‘บุ้ง’นอนคุก/หมายจับหยก

"พิธา" ยันร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของก้าวไกล รวม ม.112 ด้วย ไม่คอนเฟิร์มความคิด "โรม" ตัด ม.112 ออกว่าต้องการทำเช่นนั้นจริงหรือไม่ ขู่ 17 ปีฟ้องเยอะ ทำให้โอกาสในการสร้างความสมานฉันท์ในชาติลดลง ขณะที่ศาลอาญาใต้สั่งถอนประกัน “บุ้ง ทะลุวัง"  นอนคุกต่อ

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล  กล่าวถึงการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรมที่ยังไม่มีการตกผลึก โดยล่าสุดพรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สร้างเสริมสังคมสันติสุขเข้าสภาด้วยว่า ยังไม่ได้อ่านร่าง พ.ร.บ.ของรวมไทยสร้างชาติ ส่วนแนวทางการดำเนินนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 จะมีการผลักดันต่อหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังทำอะไรไม่ได้ ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ในพรรคยังไม่ได้พูดคุยกัน

สำหรับกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่า จะไม่นิรโทษกรรม ม.112 แต่จะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาเป็นรายๆ ไปนั้น นายพิธากล่าวว่า เท่าที่ได้มีโอกาสคุยกับนายรังสิมันต์ ในส่วนของ กมธ.เป็นเหมือนการพบกันครึ่งทาง แต่ของพรรคก้าวไกล การนิรโทษกรรมรวม ม.112 ขณะนี้ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มได้ว่าตรงกับที่นายรังสิมันต์ต้องการทำหรือไม่

"ส่วนตัวเห็นว่า ช่วง 17 ปีที่ผ่านมา ที่มีความขัดแย้งทางการเมือง ถ้าปีนี้มีโอกาสที่เราจะเริ่มต้นใหม่ ก็ไม่อยากให้มีการสร้างกำแพงขึ้นมา ที่เพราะจะทำให้โอกาสในการสร้างความสมานฉันท์ในชาติลดลง เมื่อมีเงื่อนไขใหม่เกิดขึ้น คิดว่าน่าจะมีวิธีการบริหารจัดการความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งจากหลายรูปแบบ ได้รับการจัดการอย่างครบถ้วน"

เขาบอกว่า สำหรับอุปสรรคใหญ่ของการนิรโทษกรรม ซึ่งมีเงื่อนไข ม.112 นั้น พรรคก้าวไกลจะมีบทบาทในการช่วยเหลือผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างไรนั้น ยังติดตามสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ อัปเดตอยู่เสมอ คิดว่าพรรคก้าวไกลคงไม่ทิ้งเรื่องนี้ เป็นเรื่องการแสดงออกทางการเมือง และเป็นการหาทางออกร่วมกันของประเทศชาติ ว่าการที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขนั้น ควรจะออกมาในทิศทางไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเยาวชนอายุน้อยกว่า 18 ปี

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า แต่ละพรรคยังมีการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา หากการเมืองยังไม่ตกผลึกกันแล้ว ความพยายามนี้จึงไม่ง่าย

นายจตุพรกล่าวว่า การนิรโทษกรรมนั้น หากพรรคการเมืองใจกว้างแล้ว ต้องไม่ควรตั้งคณะกรรมาธิการมาศึกษา เพราะเป็นการกระทำเพื่อซื้อเวลา ดังนั้น ถ้ากล้าประกาศนิรโทษกรรมในคดีทางการเมืองให้กับทุกฝ่าย และออกเป็น พ.ร.ก. จะยุติปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

"ความจริงแล้วการนิรโทษกรรมเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้รัฐบาลได้รับการยอมรับนับถือ และเหนื่อยน้อยที่สุด ทำได้จริงเร็วที่สุดกว่าแลนด์บริดจ์ และดิจิทัลวอลเล็ต แล้วไม่ได้เสี่ยงอะไรอีกด้วย เพียงแต่ใช้หัวใจอย่างเดียว แต่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลก็เดินไปไม่ถึงอีก" นายจตุพรกล่าว

ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง กรุงเทพฯ ศาลนัดฟังคำสั่งกรณีตำรวจ สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องขอศาลมีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) และ น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม (บุ้ง) จำเลยในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอนเมื่อวันที่ 8 ก.พ.2565 หลังพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ยื่นคำร้องโดยอ้างเหตุที่ทั้งสองเข้าร่วมชุมนุมและพ่นสีหน้ากระทรวงวัฒนธรรม เรียกร้องให้ถอดเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สว. ออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ            

ขณะเดียวกัน ศาลยังนัดฟังคำวินิจฉัยคดีละเมิดอำนาจศาล ของ น.ส.เนติพร กรณีกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล เป็นเหตุให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลของศาลอาญากรุงเทพใต้ป้องกันตัวด้วยการใช้ดิ้ว หรือกระบองเหล็กยืดหด ตีเข้าที่บริเวณข้อศอกจนเกิดอาการบาดเจ็บ แพทย์ต้องทำการรักษาและเย็บ 4 เข็ม

ทั้งนี้ น.ส.เนติพรเผยว่า ไม่เคยคาดหวังในกระบวนการยุติธรรมไทยอยู่แล้ว ตนเองเป็นลูกผู้พิพากษา ปกติได้เห็นความปกติของความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับประชาชนเยอะ มันเป็นเหตุผลว่าทำไมตนถึงออกมาเรียกร้อง ซึ่งอยากให้มองที่เนื้อหาที่ตนออกไปเรียกร้อง อย่าไปมองว่าพวกตนก้าวร้าว อยากให้มองว่าเราทำเพื่อสังคม ไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง เพราะอยากได้ประเทศที่ดี

ต่อมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน  เปิดเผยว่า ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราว น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง เนื่องจากไปชุมนุมเรียกร้องให้ถอดถอน สว.เนาวรัตน์ และปรากฏหลักฐานเป็นภาพถ่ายว่าเป็นบุคคลที่ไปพ่นสีธงสัญลักษณ์เบื้องสูง แม้ว่าขณะนั้นจะใส่หน้ากาก โดยศาลเชื่อว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ในส่วนของ น.ส.ทานตะวัน ยังไม่มีเหตุให้เพิกถอนการประกัน จึงให้ยกคำร้อง

ในส่วนคดีละเมิดอำนาจศาลที่มีเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในบริเวณศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลเห็นว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำไปตามหน้าที่ ตัว น.ส.เนติพรแม้ไม่ได้ปีนเข้าไป แต่ไปกระชากคอเสื้อทำให้เจ้าหน้าที่ศีรษะกระแทกได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล ลงโทษจำคุก 1 เดือน ส่วน น.ส.หยก เยาวชนที่ปีนรั้วเข้าไป เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ศาลเลยให้ตักเตือน แต่เนื่องจากวันนี้หยกไม่ได้มาศาล ศาลจึงออกหมายจับเพื่อให้มาฟังคำพิพากษาที่ให้ตักเตือน ซึ่งวันนี้ตนได้ถาม น.ส.เนติพรถึงแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ โดย น.ส.เนติพรได้แจ้งว่าจะไม่ยื่นประกันตัวใหม่หรือขออุทธรณ์ในวันนี้

ขณะที่ ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์ หรือหยก เคลื่อนไหวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้เราไม่ได้ไปศาล เมื่อคืนเรานอนดึกเราหลับๆ ตื่นๆ เห็นพี่บุ้งกำลังจะไปศาล แล้วตื่นมาอีกทีช่วงเกือบ 10 โมง เพราะเสียงสายโทรมา เขาโทรมาบอกเราว่า ''พี่บุ้งโดยถอนประกัน'' เรารู้สึกเสียดายมากที่อย่างน้อยในตอนนั้นที่เราสะลึมสะลือ เราไม่ได้บอกลาเขาไม่ได้อะไรเลย จนสายต่อมาที่โทรมาคือ สายน้ำ เราได้คุยกับพี่บุ้ง แต่แค่แป๊บเดียว เราพูดอะไรแทบไม่ออก พี่บุ้งขอเราให้เราดูแลตัวเองให้ดี แค่นั้น เหมือนกับที่พี่บุ้งพูดมาตลอด เมื่อวานก็พูดก่อนจะมาถึงวันนี้

"เราอยากรู้ อะไรที่ทำให้ไทยได้กล้าไปเสนอหน้าสมัครเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทั้งที่กฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงอยู่ มีโทษสูง มีคนติดคุกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วุ่น!ส่อรื้อระเบียบเลือกสว.

ระเบียบแนะนำตัว สว.ส่อวุ่น! ตุลาการศาล ปค.ผู้แถลงคดีเสนอองค์คณะเพิกถอน 5 ปมแนะนำตัว แจกเอกสารได้เฉพาะในกลุ่มไม่เกิน 2 หน้า