิดจะโกรธอีก 3 อธิบดีที่เกี่ยวข้องกับการนำหมูเถื่อนเข้ามาบ้างเลยหรือ ทำไม่ไม่เรียกอธิบดีกรมเหล่านั้นมาตวาดบ้าง และที่สำคัญการบริหารประเทศนั้น ถ้าจะมีการรับผิดชอบแล้วต้องทุกคน ไม่ใช่เลือกที่จะจัดการคนใดคนหนึ่งต้องรับผิดชอบปัญหา เหมือนกับประเทศนี้มีผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญมากเหลือเกิน คอยสั่งการรัฐบาลให้ไปจัดการกับผู้ขวางผลประโยชน์ ดังนั้น การบริหารประเทศเช่นนี้เหมือนกับบีบให้หน่วยงานต้องเข้าสังกัดว่าเป็นคนของใคร” นายจตุพรระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พรรคส้มแซะป.ป.ช.ไร้หัวใจ
เปิด 44 รายชื่ออดีต สส.พรรคก้าวไกล ที่ ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีร่วมลงชื่อแก้ ม.112 "อมรัตน์" โวยแหลก! ป.ป.ช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่
‘ที่ดิน’ โต้แทน ‘มท.1’ ไล่ ‘สปก.’ ถาม ‘พม.’
เจ้ากรมที่ดินยืนยันเอง "อนุทิน" ไม่กังวลปมถูกตีถือครองที่ดินสนามกอล์ฟ เผยไม่ได้ซื้อมือแรก เป็นการซื้อต่อชาวบ้าน แนะ ส.ป.ก.ไปถาม พม. ตั้งนิคมสร้างตนเองทับซ้อนพื้นที่หรือไม่
‘แม้ว’อดพบฮุนเซน ศาลอนุญาตเยือนบรูไน18-19ก.พ.แต่ห้ามไป ‘เวียดนาม-กัมพูชา’
ศาลอาญาอนุญาต “ทักษิณ” เดินทางออกนอกประเทศครั้งที่ 2 ไปบรูไน ประชุมอาเซียน ตามคำเชิญ “อันวาร์” ผ่านสถานทูต 18-19 ก.พ.นี้ เเต่ไม่อนุญาตไปเวียดนามและไปหาฮุน เซน ที่กัมพูชา เพราะไม่ได้เชิญในนามรัฐบาล
แซว ‘ทักษิณ-พิธา’ วิวาห์ข้ามขั้ว
ฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ” ครั้งที่ 75 ล้อการเมืองจัดเต็มหลังอัดอั้นมา 5 ปี เหน็บ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้เป็นรัฐมนตรี” หุ่น “พิธา-ทักษิณ” วิวาห์ล่ม
ขีดเส้น15ปีล่าตัว‘หมอบุญ’
อัยการคดีพิเศษยื่นฟ้องลูก-เมียหมอบุญ กับพวกรวม 13 คน ผิดเเชร์ลูกโซ่-ฉ้อโกง
ล่มอีก!รื้อรธน.ค้าง พท.รับจงใจหวังรักษาญัตติ/ปชน.ชงยุบสภาให้ปชช.ตัดสิน
สภาล่มซ้ำสอง! แก้ รธน.ไม่ถึงฝั่ง "ชลน่าน" ชิงนับองค์ประชุม "สส.-สว." มาแค่ 175 คน