ขยายเวลาหยุดยิง ยินดี17ตัวประกัน กลับถึงเมืองไทย

ตัวประกันชาวอิสราเอล 10   คน และชาวไทย 4 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสปล่อยตัวในฉนวนกาซาเดินทางถึงอิสราเอลแล้ว อิสราเอลและฮามาส ประกาศขยายเวลาหยุดยิงอีก 1 วัน    "ปานปรีย์" พร้อม 17 ตัวประกันถึงไทยแล้ว อีก 6 รายเดินทางกลับเร็วๆ นี้ นายกฯ วิดีโอคอลแสดงความยินดี ยันไม่ละความพยายามช่วยเหลือตัวประกันที่ยังเหลือ 

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ระบุว่า กลุ่มฮามาสปล่อยตัวตัวประกัน 16 คนในวันสุดท้ายของข้อตกลงหยุดยิงรอบใหม่ที่ยังไม่มีการขยายระยะเวลาเพิ่ม

มาเจด อัล-อันซารี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ กล่าวว่า พลเมืองอิสราเอล 10 คน (ผู้หญิง 5 คน, เด็ก 3 คน และวัยรุ่นชาย 2 คน) ได้รับการปล่อยตัวตามข้อตกลงหยุดยิง เช่นเดียวกับชาวไทย 4 คน โดยก่อนหน้านี้ไม่นานกลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกันชาวรัสเซีย 2 คน ตามการเจรจาแยกที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงหยุดยิง ขณะที่นักโทษปาเลสไตน์ 30 คน (ผู้หญิง 14 คน และผู้เยาว์ 16 คน) ก็ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำอิสราเอลเพื่อแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ ในจำนวนชาวอิสราเอลที่ได้รับอิสรภาพล่าสุด มีบุคคลสองสัญชาติ 5 คน ได้แก่ อิสราเอล-ดัตช์ 1 คน (ผู้เยาว์),  อิสราเอล-เยอรมนี 3 คน และอิสราเอล-อเมริกัน 1 คน                  

นอกจากนี้ ฮามาสยังพร้อมปล่อยตัวทหารอิสราเอลทั้งหมดที่กลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้ เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดที่ถูกจับในอิสราเอล

จนถึงขณะนี้มีตัวประกันอิสราเอล 60 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้หญิงและเด็ก ได้รับการปล่อยตัวเพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ 180 คน และเงื่อนไขการเปิดทางให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือไปยังผู้คนในฉนวนกาซาที่ถูกปิดล้อมมายาวนานเกือบสองเดือน

เอเอฟพีรายงานด้วยว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสบรรลุข้อตกลงหยุดยิงต่อเนื่องอีก 1 วัน แม้ว่ารายละเอียดใดๆ ในข้อตกลงอย่างเป็นทางการจะยังไม่ชัดเจนก็ตาม

"ปฏิบัติการหยุดยิงจะดำเนินต่อไปเพื่อตอบสนองต่อความพยายามของผู้ไกล่เกลี่ยที่ต้องการให้มีกระบวนการปล่อยตัวประกันต่อไปภายใต้เงื่อนไขของกรอบการทำงานเดิม" กองทัพอิสราเอลระบุ

ขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสกล่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอให้มีการขยายเวลาการหยุดยิงออกไปอีก 7 วัน แต่อิสราเอลไม่ตอบรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. (ตามเวลาอิสราเอล) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งเพิ่มเติมว่า มีคนไทยชุดที่ 5 ได้รับการปล่อยตัวอีก 4 ราย ได้แก่ 1. ไพบูลย์ รัตนิล 2.กง แซ่เล่า 3.จักรพันธ์ สีเคนา และ 4.ฉลิมชัย แสงแก้ว

ขณะนี้คนไทยทั้ง 4 รายอยู่ที่โรงพยาบาลที่ฝ่ายอิสราเอลจัดไว้ให้เพื่อตรวจสุขภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ดูแลให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก รวมถึงประสานการติดต่อกับครอบครัวและญาติที่โรงพยาบาลแล้ว

กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับครอบครัวของพี่น้องคนไทยทั้ง 4 รายที่ได้รับการปล่อยตัวในรอบที่ 5 และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนผลักดันการเจรจา คาดว่ายังมีคนไทยที่ถูกควบคุมตัวอีกจำนวน 9 ราย ซึ่งรัฐบาลไทยจะพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือให้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และจะนำพี่น้องคนไทยทุกคนที่ได้รับการปล่อยตัวและผ่านกระบวนการเยียวยาเบื้องต้นในอิสราเอลแล้วกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว

เวลา 15.50 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การต่างประเทศ เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมกับตัวประกันคนไทย 17 ราย ด้วยสายการบินอิสราเอล เที่ยวบินที่ ly081 ภายหลังจากที่นายปานปรีย์ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศอิสราเอล เมื่อคืนของวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ มีนายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ คอยต้อนรับคณะด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนายปานปรีย์ แถลงข่าวภาพรวมของการเดินทาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง ได้วิดีโอคอลมาพูดคุยกับคณะด้วย

นายปานปรีย์แถลงว่า จากการเดินทางได้พบกับตัวประกัน 17 คน ส่วนใหญ่แข็งแรงและกำลังใจดี ทางการของอิสราเอลดูแลอย่างดียิ่ง โดยเฉพาะที่ รพ.  ระหว่างที่คณะของตนอยู่ที่อิสราเอลได้ข่าวดีว่ามีตัวประกันไทยได้รับการปล่อยตัวเพิ่มเติมอีก 2 คน และอีก 4 คน รวมที่ได้รับการปล่อยตัว 23 คน และคาดว่าค้างอยู่อีก 9 คน แต่เชื่อว่าคนทำงาน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กองทัพ และหน่วยงานอื่นๆ ที่ให้การสนับสนุน ต้องทำภารกิจต่อไป จนกว่า 9 คนจะได้รับอิสรภาพและกลับสู่ประเทศไทย

"คิดว่าล็อต 2 คนจะกลับมาพร้อมกันได้ แต่สภาพร่างกายอิดโรย จึงอยากให้ดูแลร่างกายให้แข็งแรงก่อนเดินทางกลับในโอกาสต่อไป เชื่อว่าตัวประกันไทย 6 คน จะเดินทางกลับประเทศไทยในเร็ววัน และขอขอบคุณมิตรประเทศที่ช่วยเหลือเรา" นายปานปรีย์กล่าว

ด้านนายอุทัย แสงนวล ตัวแทนของตัวประกันไทย 17 คน กล่าวว่า ก่อนอื่นแสดงความเสียใจกับเพื่อนแรงงานไทยที่เสียชีวิต 39 คน และขอแสดงความยินดีกับเพื่อนแรงงานไทยที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ขอขอบคุณนายกฯ และรองนายกฯ ที่ได้เดินทางไปเยี่ยมพวกเรา รวมทั้งกระทรวงแรงงาน เอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล ด้วย

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.05 น. ที่ร้านกาแฟอเมซอน จ.อุตรดิตถ์ นายเศรษฐาได้วิดีโอคอลพูดคุยกับ 17 ตัวประกันคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัว และเดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายกฯ ได้กล่าวสวัสดีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร   ขอบคุณที่สละเวลาไปรับ และสวัสดีพี่น้องคนไทยทุกคน ดีใจหรือไม่ ได้กลับมาแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อนคนไทยที่ยังติดอยู่ได้พูดคุยกันหรือเปล่า เขายังสบายดีไหม

ขณะที่ นายอุทัย แสงนวล ผู้แทนแรงงานไทย เป็นตัวแทนพูดคุยกับนายกฯ กล่าวว่า สวัสดีนายกฯ ตอนนี้มีกำลังใจดีขึ้นมาก ขณะที่นายกฯ ถามย้ำว่าเพื่อนคนไทยที่ยังติดอยู่เป็นอย่างไรบ้าง พอจะทราบข่าวกันบ้างไหม โดยตัวแทนคนไทย ตอบว่า ตอนนี้เราไม่ทราบจริงๆ

นายกฯ ถามอีกว่า อยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง เขาดูแลดีหรือไม่ หรือพอประมาณ  ตัวแทนคนไทยตอบว่า ก็พอประมาณครับ  ก็ดี ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย

นายกฯ กล่าวว่า ทางรัฐบาลโดยการนำของนายปานปรีย์ ได้มีการติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย  กาตาร์ และอีกหลายประเทศ เพื่อให้มีการช่วยเหลือออกมาโดยเร็วที่สุด และก็ดีใจที่มีวันนี้มา และอยากให้เพื่อนๆ เรากลับมาทุกคน ถ้ามีข้อมูลอะไรที่พอจะให้เป็นประโยชน์ได้กับรองนายกฯ ก็ฝากด้วย แต่ยืนยันตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา พวกเราชาวไทยทุกคนมีความห่วงใยพวกท่านทุกคน และส่งกำลังใจให้ และพยายามทำอย่างดีที่สุด ที่จะให้วันนี้มาถึงได้ ดีใจนะครับ ขณะที่ตัวแทนคนไทยกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี

จากนั้นนายกฯ กล่าวภายหลังพูดคุยกับตัวประกันคนไทยว่า รู้สึกดีใจที่คนไทยได้กลับมา ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อคืนวันที่ 29 พ.ย. ยังพยายามติดต่อกับฝ่ายความมั่นคง กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ก่อนนอนก็ยังพูดคุยกันอยู่ว่าน่าจะมีออกมาได้เพิ่ม และวันนี้ก็ออกมาได้อีก แต่ก็ยังไม่ละความพยายาม ทุกอย่างยังเดินหน้าต่อไป และก็มีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะอย่างที่ทราบกันดี เวลานี้หยุดยิง แต่อยากให้ขยายเวลา หากขยายเวลาได้อีกเราก็จะมีโอกาสนำคนไทยทั้งหมดออกมาได้อีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายเศรษฐาวิดีโอคอล นายปานปรีย์ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดกับนายกฯ ด้วยว่า พบว่าผู้ถูกจับเป็นตัวประกัน 17 คนแข็งแรง มีกำลังใจที่ดี ทางการอิสราเอลดูแลอย่างดี แต่ละคนประสบปัญหาที่อันตราย ทุกคนเป็นห่วงต่อสุขภาพจิต แต่ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมเดินทางกลับไทยเร็วที่สุด และได้ข่าวดีเพิ่มเติม มีอีก 2 คนที่ปล่อยตัวเพิ่ม เป็น 19 คน และหลังจากนั้นเพิ่มอีก 4 คน เท่ากับว่าตอนนี้ออกมาแล้ว 23 คน คงค้าง 9 คน และทางการไทย คณะที่ทำงาน กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สาธารณสุข กองทัพ ยังต้องทำภารกิจนี้ต่อไปจนกว่าอีก 9 คนจะได้รับอิสรภาพ 

"รัฐบาลขอขอบคุณมิตรประเทศที่ได้รับการช่วยเหลือ หลายประเทศชื่นชอบไทยและพร้อมให้ความช่วยเหลือ รวมถึงได้หารือกับทางการอิสราเอล ซึ่งได้ยืนยันว่าแรงงานไทยจะได้รับการดูแลและสิทธิประโยชน์อย่างดี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทยในอิสราเอลก็จะประสานความร่วมมือกับอิสราเอล เพื่อให้แรงงานไทยยังคงสามารถเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอลได้" นายปานปรีย์กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง