ม็อบชาวนาเขย่ารบ. ขู่ปิดถนนแก้ราคาข้าวตกต่ำ/เร่งนัดสองสภาถกญัตติพท.

"พท." ชงญัตติด่วน ยื่น "ปธ.รัฐสภา" ขอมติส่งศาล รธน.วินิจฉัย ร่าง รธน.แก้ ม.256 "วันนอร์" เล็งนัดถก 3 ฝ่ายถก มั่นใจบรรจุญัตติได้ไร้ปัญหา "ประเสริฐ” มองเรื่องปกติ สส.เพื่อไทย ฉุน "พิชัย" ไม่แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรมัวเดินสาย ตปท. บอกแค่เสียงสะท้อนได้คุยกันคงจบ "ม็อบชาวนา" ประชิดทำเนียบฯ ยื่น 3 ข้อจี้รัฐบาลแก้ราคาข้าวตกต่ำ ขู่ปลุกชาวนาทั่ว ปท.ปิดถนน โวยเอาแต่สนใจแก้ รธน. "สุชาติ" ขอรอฟัง "อนุ นบข." ถก 20 ก.พ.นี้หามาตรการช่วยเหลือ "เด็กกล้าธรรม" ร่วมกระทุ้ง "รบ.-พณ." เร่งเยียวยา “กมธ.ที่ดินฯ” เตรียมลุยสอบ “นิคมลำตะคอง-สนามกอล์ฟอนุทิน” ต่อ

ที่รัฐสภา วันที่ 19 ก.พ.2568 มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา  นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย  ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้มีหนังสือถึงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขอเสนอญัตติด่วน เรื่องขอรัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 210 วรรคหนึ่ง (2) (อ่านรายละเอียดหน้า 2)

นายวิสุทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เสนอญัตติด่วนเรื่องขอรัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา โดยอ้างอิงถึงร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ตั้ง ส.ส.ร.เพื่อจัดทำร่างฉบับใหม่ของร่างพรรค พท.และพรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งมีหลักการทำนองเดียวกัน และประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระในการประชุมเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฏว่าเกิดความขัดแย้งและความเห็นที่แตกต่างกันของสมาชิกรัฐสภาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา

นายวิสุทธิ์กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาฝ่ายหนึ่งเห็นว่ารัฐสภาไม่มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 2 ฉบับ เนื่องจากยังมีการจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่าประชาชนประสงค์ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับฉบับใหม่หรือไม่เสียก่อน  ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 จึงได้แสดงออกด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมประชุมและมีการอภิปรายแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง อีกฝ่ายเห็นว่ารัฐสภามีหน้าที่ทำหน้าที่พิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ เพื่อให้มีหลักเกณฑ์ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยการเพิ่มเติมหมวด 15/1 เท่านั้น ซึ่งภายหลังเมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมแล้ว จึงไปดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติ โดยทำพร้อมกับประชามติว่าประชาชนเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นการทำประชามติก่อนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เช่นกัน ซึ่งฝ่ายนี้เห็นว่าเป็นการสอดคล้องและเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564

"เมื่อสมาชิกรัฐสภามีความเห็นขัดแย้งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการพิจารณาและลงมติร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในข้างต้น จึงทำให้รัฐสภาไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ จึงก่อให้เกิดปัญหาและอุปสรรคในการทำหน้าที่ และถือว่าเป็นกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และยังไม่มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปัญหาดังกล่าว จึงเสนอญัตติด่วนตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา เพื่อให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่" นายวิสุทธิ์กล่าว

ขณะที่นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวถึงความคืบหน้าการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อเตรียมพิจารณาญัตติการส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจรัฐสภา ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า จะต้องมีการหารือกับเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะเลขาธิการรัฐสภาและสำนักการประชุมอีกครั้ง

เล็งถกญัตติส่งศาลตีความ

ถามถึงญัตติของพรรค พท.ที่เสนอมาจะดำเนินการอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า หากได้รับญัตติจากพรรค พท.แล้ว ก็จะต้องเชิญวิปทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา  รวมถึงผู้แทนจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มาพิจารณาว่าจะมีการนัดการประชุมรัฐสภาเมื่อใด และจะต้องมีญัตติใด ที่จะต้องพิจารณาก่อนและหลังบ้างเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้เร็วๆ นี้ เพราะเป็นอำนาจของประธานรัฐสภา

ซักว่า จำเป็นจะต้องวางมาตรการใดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาองค์ประชุมหรือไม่นั้น ประธานรัฐสภากล่าวว่า ตามปกติไม่มีปัญหาใดๆ อยู่แล้ว เพราะมีการหารือในวิปทั้ง 3 ฝ่าย และผู้แทน ครม. เมื่อได้ข้อยุติแล้ว วิปก็จะไปแจ้งให้ สส.-สว.แต่ละฝ่ายทราบ ซึ่งตนคิดว่าไม่น่ามีปัญหาใดๆ และจะเกิดความเรียบร้อย

เมื่อถามถึงกรณีพรรค ปชน.เตรียมตรวจสอบคลิปหลุดนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธาน ป.ป.ช. เข้าพบที่บ้านพักจะดำเนินการอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ต่างคนต่างทำหน้าที่ก็เป็นสิทธิ และตนก็ได้ชี้แจงไปแล้ว สามารถดำเนินการได้ตามสิทธิและหน้าที่ของแต่ละฝ่าย

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรค พท. กล่าวถึงกระแสข่าว สส.พรรค พท.หลายคนไม่พอใจการทำงานของนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ที่ปล่อยให้สินค้าเกษตรในประเทศหลายชนิดราคาตกต่ำ แต่เดินสายต่างประเทศเป็นประจำว่า ความเห็นในพรรคก็คือ  สส. ซึ่งต้องรับฟัง

ถามว่า การที่ สส.ในพรรคออกมาให้ความเห็นแบบนี้ และมีกลุ่มชาวนาออกมาเรียกร้องเรื่องราคาข้าวตกต่ำจะส่งผลถึงการปรับ ครม.หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า ขออย่ามองเรื่องนี้เกี่ยวกับการปรับ ครม. เพราะก่อนหน้านี้นายกฯ พูดชัดเจนแล้ว ดังนั้นการแสดงความเห็นในที่ประชุมพรรคประจำสัปดาห์เป็นการสะท้อนปัญหาในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขหรือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ซึ่งเชื่อว่ารัฐมนตรีพิชัยคงจะมีเวลามาชี้แจงให้รับทราบ

ซักว่ากังวลหรือไม่เพราะใกล้จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่มีการไม่พอใจรัฐมนตรีในพรรคด้วยกันเอง นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่กังวล และจะใช้คำว่าไม่พอใจคงไม่ได้ เพียงแต่มีข้อสงสั ยซึ่ง สส.ก็ซักถามได้ ซึ่งหากรัฐมนตรีท่านใดไม่ติดภารกิจ ก็จะเข้าร่วมการประชุม สส.ของพรรค

ถามย้ำถึงกระแสข่าวปรับคณะรัฐมนตรีขณะนี้นิ่งแล้วหรือยัง นายประเสริฐยืนยันว่า ไม่มีอะไร เมื่อถามต่อว่า การที่บอกว่าไม่มีอะไร แต่อาจจะมีการเดินเกมใต้ดิน แม้นายกรัฐมนตรีและนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีบอกว่าไม่มีอะไร นายประเสริฐกล่าวว่า  การปรับ ครม.ขอให้ไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะคนอื่นไม่สามารถตอบแทนได้

ที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.30 น. กลุ่มเกษตรกรชาวนาผู้ได้รับความเดือดร้อนจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, ลพบุรี,  สิงห์บุรี, ชัยนาท และปทุมธานี ประมาณ 200 คน นำโดยนายฐิติวัฒน์ กลีบมาลัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลมารวิชัย อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และนายสอาด สุขสุแดน กำนันต.ไม้ตรา อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนาอย่างเร่งด่วน

ม็อบชาวนาบี้ รบ.แก้ปัญหา

ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรชาวนาได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1.ขอให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ทำนา โดยกำหนดราคาประกันข้าวที่ 11,000 บาทต่อตัน และกำหนดปริมาณรับประกันราคาไม่เกิน 50 ตันต่อราย หรือดำเนินโครงการรับจำนำข้าวในราคารับจำนำข้าว 11,0000 บาทต่อตัน สำหรับเกษตรกรรายละ 50 ตัน 2.ให้รัฐบาลเยียวยาเกษตรกรผู้ทำนาในพื้นที่รับน้ำ โดยจัดสรรเงินชดเชย จำนวน 300 บาทต่อไร่ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือนในแต่ละปี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นพื้นที่รับน้ำ และ 3.ให้ยกเลิกมาตรการห้ามเผาตอซังข้าวในพื้นที่ทำการเกษตร  เนื่องจากชาวนาที่อยู่ในพื้นที่ไม่มีทางเลือกอื่นใดในการกำจัดฟางข้าวนอกจากการเผาทำลาย หรือขอให้ตั้งงบรับซื้อตอซังข้าว เพื่อช่วยลดภาระชาวนา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มเกษตรกรยังได้ปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง บริเวณ ถ.พิษณุโลก หน้าประตู 4 ทำเนียบฯ ถึงปัญหาราคารับซื้อข้าวตกต่ำ รวมทั้งชูป้ายระบุข้อความว่า “ต้นทุน 6,000 ขายได้ 6,500 เอาเงินที่ไหนจ่ายดอกเบี้ย ธ.ก.ส.”, “กำแพงเพชรเกวียนละ 5,000-6,000 จะอยู่อยู่รอดได้อย่างไร ขอ 12,000 ต่อเกวียน”, “หยาดเหงื่อของชาวนาต้องมาเป็นน้ำตาในวันนี้โคตรช้ำใจรัฐบาล” เป็นต้น

จากนั้นเวลา 12.50 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ เดินทางมาพูดคุยกับกลุ่มเกษตรชาวนา พร้อมระบุว่า  นายกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเข้าใจปัญหาเกษตรกรชาวนาทุกคน วันนี้ต้องขอโทษทุกคนที่ผ่านมาตนเป็น รมช.พาณิชย์ เอาข้อมูลมาดู 2 ปีที่ผ่านมาอินเดียไม่ได้ส่งออกไม่ได้แข่ง แต่พอเขาส่งออกทำให้ข้าวราคาตก ตรงนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว นายกฯ กำชับกระทรวงพาณิชย์ว่าการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.) ที่จะกำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกที่ลดลงจากการกลับมาส่งออกของอินเดียหลังหยุดไป 2 ปี ในวันที่ 20 ก.พ. กระทรวงพาณิชย์ต้องเสนอว่าจะให้ราคาเท่าไหร่" นายกฯไม่ทอดทิ้ง แต่มีความตั้งใจแก้ปัญหาและตั้งใจมาติดตามปัญหา ไม่ใช่แค่มาพบรับหนังสือแล้วกลับ ซึ่งการที่ผมมาวันนี้ ถือว่าเอาหน้าตัวเองมาการันตี" นายสุชาติกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรบางส่วนได้ขอความชัดเจนจากนายสุชาติว่า ในการประชุมอนุ นบข.จะได้ตัวเลขราคาข้าวที่ชัดเจน พร้อมทั้งระบุว่าที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสนใจแต่เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้นายสุชาติชี้แจงว่า วันนี้ตนไม่ได้พูดสักคำถึงเรื่องการแก้ไข รธน. เพราะมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาราคาข้าวจึงได้มาชี้แจง

"หลังการประชุมคณะอนุ นบข. เมื่อมีความชัดเจนจะมีการแถลงข่าวให้พี่น้องเกษตรกรรับทราบ ซึ่งเรื่องข้าวไม่ได้มีแค่เฉพาะกระทรวงพาณิชย์ที่เกี่ยวข้อง แต่ยังมีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งการทำงานต้องบูรณาการกันทุกฝ่าย ไม่ใช่ลูบหน้าปะจมูกกันทุกครั้งไป" นายสุชาติระบุ

  นายสมชัย ไตรถาวร ประธานชมรมชาวนาอยุธยา กล่าวว่า วันที่ 20 ก.พ.หากไม่ได้รับคำตอบจากที่ประชุมที่ชัดเจน จะมีการรวมตัวของเกษตรกรชาวนาทุกจังหวัดทั่วประเทศปิดถนน ติดคุกก็ติดคุก และเชื่อว่าคนที่จะแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้คือนายกรัฐมนตรี

ด้านนายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกลุ่มเกษตรกรชาวนาบุกทำเนียบฯ ว่า ในประเด็น 3 ข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม ตนเห็นใจและเข้าใจถึงประเด็นที่เรียกร้อง จึงได้เสนอปัญหาและแนวทางให้รัฐบาล โดยเฉพาะ รมว.พาณิชย์ และ รมว.เกษตรฯ ในประเด็นที่มีการเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรชาวนานั้น รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์ควรเร่งหามาตรการรักษาระดับราคาข้าว

"หากรัฐบาลมีแนวทางเยียวยาอย่างไร ผมจะเร่งแจ้งพี่น้องเกษตรกรให้รับทราบต่อไป" สส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม ระบุ

ที่รัฐสภา นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาฯ กล่าวว่า วันนี้ กมธ.ที่ดินฯ จะนำเรื่องที่ดินทับซ้อนในพื้นที่นิคมลำตะคอง ซึ่งรวมไปถึงที่ดินของครอบครัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เข้าสู่ที่ประชุม เพื่อขอมติที่ประชุมว่าจะเดินหน้าตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีพื้นที่ทับซ้อน ทำให้การออกโฉนดที่ดินล่าช้า และมีประชาชนร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งตนได้ให้ตรวจสอบเรื่องนี้มา 3-4 เดือนแล้ว และล่าสุดได้รับเอกสารมาครบเรียบร้อยแล้ว จึงคิดว่าน่าจะนำของมติที่ประชุมเดินหน้าเป็นวาระใหญ่ของที่ประชุมได้หรือไม่

กมธ.ที่ดินลุยปมสนามกอล์ฟ

ถามว่า มองประเด็นเรื่องพื้นที่ครอบครัวของนายอนุทินอย่างไร นายพูนศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมือง แต่มองเป็นเรื่องของข้อกฎหมายมากกว่า และต้องการที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะตอนนี้มีภาคประชาชนประมาณ 800 แปลง ร้องเข้ามาว่าไม่ได้มีการพิสูจน์เรื่องของการทับซ้อนและออกเอกสารสิทธิ์ให้ ซึ่งเราต้องยกมาตรวจสอบทั้งหมด ไม่ใช่แค่แปลงใดแปลงหนึ่ง

"ก็ยอมรับว่าแปลงของครอบครัวนายอนุทินต้องได้รับการตรวจสอบด้วย  โดยจะต้องไปดูวัตถุประสงค์ของการใช้ที่ดินนิคมสร้างตนเองว่ากำหนดให้ทำอะไร ซึ่งเมื่อครอบครองครบ 5 ปีแล้วสามารถขอออกเป็นโฉนดได้ แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเมื่อออกเป็นโฉนดแล้วเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้งาน สามารถทำได้หรือไม่ โดยยังเป็นคำถามของ กมธ.อยู่ จึงคิดว่าเป็นหนึ่งที่ต้องตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ผมได้พูดคุยกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) อยากจะขอให้เป็นตัวกลาง เพื่อแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งหมด และจากที่ทราบตอนนี้ สคทช. ก็กำลังตรวจสอบในพื้นที่ลำตะคองอยู่" นายพูนศักดิ์กล่าว

ซักว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย จะทำให้เข้าเคลียร์ที่ดินทับซ้อนยากขึ้นหรือไม่ ประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าวว่า ไม่ยาก เพียงแค่หน่วยงานรัฐ ทำงานตรงไปตรงมา และ สคทช.ก็ต้องเคลียร์เรื่องวันแมปให้ได้ เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนทั้งประเทศได้อย่างยั่งยืน ไม่มีปัญหาซ้ำ ต้องช่วยกันแก้ทีละเส้น ต้องใช้เวลา ทาง กมธ.จะช่วยตรวจสอบ ถึงแม้จะเป็นที่ดินของนักการเมือง หรือของใครก็ตาม  เรายินดีที่จะเข้าไปร่วมในการตรวจสอบ

"ตอนนี้ผู้ที่ถือครองที่ดินอาจจะมีโฉนด เพราะถือครองครบ 5 ปีแล้วออกโฉนดได้ และอาจจะเปลี่ยนมือที่ 2, 3  หรือ 4 ทำให้เจ้าของปัจจุบันถือโฉนดอย่างถูกต้อง แต่ก็ต้องกลับไปดูวัตถุประสงค์ของนิคมสร้างตนเองด้วยว่าเขาให้ทำอะไร และต้องเป็นไปตามที่เคยประกาศไว้ตั้งแต่ต้นหรือไม่ ทาง กมธ.กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่" ประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าว

ส่ว นพล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีต สส.พรรคก้าวไกล และอดีตผู้บังคับการกองปราบปราม (อดีต ผบก.ป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้ความเห็นถึงร่าง กม.กาสิโนว่า เป็นไปตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 เพื่อประกอบการยกร่างกฎหมายให้สมบูรณ์ ส่วนผลจะรับฟังจะเป็นอย่างไร ก็ว่ากันไป ซึ่งผลการรับฟังนั้น จะถูกนำมาประมวลรวมกันก่อน แล้วจึงนำเสนอต่อที่ประชุมในวาระแรก

ถามถึงความเห็นข้อกำหนดมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือนถึงเข้ากาสิโนได้ พล.ต.ต.สุพิศาล มองว่า ในช่วงแรกก็อาจจะกำหนดเพื่อกีดกันกลุ่มผู้มีรายได้น้อย คุ้มครองไม่ให้คนจนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน หากไม่มีเงินจริง ก็เข้าไปไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่าก็ดีเพื่อให้เป็นมาตรการการบังคับใช้กับตัวบทกฎหมาย ป้องกันไม่ให้ประชาชนคนหาเช้ากินค่ำเข้าไปในกาสิโน

 "ในร่างนี้ควรมีมาตรการและกลไกในการตรวจสอบ การนำเงินเข้ามาสู่ระบบเล่นการพนัน ให้ต้องมีแหล่งที่มาของเงินจากรายได้โดยแท้ อย่างสุจริต รวมทั้งควรต้องมีระบบติดตามเงินที่ได้นำออกไปจากระบบกาสิโน สำหรับป้องกันเรื่องการฟอกเงินและการทุจริต" พล.ต.ต.สุพิศาลเสนอ.