บี้ทักษิณขอโทษกรือเซะ-ตากใบ

"จตุพร" กระทุ้ง "ทักษิณ" ลงชายแดนใต้ในรอบ 18 ปี ไปขอโทษคน "กรือเซะ-ตากใบ"  อย่างจริงใจ สดุดี 2 ตำรวจกล้า คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่ม ก่อนขโมยปืนหลบหนี ผู้การปัตตานีสั่งปิดล้อมตรวจค้น เร่งหาหลักฐานจับตัวให้ได้โดยเร็ว

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นายจตุพร  พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน  เฟซบุ๊กไลฟ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน จะไปพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมประชุมร่วมกองทัพภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในวันที่ 23 ก.พ.ว่า ตั้งแต่ปี 2547  สมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ ซ้ำเติมปัญหาด้วยการพูดเย้ยหยันความรุนแรงภาคใต้ว่าเกิดจากฝีมือโจรกระจอก ถึงวันนี้กว่า 21 ปีแล้ว มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นบทเรียนถึงการใช้อำนาจโดยไม่เข้าใจแก่นของปัญหาที่แท้จริง แล้วนำพาไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดจนก่อความรุนแรงขึ้นเป็นที่สุด แต่ถ้าจะเริ่มต้นแก้ไขปัญหาใหม่โดยที่นายทักษิณไม่มีหน้าที่อะไร ควรใช้ความจริงใจมาแก้ไขแทนการใช้อำนาจเข้าจัดการเบ็ดเสร็จ

"ดังนั้นในรอบ 18 ปีกว่าที่นายทักษิณจะลงไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นครั้งแรก ไปนราธิวาส ควรมาที่ตากใบ กรือเซะ และสะบ้าย้อย แล้วแสดงออกอย่างวิญญูชนจากอดีตที่ดำเนินนโยบายผิดพลาด ยอมรับกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา พร้อมกล่าวขอโทษประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งเป็นปฐมบทให้เหตุการณ์ไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ขยายปะทุรุนแรงขึ้นมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2547"  นายจตุพรระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ทักษ์เชษฐ์ เบญจธรรมรักษ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.ยะรัง ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าที่ตำรวจ ภายในซอยไม่มีชื่อ ม.3 ต.ยะรัง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วรินทร์ วันธงชัย ผกก.สภ.ยะรัง ทราบ พร้อมนำกำลังสามฝ่ายไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงเสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย จึงรีบลำเลียงทั้ง 2 นายไปโรงพยาบาลยะรัง ทราบชื่อผู้เสียชีวิต จ.ส.ต.เดโช เขียวแก้ว อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ (ป.) มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าบริเวณลำตัวหลายนัด ส่วน ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ อายุ 23 ปี ผบ.หมู่ (ป.) ได้รับบาดเจ็บสาหัส แพทย์ได้พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่งและเสียเลือดมาก เสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพศพทั้ง 2 นายสวมชุดเครื่องแบบ ใส่เสื้อหุ้มเกราะและสวมหมวกเหล็ก

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นายเพิ่งเสร็จจากภารกิจตั้งด่านบนถนนภายในเขตเทศบาลตำบลยะรัง และหลังจากตั้งด่านเสร็จ ได้รับแจ้งว่าภายในซอยดังกล่าวพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัย และอาจจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่พยายามจะก่อเหตุ หลังจากได้รับแจ้งกำลังประจำด่านตรวจจึงได้เดินทางเพื่อไปตรวจสอบ และเมื่อมาถึงปากซอยรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 นายซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ จ.ส.ต.เดโชเป็นคนขับขี่  ส่วน ส.ต.ต.ทรงชัยนั่งซ้อนท้ายเข้าไปในซอย  ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุทั้งสองข้างทางเป็นป่าและมืด มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่แล้ว  ใช้อาวุธปืนสงครามถล่มยิงทั้งสองหลายสิบนัด  ทำให้รถเสียหลักตกข้างทาง นอกจากนี้ กระสุนยังไปโดนกระจกและอาคารบ้านของประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง คนร้ายยังได้ขโมยอาวุธปืนพกสั้นประจำกายของทั้ง 2 นายหลบหนีไปด้วย

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จ.ปัตตานี) สั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมสามฝ่ายเข้าไปที่เกิดเหตุ วางแผนกระจายกำลังปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร  พร้อมประสานหน่วยกำลังโดยรอบให้เฝ้าระวังและตรวจค้นยานพาหนะทุกชนิด รวมไปถึงบุคคลต้องสงสัย เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่และมีแนวร่วมให้ความช่วยเหลือให้ที่หลบซ่อน พร้อมกำชับให้ชุดสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด โดยเฉพาะปลอกกระสุนปืนของคนร้าย เพื่อนำไปตรวจสอบหาข้อมูลว่าอาวุธปืนที่ใช้เคยก่อเหตุใดบ้าง และเชื่อว่าน่าจะรู้ตัวกลุ่มที่ก่อเหตุ นอกจากนี้ ให้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกจุดทั้งก่อนและหลังก่อเหตุ  เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ พยายามแสดงศักยภาพในการกดขี่ต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อสร้างสถานการณ์

ส่วนความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 20 ก.พ. เวลา 09.30 น. พ.ต.อ.วรินทร์ วันธงชัย ผกก.สภ.ยะรัง จัดกำลังเจ้าหน้าที่เก็บกู้วัตถุระเบิด และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมใช้โดรนตรวจสอบพื้นที่รัศมี 500 เมตรโดยรอบ เพื่อป้องกันคนร้ายก่อเหตุซ้ำ โดยเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเพิ่มเติม 4 ชนิด ประกอบด้วย ปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 อาก้า ขนาด 9 มม. และ .22 มากกว่า 30 ปลอก นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนสั้นขนาด .38 จำนวน 2 กระบอกตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นของตำรวจทั้ง 2 นายที่เสียชีวิต นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีอาวุธปืนขนาด 9 มม.ของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้หายไป 2 กระบอก และอาวุธปืนแบบ M4 จำนวน 1 กระบอก ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ขณะที่ญาติของ ส.ต.ต.ทรงชัย เดินทางมายัง สภ.ยะรัง เพื่อติดต่อขอรับศพนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัว

ทางด้าน พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้บังคับการกองสารนิเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองสารนิเทศ ขอสดุดีตำรวจกล้าทั้ง 2 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มความสามารถ พลีชีพในหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบสุขจนวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจทั้ง 2 นาย พร้อมสั่งดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ กรณี จ.ส.ต.เดโช เขียวแก้ว ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยะรัง จะได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2,460,960 บาท พิจารณาความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศเป็น “พ.ต.อ.” และ ส.ต.ต.ทรงชัย จันทรภาพ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ยะรัง ได้รับเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 2,289,540 บาท พิจารณาความชอบพิเศษ เลื่อนเงินเดือนไม่เกิน 7 ขั้น และเลื่อนยศเป็น “ร.ต.อ.”.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง