สั่งเพิ่มของขวัญรับเด็ก! กองทัพโชว์ยุทโธปกรณ์

“เศรษฐา” โวรับวันเด็ก จะทำให้อนาคตประเทศเป็นสังคมที่ดีให้กับเยาวชน ก่อนเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปเด็ก  เดินตรวจบูธทำเนียบฯ สั่งเพิ่มของขวัญเพื่อให้ทั่วถึง กำชับต้องมีไอติมเยอะๆ เพื่อให้คนพลาดรางวัลได้กิน เด็กเขียนการ์ดอวยพรขอให้แข็งแรงพร้อมวงเงินหมื่น    “กองทัพ” จัดเต็มขนอาวุธมาโชว์

เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ม.ค.2567 ในช่วงเช้า  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊กและเอ็กซ์ว่า เด็กๆ นำการ์ดน่ารักที่ทำเองมาให้ถึงห้องทำงาน เห็นเด็กๆ ยิ้มแย้มและคุยกันอย่างสนุกสนาน ทำให้อยากให้ความมั่นใจกับเด็กทุกคนในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศว่า อนาคตของประเทศจะไปในทิศทางที่ดีแน่นอน อยากให้เด็กๆ เติบโตขึ้นในสังคมที่ดี จะพยายามสร้างสังคมนั้นให้กับทุกคน

และในเวลา 17.03 น. นายเศรษฐาได้โพสต์และเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปสมัยเด็ก พร้อมข้อความว่า “ลงรูปตอนเด็กรับวันเด็กด้วยคนครับ”

ต่อมา เวลา 17.28 น. นายเศรษฐาพร้อม นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช  เลขาธิการนายกฯ และข้าราชการ เดินตรวจความเรียบร้อยของบูธหน่วยงานต่างๆ ที่มาจัดเตรียมพร้อมสำหรับร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ โดยระหว่างเดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯ หยอกล้อว่า “ลงมาดูว่ามีไดโนเสาร์หรือเปล่า”

จากนั้นได้เดินชมบูธกิจกรรมของกระทรวงต่างๆ และแวะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีกิจกรรมอะไรในวันเด็กบ้าง โดยระหว่างนี้บุตรหลานของผู้เข้ามาจัดสถานที่ได้เข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกฯ เป็นที่ระลึก และเอ่ยถามถึงของรางวัลที่เตรียมไว้สำหรับเด็กพอหรือไม่ ถ้าไม่พอให้หามาเพิ่มเติม

ก่อนที่จะแวะบูธของสำนักงานเขตดุสิตและถ่ายรูปกับสแตนดี้ของนายกฯ ที่วางไว้ด้านหน้าบูธเพื่อเชิญชวนให้เด็กๆ ร่วมกิจกรรม จากนั้นได้แวะบูธของการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) โดยบอกว่า “ของน้อยไปหน่อย ให้บอกผู้บริหารเลยว่า ผมขอให้เพิ่มของรางวัลให้เด็กอีก เพราะของรางวัลที่เตรียมไว้มีจำนวนน้อยเกินไป” และได้บอกว่าเจ้าหน้าที่ที่เต็นท์ AOT ว่า “จะโทร.เองหรือให้ผมโทร. เพราะผมรู้จักกันดี” ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกว่า "กำลังโทร.แล้วค่ะ"  จากนั้น นายกฯ ได้เดินเข้าไปตรวจความพร้อมภายในตึกสันติไมตรีเป็นที่สุดท้าย

นายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังจากเดินตรวจความเรียบร้อยว่า เท่าที่ดูก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี แต่เป็นห่วงของขวัญน้อยไปหน่อย จึงได้ย้ำให้หลายหน่วยงานนำของรางวัลมาเพิ่มเติม เพราะกลัวว่าหมดเร็วเกินไปแล้วเด็กได้ไม่ทั่วถึงจะไม่ดี พร้อมกับหันไปหารองเลขาธิการนายกฯ ให้นำไอติมมาเพิ่มเพื่อดับร้อนด้วย ขอให้นำมาเยอะๆ เป็นพิเศษ เพราะเด็กบางคนเมื่อจับฉลากไม่ได้รางวัลก็ได้ไอติมปลอบใจ เพราะเมื่อเด็กๆ เข้ามา เขาก็คาดหวังว่าจะได้ของรางวัลหรือได้กินของอร่อย ได้ความรู้และของรางวัลรางวัลติดมือ จึงไม่อยากให้ผิดหวัง

นายกฯ กล่าวอีกว่า จะไปเปิดงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการก่อน แล้วจะกลับมาที่ทำเนียบฯ จะนำเด็กๆ ชมห้องทำงาน และนั่งเก้าอี้นายกฯ ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ยอมรับเป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย เพราะดูสภาพอากาศที่ร้อน จึงกำชับให้ดูเรื่องของพัดลมให้นำมาเพิ่ม และห้องน้ำด้วย และกำชับให้ระมัดระวังทุกเรื่อง

ส่วนที่มีม็อบ คปท.ที่ปักหลักอยู่ใกล้กับทำเนียบฯ นายกฯ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไร คิดว่าทุกคนเข้าใจดีว่า กิจกรรมวันเด็ก เป็นวันของเด็ก แม้เราจะเห็นต่างในบางเรื่อง แต่อนาคตของชาติทุกคนเห็นตรงกัน คิดว่าไม่เป็นอุปสรรคอะไร

ขณะที่สำนักโฆษก สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำการ์ดอวยพรจากเยาวชนทั่วประเทศที่ส่งมาอวยพรนายเศรษฐา เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ 2567 และวันเด็กแห่งชาติ มาจัดบริเวณชั้น 2 ตึกบัญชาการ 2 ทำเนียบรัฐบาล โดยการ์ดอวยพรทั้งหมดจะส่งให้นายกฯ ได้อ่าน ซึ่งมีบางส่วนนายกฯ ได้อ่านบ้างแล้ว  สำหรับข้อความจากการ์ดส่วนใหญ่ที่นำมาเปิดเผยส่วนใหญ่เด็กๆ อวยพรให้นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรง และขอให้สู้ๆ   นอกจากนี้ยังมีการ์ดอวยพรฉบับหนึ่งที่เขียนโดยเด็กระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระบุข้อความว่า "ขอให้ท่านนายกฯ สุขภาพแข็งแรง "เงินดิจิทัลวอลเล็ต จะได้ตอนไหน"

ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เผยว่า ในโอกาสงานฉลองวันเด็กแห่งชาติประจำปีนี้ 4 หน่วยงานในทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.), สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.), สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ผนึกกำลังจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ตามที่นายเศรษฐาได้มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2567 ไว้ว่า มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย โดยทั้ง 4 หน่วยงานมีกิจกรรมไฮไลต์และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายรอน้องๆ มาร่วมกิจกรรม อาทิ สลน.เปิดตึกไทยคู่ฟ้า ให้เด็กและเยาวชนเยี่ยมชมและนั่งเก้าอี้นายกฯ ที่ห้องสีม่วง ตึกสันติไมตรีหลังนอก, สปน.จัดบูธกิจกรรมบริเวณหน้าตึกสำนักงานปลัดสำนักนายกฯ, สลค.เปิดอาคารพิพิธภัณฑ์เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย และ สมช.จัดกิจกรรมที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึก สมช.

ทั้งนี้ บรรยากาศตลอดทั้งวันที่ทำเนียบฯ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนได้มาเตรียมจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติกันอย่างคึกคัก โดยที่บริเวณสนามหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า “เจษฎา เทคนิค มิวเซียม” ได้นำรถโบราณรูปแบบต่างๆ มาจัดแสดงให้เด็กๆ ได้ชม รวมทั้งมีการนำซากไดโนเสาร์สายพันธุ์ซอโรพอด คอยาว กินพืช ที่จำลองมาจากโครงกระดูกจริง ซึ่งนำมาจากพิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์ มาจัดแสดงบริเวณน้ำพุด้านข้างตึกสันติไมตรีด้วย

ส่วนกองทัพบก ได้เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์หลากหลายประเภทมาตั้งแสดงที่กองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนิน ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงานวันเด็กส่วนกลางของ ทบ. โดย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก จะมาเปิดงานและพบกับเด็กๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งความพิเศษของปีนี้จะพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ และกำแพงอนุสรณ์กองทัพบก รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ เช่น รถฮัมวี่ติดตั้งอาวุธ,  รถยานเกราะล้อยาง BTR-3E1 จากผู้ผลิตยูเครน, รถยานเกราะล้อยาง M1126 Stryker จากสหรัฐอเมริกา และยานเกราะล้อยาง VN-1 จากค่ายผู้ผลิตจีน ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน และรถยนต์พยาบาลที่เคยใช้ปฏิบัติในภารกิจของสหประชาชาติ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ทั้งการแนะแนวสถาบันการศึกษานักเรียนนายร้อย จปร., การสาธิตการดำรงชีพในป่า, การแสดงยิงปืนฉับพลัน และการแสดงสุนัขทหาร ขณะที่ส่วนภูมิภาคก็จัดขึ้นในหน่วยทหารขนาดใหญ่ เช่น ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก,  ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา, ค่ายบุรฉัตร จ.ราชบุรี, ค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช และค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี

ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพไทย  พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด จะมาเปิดงานที่กองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งวัฒนะ ภายใต้แนวคิดความรู้คู่บันเทิง เน้นเรียบง่าย คุ้มค่า ประหยัด ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขณะที่กองทัพอากาศ (ทอ.) ปีนี้ส่วนกลางจัดงานวันเด็กที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ สนามบินเล็กกองทัพอากาศ ทุ่งสีกัน ส่วนต่างจังหวัดจัดที่โรงเรียนนายเรืออากาศฯ สระบุรี, โรงเรียนการบิน กำแพงแสน และกองบินต่างๆ ทั่วประเทศ โดยที่ตั้งดอนเมืองจะมีการแสดงภาคการบิน หรือแอร์โชว์ ของเครื่องบินแบบต่างๆ  และการตั้งแสดงยุทโธปกรณ์ เช่น เครื่องบิน T-50,  F-16,  F-5, Alpha Jet, C-130 และ Gripen

ส่วนกองทัพเรือ กองเรือยุทธการได้เปิดให้เข้าเยี่ยมชมเรือหลวงจักรีนฤเบศร หมายเลข 911 ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่ และเรือหลวงสิมิลัน หมายเลข 871 ซึ่งเป็นเรือส่งกำลังบำรุงขนาดใหญ่ ซึ่งเหลือทั้ง 2 ลำ จอดเทียบท่าอยู่บริเวณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ และในเขตพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง โดยกองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ ได้มีการเปิดให้เข้าเยี่ยมชมลานแสดงอากาศยานทหารเรือ ซึ่งเป็นอากาศยานที่ประจำการอยู่ในกองทัพเรือในหลายรูปแบบ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เยือนโรงงานผลิตผ้าแบรนด์ชั้นนำอิตาลี ต่อยอดภูมิปัญญาผ้าย้อมครามไทยสู่สากล

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานของห้องเสื้อ Zegna เมืองวาลดิลานา (Valdilana) และพบหารือกับนาย Gildo Zegna ผู้บริหารของห้องเสื้อ Zegna