ปิดฉากครม.สัญจร ‘ระนอง’คิวต่อไป/กระเช้าภูกระดึงอลเวงเจ๊แจ๋นบอกอนุมัติงบ

ปิดฉาก ครม.สัญจรนัดแรก “เศรษฐา” ยันไม่ได้สร้างภาพ เลือกหนองบัวลำภูเพราะจนมาหลายชั่วอายุคน เล็ง “ระนอง” ประชุมนัดที่สอง กระเช้าขึ้นภูกระดึงสุดอลเวง “โฆษกรัฐบาล” ยันไม่มีการพิจารณา แต่ “พวงเพ็ชร” บอกอนุมัติงบศึกษาแล้ว “ดิจิทัลวอลเล็ต” สุดมึน  นายกฯ บอกส่งร่าง กม.ให้กฤษฎีกาสัปดาห์นี้ แต่ “จุลพันธ์” เผยแค่คำถาม

เมื่อวันจันทร์ที่ 4 ธันวาคม มีการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่  1/2566 ที่จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมรัฐมนตรีได้สวมเสื้อผ้าขิดสลับหมี่ ลายบัวลุ่มภู ซึ่งเป็นลายประจำจังหวัดหนองบัวลำภู นอกจากนั้นจังหวัดยังได้เตรียมผ้าพันคอมัดหมี่ลายขอประยุกต์ สีน้ำตาลย้อมจากเปลือกมะพร้าวและหมักลงโคลนสระบัวหลวง ผลิตโดยกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองบ้านกุดดู่ให้นายกฯ ด้วย ทั้งนี้นายกฯ ยังได้นำผ้าฝ้ายมัดหมี่สีชมพูเข้มทอชื่อและนามสกุลของตนเองมาโชว์สื่อมวลชน ซึ่งเป็นผ้าจากบ้านโนนสูง โดยนายกฯ ได้จ่ายเงินส่วนตัวเพื่อซื้อผ้าผืนดังกล่าวในราคา 7,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจให้กลุ่มแม่บ้าน

และเมื่อนายเศรษฐาเดินมาดูบูธของกลุ่มแม่บ้านโนนสัง บรรดาแม่บ้านได้โชว์ผ้ามัดหมี่สีชมพูเข้มทอเป็นชื่อ  อุ๊งอิ๊ง ชินวัตร ที่จะมอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายกฯ จึงขอซื้อเพื่อนำไปให้ น.ส.แพทองธารเองในราคา 6,000 บาท และเมื่อถึงบูธเกษตรอินทรีย์ข้าวเสนาน้อย ก็ได้ซื้อข้าวอินทรีย์มะลิดำและเหมากล้วยตาก

ต่อมาในการประชุม ครม. นายเศรษฐากล่าวถึงเหตุผลที่เลือก จ.หนองบัวลำภู เป็นจังหวัดแรกในการประชุม ครม.สัญจรว่า ต้องการให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้มั่นใจว่าพวกเราไม่ได้สร้างภาพอะไร แต่ที่นี่เป็นจังหวัดที่ประชากรมีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ ซึ่งไม่ใช่เพิ่งประสบปัญหานี้ แต่ประสบปัญหากันมานานเป็นชั่วอายุคน แต่ไม่มีใครสนใจที่จะยกระดับชีวิตของพวกเขา

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุม ครม.สัญจรว่า เหตุผลที่นายเศรษฐาเลือกหนองบัวลำภูประชุม ครม.สัญจรครั้งแรก เพราะเป็นจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวประชากรเป็นอันดับ 76 ของประเทศ เฉลี่ยจีดีพีรายได้ต่อหัวกว่า 6.3 หมื่นบาท ส่วนการท่องเที่ยวอยู่อันดับ 77 ของประเทศ รายได้ต่อปีเพียง  274 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าน้อยมาก และยังเป็นจังหวัดที่มีภัยแล้งหนักหนาสาหัสมาก รวมถึงปัญหายาเสพติดเยอะมาก ซึ่งนายกฯ และ ครม.นึกถึงเสมอว่าเราต้องลดช่องว่าง ลดการเหลื่อมล้ำให้ได้ โดยการประชุม ครม. สัญจรครั้งต่อไปจะมีการจัดขึ้นที่ จ.ระนอง แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลา โดยนายกฯ จะเน้นจัดประชุม ครม.สัญจรที่จังหวัดเมืองรอง

สำหรับโครงการกระเช้าขึ้นภูกระดึงนั้น นายชัยกล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ไม่มีการหารือแต่อย่างใด จึงไม่สามารถให้ความเห็นหรือรายละเอียดในเรื่องนี้ได้

ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมยังไม่พิจารณาเรื่องที่ จ.เลยจะของบประมาณ 28 ล้านบาท ในการสำรวจออกแบบโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เพราะยังมีทั้งคนเห็นต่างและสนับสนุน จึงมอบให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.ไปประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปก่อนจะพิจารณาเรื่องนี้

ด้านนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกฯ ซึ่งเป็นผู้จุดประเด็นเรื่องนี้กลับระบุว่า ในที่ประชุม  ครม.มีการเสนอโครงการตามที่กลุ่มจังหวัดเสนอมา โดยมีโครงการกระเช้าภูกระดึงรวมอยู่ด้วย แต่ไม่ได้อ่านรายละเอียดในที่ประชุมเป็นรายโครงการ ซึ่ง ครม.เห็นชอบในหลักการตามที่จังหวัดเสนอแล้ว ให้มอบสำนักงบประมาณไปพิจารณารายละเอียดตามลำดับความสำคัญก่อนหลังต่อไป

ภายหลังประชุม ครม.เสร็จสิ้น นายเศรษฐาพร้อมด้วย  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ  ได้เดินทางไปเยี่ยมชมการทำเกษตรผสมผสานแบบพื้นบ้าน ซึ่งนายกฯ ได้นำผ้ามัดหมี่สีชมพูที่ซื้อมามอบแก่ น.ส.แพทองธารเป็นของฝาก

ต่อจากนั้นนายกฯ พร้อมคณะนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปติดตามการทำเกษตรแปลงใหญ่ การแปรรูปสินค้าเกษตร และพบปะประชาชนที่วัดสว่างชัยศรี ตำบลยางหล่อ อำเภอศรีบุญเรือง โดยนายกฯ นั่งรถคู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ซึ่งระหว่างทางนายกฯ ได้โบกมือทักทายประชาชนที่ออกมาต้อนรับตลอดเส้นทาง และมีประชาชนนำดอกไม้มามอบให้นายกฯ ด้วย

ต่อมาเวลา 14.30 น. นายเศรษฐาพร้อมคณะได้เดินเยี่ยมชมตลาดชุมชน ยลวิถีชาวบ้าน ชมนิทรรศการของกระทรวงเกษตรฯ และเดินทักทายประชาชน ขณะเดียวกันได้มีประชาชนมาถือป้ายข้อความ อาทิ พวกเราต้องการพร้อมใช้เงินดิจิทัล 10,000 แล้ว, ท่านนายกฯ ช่วยประชาชนให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบด้วย, วอนท่านนายกฯ ชาวหนองบัวลำภูต้องการเงินดิจิทัล 10,000 บาทอย่างเร่งด่วน, วอนท่านนายกฯ ช่วยชาวบ้านให้หลุดพ้นจากหนี้นอกระบบด้วย จากนั้นนายกฯ เป็นประธานสักขีพยานในโอกาส ร.อ.ธรรมนัสมอบ ส.ป.ก.4-01 และใบรับรองแหล่งผลิตพืช GAP ให้แก่ผู้แทนเกษตรกร

นายกฯ กล่าวกับประชาชนว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเกษตรกรมาตลอด และจะมุ่งมั่นผลักดันให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำเรื่องเกษตรและเกษตรแปรรูป ทำผลผลิตให้เป็นมาตรฐานสากล โดยดำเนินการตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ เพื่อเพิ่มงานเพิ่มอาชีพ และยังสนับสนุนสินค้าชุมชน รวมถึงยกระดับผ้าไทย รัฐบาลพร้อมช่วยส่งเสริมและผลักดันผ้าไทยให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่มีคนรู้จักไปทั่วโลก

สำหรับบรรยากาศในระหว่างที่นายกฯ และ น.ส.แพทองธารลงพื้นที่เป็นไปอย่างคึกคัก ชาวบ้านให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกและให้กำลังใจรัฐบาลในการทำงาน

 ก่อนหน้านี้หลังการประชุม ครม. นายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ซึ่งมี น.ส.แพทองธารเป็นประธาน ใช้งบประมาณ 5,164  ล้านบาท ถือว่าเป็นงบที่สูงและเกินจริงไปหรือไม่ว่า เดี๋ยวต้องมาพิจารณาอีกที เพราะเงินงบประมาณทุกบาททุกสตางค์รัฐบาลให้ความสำคัญ ต้องชี้แจงได้ และต้องเป็นประโยชน์ต่อประชาชนด้วย

นายเศรษฐายังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน  1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตว่า ได้มีการพูดคุยกันกับ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง โดยจะส่งหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงการออก พ.ร.บ.กู้เงินในโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ภายในสิ้นสัปดาห์นี้

ขณะที่นายจุลพันธ์ระบุว่า ในสัปดาห์นี้จะส่งหนังสือเป็นคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับโครงการ ไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ไม่ได้ส่งร่าง  พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้านบาทที่จะใช้ในโครงการแต่อย่างใด

ถามอีกว่า คำถามที่จะส่งไปตั้งประเด็นไปอย่างไรบ้าง นายจุลพันธ์ตอบว่า คำถามที่จะถามไปยังกฤษฎีกาต้องถามในรูปแบบของข้อกฎหมาย สิ่งที่เราเขียนต้องสอดคล้องกับหลักเกณฑ์วิธีการ และเติมรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นตัวเลขที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแถลง ที่เราทำช้าเพราะรอตัวเลขตรงนี้ เพื่อให้ครบองค์ประกอบ จะได้ส่งความเห็นไปได้อย่างครบถ้วน

 เมื่อถามอีกว่า หากกฤษฎีกาเห็นชอบ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร นายจุลพันธ์กล่าวว่า เราก็จะกลับมายกร่างซึ่งใช้เวลาไม่นาน เพราะโดยหลักการแล้วการยกร่าง  พ.ร.บ.กู้เงินมีไม่กี่มาตรา จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุม ครม.  หากเห็นชอบก็จะให้กฤษฎีกาตรวจทานอีกครั้ง ซึ่งคงใช้เวลาไม่นานแล้ว และจะนำร่างเข้าสู่สภาในสมัยประชุมหน้านี้พิจารณา ยืนยันว่าประชาชนจะได้ใช้โครงการดังกล่าวในเดือน พ.ค. 2567ตามกรอบเวลา.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เนวิน’รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดมิวสิคัลเทิดพระเกียรติ

“เนวิน” รวมใจชาวบุรีรัมย์ จัดเทิดพระเกียรติ 72 พรรษา แสดง แสง สี เสียง มิวสิคัล “ลมหายใจของแผ่นดิน” โดยบุรีรัมย์ออร์เคสตรา แสดงความจงรักภักดี 28-30 ก.ค.2567 สนามช้างอารีนา บุรีรัมย์

นายใหญ่เมินห่วงปมเศรษฐา

“ทักษิณ” ไม่ห่วง “เศรษฐา”  ปมศาล รธน. มั่นใจพา พท.กลับมาผงาดได้ ไม่ขอแตะ “ลุงตู่” หลังมีกระแสคิดถึง