หอการค้าไทยห่วง ศก.ครึ่งหลังปี 68 แผ่วหนัก จี้ฟื้นความเชื่อมั่นจีน ปม "ซิง ซิง" ทำภาคท่องเที่ยวสะดุด เร่งรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้น ฟื้นวิกฤตความเชื่อมั่นคนจีนคงเที่ยวไทย คาดจีดีพีทั้งปีสูงสุด 2.9% "กรุงไทย” ฟันธงจีดีพีไทยปีนี้โต 2.7% สงครามการค้า-ศก.โลกผันผวนทุบส่งออก
เมื่อวันที่ 13 มกราคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดว่าขยายตัวช่วง 2.4-2.9% การส่งออกขยายตัว 1.5-2.5% อัตราเงินเฟ้อ 0.8-1.2% ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งปีแรก 2568 อาจยังมีโมเมนตัมโตต่อเนื่องจากปลายปี 2567 เพราะหลายประเทศเร่งนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศก่อนถูกสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษี ทำให้การส่งออกช่วงครึ่งปีแรกยังโตดี แต่เศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ยังน่าเป็นห่วงมาก หลังจากมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ เริ่มส่งผล ขณะที่กระสุนกระตุ้นของรัฐบาลถูกมองว่าหมดลงแล้ว ดังนั้น รัฐบาลต้องเร่งหารายได้เพิ่มเพื่อนำเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ
"คงต้องตามดูว่ารัฐบาลจะหารายได้เพิ่มวิธีไหน หน่วยงานที่ดูแลนโยบายด้านการเงินและด้านการคลังควรประสานการทำงานร่วมกัน ในการหาเม็ดเงินเพื่อมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งทางออกด้วยการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หากจำเป็นควรปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ไม่เห็นด้วยหากจะปรับขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไทยยังไม่แข็งแรง เพราะจะส่งผลกระทบต่อรายได้ประชาชน และอาจทำให้เศรษฐกิจภาพรวมชะลอตัวได้"
นายสนั่นกล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังปี 2568 ภาคเอกชนยังมีความกังวลใน 2 ประเด็น คือเม็ดเงินที่รัฐบาลจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจมีไม่มากนัก และภาวะเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวลงได้ ดังนั้นต้องเร่งหารายได้เพิ่ม รวมทั้งในส่วนของมาตรการในประเทศจะต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ นำโครงการคูณสอง หรือคนละครึ่ง กลับมาใช้ เพื่อดึงเงินจากกระเป๋าของผู้ที่มีกำลังซื้อให้ออกมาช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้
นายสนั่นกล่าวด้วยว่า อีกประเด็นที่ต้องดูแลและเร่งส่งเสริมคือภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเร่งแก้ไขปัญหาความไม่เชื่อมั่นในตลาดจีนที่เกิดขึ้นจากปัญหา "ซิง ซิง" ดาราที่หายตัวไปบริเวณชายแดนไทย เนื่องจากจีนเป็นตลาดหลักของไทย รวมทั้งเร่งหามาตรการดึงดูดให้คนอินเดียเข้ามาเที่ยวไทยเพิ่ม ด้านการส่งออกจะต้องมีการผลักดันการส่งออกสินค้าตัวใหม่ๆ ที่ผลิตภายในอีอีซีให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออก
นายสนั่นกล่าวถึงเสถียรภาพทางการเมือง หลังมีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งใหญ่ในเดือนเมษายนนี้ว่า การปรับ ครม.ถือเป็นเรื่องปกติของรัฐบาล โดยมองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศต่อได้ และเป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้านนายพชรพจน์ นันทรามาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารกรุงไทย (KTB) กล่าวว่า Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวที่ 2.7% โดยยังคงมีแรงกดดันจากประเด็นสงครามการค้าที่กลับมาเร่งตัวขึ้น และความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกปีนี้อาจขยายตัวเพียง 2% ชะลอลงจากปีก่อน แม้ว่าในครึ่งปีแรกคาดว่าจะยังขยายตัวได้ดี แต่ความชัดเจนของมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะกลับมากดดันการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับปัญหาเชิงโครงสร้างด้านการส่งออกสินค้า ที่ยังอยู่ท่ามกลางการตีตลาดที่รุนแรง และขยายวงมากขึ้นจากปัจจัย Oversupply ในจีน
สำหรับภาคการท่องเที่ยว จะยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักของเศรษฐกิจไทย โดยคาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด-19 ที่ 39 ล้านคน เช่นเดียวกับการลงทุนภาคเอกชนที่คาดว่าจะกลับมาขยายตัว ตามแนวโน้มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เติบโต
ทั้งนี้ ในปี 2568 เป็นปีแห่งจุดพลิกผันสำคัญ (Inflection Point) ของเศรษฐกิจไทย โดยมีความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วนในหลากหลายมิติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชงวิป3ฝ่ายส่งศาลรธน. ตีความประชามติกี่ครั้ง
"ชูศักดิ์" ชงวิป 3 ฝ่ายส่งศาล รธน.ตีความซ้ำทำประชามติกี่ครั้ง
ไทย-จีนชื่นมื่นลงนาม14ฉบับ
"นายกฯ อิ๊งค์” คุย “สี จิ้นผิง” ชื่นมื่น! สานสัมพันธ์ครบ 50 ปี
ดัน‘สมชัย’ลงชิง ปธ.บอร์ดธปท. จ่อเคาะ28ก.พ.
ศึกชิงดำ! "คลัง" ไฟนอลแล้ว ส่ง "สมชัย สัจจพงษ์" ลงชิงเก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
ร่วมมือปราบแก๊งคอล ‘อ้วน’พอใจมาตรการ
"นายกฯ อิ๊งค์" คุย "สี จิ้นผิง" เดินหน้าร่วมกันปราบอาชญากรรมข้ามชาติ
จำคุก‘พิรงรอง’2ปี ผิดม.157เตรียมล้มยักษ์ทรู ‘ไหม’ชี้เข้าข่ายฟ้องปิดปาก
ศาลอาญาคดีทุจริตพิพากษาจำคุก “พิรงรอง” 2 ปี ผิด ม.157
ลูบหลังแดง‘แม้ว-อิ๊งค์’เห็นค่า
นายกฯ ถึงปักกิ่งแล้ว เตรียมพบ "สี จิ้นผิง" หารือความร่วมมือแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ