ศึกชิงดำ! "คลัง" ไฟนอลแล้ว ส่ง "สมชัย สัจจพงษ์" ลงชิงเก้าอี้ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ตัดเชือกกับ "สุรพล" ด้าน "สถิตย์" แจงเตรียมประชุมเคาะวันที่ 28 ก.พ. มั่นใจรู้ผลทันที เงินเฟ้อ ม.ค.68 เพิ่ม 1.32% บวกต่อเนื่อง 10 เดือน สูงทะลุ 1% เป็นเดือนที่ 2 จากราคาน้ำมันทรงตัวสูง หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ขยับขึ้น คาด ก.พ.-มี.ค.ยังสูงเกิน 1%
เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุถึงความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ แทนนายปรเมธี วิมลศิริ ที่หมดวาระการรักษาการ เมื่อวันที่ 9 ม.ค.2568 ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง และ ธปท. ได้มีการเสนอรายชื่อผู้ชิงตำแหน่งให้คณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการ ธปท. ซึ่งมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน พิจารณาเรียบร้อยแล้ว
โดยเบื้องต้น ธปท.ได้เสนอเพียง 1 รายชื่อ คือ นายสุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ประจำสาขากฎหมายมหาชน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าชิงตำแหน่ง ขณะที่กระทรวงการคลัง ได้เสนอชื่อนายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เนื่องจากมองว่านายสมชัยมีคุณสมบัติเหมาะสม ไม่มีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง รวมถึงไม่มีการดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายสมชัย ถึงประเด็นที่ถูกเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานกรรมการ ธปท. ซึ่งนายสมชัยไม่ได้รับหรือปฏิเสธเรื่องการถูกเสนอชื่อ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า “การสรรหายังมีอีกหลายขั้นตอน”
แหล่งข่าวจาก ธปท.เปิดเผยว่า วาระการประชุมคัดเลือกตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท. คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ เนื่องจากในขณะนี้นายสถิตย์ติดภารกิจ
ด้านนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคัดเลือกฯ เปิดเผยว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะมีการประชุมกันในวันที่ 28 ก.พ.2568 เพื่อคัดเลือกผู้ที่เหมาะสมดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท.ต่อไป โดยในระหว่างนี้จะเป็นขั้นตอนที่ ธปท. ต้องตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าขั้นตอนการคัดเลือกประธานบอร์ด ธปท.จะแล้วเสร็จภายในวันดังกล่าวอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี การทำงานของคณะกรรมการ ธปท. ยังคงเดินหน้าได้ตามปกติ โดยในระหว่างนี้ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ในฐานะรองประธานกรรมการ ธปท. ได้ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท.ได้ตามปกติ ภายหลังจากที่นายปรเมธีหมดวาระการรักษาการเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัย สัจจพงษ์ เป็นปลัดคลังในยุครัฐบาล คสช. และเป็นลูกหม้อของกระทรวงการคลัง มีความรู้จักกับทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย และทีมงานที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีหลายคน เช่น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่เคยเป็นอดีต รมว.การคลังมาก่อนยุครัฐบาลสมัคร สุนทรเวช และตอนนี้ นพ.สุรพงษ์ เป็นรองประธานคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ที่ถือว่าเป็นทีมงานที่ปรึกษาคนสำคัญของคณะที่ปรึกษาด้านนโยบายหรือทีมบ้านพิษณุโลก เป็นต้น
วันเดียวกัน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ม.ค.2567 เท่ากับ 100.57 เทียบกับ ม.ค.2567 เพิ่มขึ้น 1.32% เป็นบวกต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และสูงขึ้นเกิน 1% ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีที่ผ่านมา ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้นจากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
สำหรับรายละเอียดเงินเฟ้อเดือน ม.ค.2568 ที่สูงขึ้น 1.32% มาจากการสูงขึ้นของหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ 1.78% โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น เช่น กลุ่มผลไม้สด (ฝรั่ง มะม่วง สับปะรด) กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวผัด), กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำมันพืช ซอสหอยนางรม), กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป น้ำอัดลม กาแฟ (ร้อน/เย็น)), กลุ่มข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้ง (ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ขนมอบ), กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (ปลานิล ปลาทูนึ่ง ปลาทู กุ้งขาว), กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน น้ำตาลทราย) และกลุ่มผักสด (แตงกวา ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว เห็ด) อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ไก่ย่าง พริกสด มะนาว หัวหอมแดง กระเทียม ผักกาดขาว และกะหล่ำปลี เป็นต้น
ส่วนหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม เพิ่ม 1% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิง อาทิ น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ และน้ำมันเบนซิน นอกจากนี้ ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน ปรับสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่ยังมีสินค้าสำคัญหลายรายการที่ราคาลดลง อาทิ ของใช้ส่วนบุคคล (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว สบู่ถูตัว น้ำยาระงับกลิ่นกาย) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ) เป็นต้น
ทางด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เดือน ม.ค.2568 เมื่อหักอาหารสดและพลังงานออก เพิ่มขึ้น 0.83% เร่งตัวขึ้นจากเดือน ธ.ค.2567 ที่สูงขึ้น 0.79%
นายพูนพงษ์กล่าวว่า แนวโน้มเงินเฟ้อเดือน ก.พ.2568 คาดว่าจะใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.2568 โดยมีสาเหตุจากราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาทต่อลิตร ยังสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน และราคาสินค้าเกษตรบางชนิดยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังไม่เข้าสู่ระดับปกติ หลังจากได้รับผลกระทบของภัยแล้งอย่างยาวนาน โดยเฉพาะพืชสวน เช่น มะพร้าว ส่วนเดือน ก.พ.2568 ก็น่าจะยังเกิน 1% และคาดว่าไตรมาสที่ 1 เงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้น 1.1-1.2%
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง จากการที่ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและการตรึงราคาก๊าซ LPG ฐานราคาผักสดในปีก่อนหน้าอยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ แต่ปีนี้สภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
นอกจากนี้ สนค.ได้ปรับฐานสินค้าและบริการที่นำมาใช้ในการคำนวณเงินเฟ้อใหม่ เพิ่มเป็น 464 รายการ จากปีฐาน 2562 มีจำนวน 430 รายการ มีทั้งปรับออก และเพิ่มเข้า โดยสินค้าที่ปรับออก เช่น นิตยสารรายเดือน และที่เพิ่มเข้า เช่น ปลาแซลมอล อะโวคาโด น้ำปลาร้า เกลือแร่ สมาร์ทวอตช์ พลังงานไฟฟ้า กล้องติดรถยนต์ ฟิล์มกันรอย เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับการบริโภคในปัจจุบัน ส่วนเครื่องฟอกอากาศ คาดว่าจะปรับเข้าในระยะต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลาก1ปีสรุปฮั้วสว./หมอเกศลุ้นเม.ย.
“ประธาน กกต.” แจงยิบจับมือดีเอสไอสอบฮั้ว สว.ช่วยให้ทำงานคล่อง
ธปท.ดักคอซื้อหนี้ คลังไม่ถอยกาสิโน
“จุลพันธ์” มั่นใจซื้อหนี้ประชาชนเกิดได้ในรัฐบาลนี้ ขอรอความชัดเจนก่อน
ปลุกใส่กางเกง สัญลักษณ์จว. เล่นสงกรานต์
“นายกฯ อิ๊งค์” หัวโต๊ะ คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ ปลุกใส่กางเกงสัญลักษณ์ประจำจังหวัดเล่นน้ำสงกรานต์ พร้อมทุ่ม 150 ล้าน
การันตีจีนดูแลอุยกูร์ดี อ้วนฝากทูตไทยตามต่อ
นายกฯ ย้ำส่ง "อุยกูร์" กลับจีนไม่ต้องห่วง พร้อมตอบทุก ปท.ที่เห็นต่าง “ภูมิธรรม-ทวี” ถึงซินเจียงแล้ว
ซักฟอกแม้วลาม‘ปู’ เคาะฝ่ายค้านเชือด28ชม./‘อิ๊งค์’มนุษย์แม่เคลียร์ดรามา
"นายกฯ" ลั่นคนเราไม่ได้มีมิติเดียว ต้องแบ่งเวลาให้ถูก หลังโดนดรามาพาลูกวิ่งสนามหญ้าทำเนียบฯ เมินคุยม็อบแก้ปัญหาปลาหมอคางดำ
ทลายบุหรี่ไฟฟ้า เจ้าใหญ่สุดปท. มูลค่า130ล้าน
"นายกฯ อิ๊งค์" โชว์ทลายโกดังบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุด ส่งขาย 100 เครือข่ายทั่วประเทศ ยึดของกลาง 2.6 แสนชิ้น