รุมยำราคาข้าวดิ่งเหว 7พรรคยื่นญัตติถล่มยับ!นายกฯถก‘พิชัย-นฤมล’เร่งแก้ไข

"นายกฯ อิ๊งค์" เรียก “พิชัย-นฤมล”   ถกด่วนแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ลั่นรัฐบาลอยู่ข้างเกษตรกรชาวนา เผยระยะสั้นสั่งพยุงราคาข้าวให้ นบข.ชงมาตรการเสนอ ครม. ระยะยาวเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวแจกจ่าย ปชช. "พิชัย" มั่นใจราคาข้าวขยับขึ้นแน่ "นายกสมาคมชาวนาฯ"  บอกไม่อยากปิดถนน ถ้าชาวนาอยู่ได้รัฐบาลก็อยู่ได้ สภาเดือด! 7 พรรคพร้อมใจยื่นญัตติด่วนถล่ม  “พิชัย-นฤมล” แก้ปัญหาราคาข้าวไม่ได้ผล  “พริษฐ์” ตั้งกระทู้ถามข้องใจจุดยืนพรรคร่วม รบ.แก้ รธน. แซะ ภท.ไม่ร่วมแก้กังวลข้อ กม.หรือต่อรองแลกตั้งบ่อนกาสิโน "อนุทิน" สอนมวย "ไอติม"  อย่ามโนดีลแลกเปลี่ยน "กกต." ชง ครม.ออก  พ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ สส.เขต 2 บึงกาฬ หลังศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิ “สุวรรณา" 

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 20 ก.พ. เวลา 14.00   น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์    หารือด่วนถึงปัญหาราคาข้าวตกต่ำ หลังจากกลุ่มเกษตรกรชาวนาจังหวัดพื้นที่ภาคกลางยื่นหนังสือให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน โดยใช้เวลาหารือประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อน น.ส.แพทองธารจะเดินทางกลับออกจากทำเนียบฯ

 จากนั้นเวลา 15.00 น. นายพิชัยและนางนฤมลร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการหารือ โดยนายพิชัยกล่าวว่า ได้มีแนวทางแล้วว่าจะแก้ไขอย่างไร  ซึ่งตนจะต้องไปร่วมประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (อนุ นบข.) ที่กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แน่นอนก่อนจะแถลง ไม่ต้องห่วง เรากำลังดำเนินการให้อยู่

 ส่วนนางนฤมลกล่าวว่า นายกฯ มีความเป็นห่วงพี่น้องชาวนาเป็นอย่างมาก และได้ฝากกระทรวงเกษตรฯ ที่มีข้อมูลการผลิตให้ประสานงานกับ รมว.พาณิชย์ เพื่อทำงานร่วมกัน  ซึ่งคณะอนุกรรมการ นบข.มี 2 ชุด โดยนายพิชัยเป็นประธานอนุ นบข.ฝ่ายตลาด ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูอนุ นบข.ฝ่ายผลิต โดยเราได้มีการรายงานให้นายกฯ รับทราบปริมาณพันธุ์ข้าวที่จะออกมาจำนวนทั้งหมด สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์นำเสนอมาเกษตรกรจะพอใจหรือไม่  โดยนายพิชัยจะไปร่วมประชุม นบข.ฝ่ายตลาด  และส่งไปที่ นบข.เพื่อนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ต่อไป

 ถามว่า พอที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรชาวนาก่อนได้หรือไม่ว่าราคาข้าวจะขึ้นแน่ นายพิชัยกล่าวว่า พอประชุมอนุ นบข.ฝ่ายตลาดเสร็จแล้วจะมีข้อสรุป รับรองได้ขึ้นแน่นอน เพียงแต่ตนไม่สามารถให้ข้อมูลก่อนการประชุมได้

 ซักว่าเป็นมาตรการตลาดหรือช่วยเกษตรกรโดยตรง นางนฤมลกล่าวว่า มีหลายออปชันที่จะเคาะกันในที่ประชุมด้านการตลาด โดยออปชันหนึ่งจะเอามาใช้กับนาปรัง ซึ่งนายกฯ เน้นย้ำให้เป็นกลไกที่ถูกต้องตามกฎหมาย สามารถดำเนินการได้จริงๆ ขั้นตอนต่างๆ มีความชัดเจน ทั้งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนว่าปลูกพันธุ์อะไรไว้ พื้นเท่าไหร่ และเรื่องยุ้งฉางที่จัดเก็บ ซึ่งต้องมีความพร้อม

 ถามว่า ปริมาณข้าวที่ต้องดูดซับมีกี่ล้านตัน  นางนฤมลกล่าวว่า คาดว่าประมาณ 1.5-2 ล้านตัน ส่วนจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะมีการเคาะสรุปกันในที่ประชุมอนุกรรมการฯ จากนั้นจะนำเข้าที่ประชุม นบข.ต่อไป โดยจะพยายามประชุม นบข.สัปดาห์หน้า เพื่อที่จะได้นำผลสรุปเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์ถัดไป จะได้ทันฤดูกาลที่ข้าวพันธุ์ดีของไทยจะออกในช่วงเดือน มี.ค.

อิ๊งค์ลั่นรัฐบาลอยู่ข้างชาวนา

หลังแถลงข่าวเสร็จ ผู้สื่อข่าวสอบถามนายพิชัยกรณีที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) วิจารณ์การทำงานว่าสนใจเดินสายต่างประเทศอย่างเดียว แต่ไม่สนใจบริหารจัดการราคาสินค้าภายในประเทศ ซึ่งนายพิชัยปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และพยายามเดินเลี่ยงออกจากวงสัมภาษณ์  ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ได้ชี้แจงกับสมาชิกในพรรคบ้างหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า มีคุยกันบ้างบางคนแล้ว

 พอถามว่า วันนี้ที่นายกฯ เรียกมาเพราะเรื่องปัญหาของ สส.ด้วยหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย ไม่มี พูดแต่เรื่องข้าวอย่างเดียว”       เมื่อถามอีกว่า กังวลเสียงวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้หรือไม่ นายพิชัยยืนยันว่า ไม่กังวล เมื่อถามว่าเป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีความเห็น”

ต่อมา น.ส.แพทองธารได้ทวีตข้อความผ่าน X ถึงการเรียกนายพิชัยและนางนฤมลมาหารือปัญหาราคาข้าวตกต่ำว่า รัฐบาลอยู่ข้างชาวนาและพี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด เราพร้อมรับฟังและจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด วันนี้ดิฉันได้เชิญนายพิชัยและนางนฤมล เข้าพบหารือเรื่องราคาข้าวและสินค้าเกษตร เร่งแก้ปัญหาทั้งระยะสั้นและยาว

"โดยส่วนหนึ่งคือการแก้ปัญหาการปลูกข้าวพันธุ์ที่ไม่ได้รับการรับรอง ทำให้ข้าวไม่ได้คุณภาพและราคาต่ำกว่าปกติ ส่งผลต่อราคาข้าวในภาพรวม จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวและแจกจ่ายแก่พี่น้องเกษตรกรให้เพียงพอ ส่วนมาตรการระยะสั้นเรื่องการพยุงราคาข้าว วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) จะออกมาตรการที่ชัดเจน นำเข้าสู่ ครม. เพื่ออนุมัติต่อไป ขอให้พี่น้องชาวนาและเกษตรกรมั่นใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหานี้ และจะมีมาตรการออกไปโดยเร็วที่สุดค่ะ” น.ส.แพทองธารระบุ

ด้านนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า มั่นใจรัฐบาลจะตอบรับที่สมาคมชาวนาเสนอไป เพราะหากไม่รับข้อเสนอดังกล่าวรัฐบาลลำบากแน่ เนื่องจากต้นทุนการผลิตของชาวนาพุ่ง 5,500-6,000 บาทต่อไร่ หากรัฐบาลไม่ตอบรับข้อเสนอ จะทำให้ชาวนาทำนาไม่คุ้มทุน และสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนา ก็ไม่สามารถจะทราบได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

"ที่ชาวนาออกมาเรียกร้องไม่ได้อยากให้เกิดการปิดถนน ซึ่งเคยบอกกับรัฐบาลไปว่าถ้าชาวนาอยู่ได้รัฐบาลก็อยู่ได้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่ไม่ให้ความสนใจกับชาวนาเลยว่าจะมีความเป็นอยู่อย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีหน่วยงานใดสนใจชาวนา ที่ผ่านมาชาวนาเองก็ไม่เคยออกมาเรียกร้อง รวมเป็นเวลากว่า 10 ปี แต่ปีนี้ประสบภาวะวิกฤตหนักที่ราคาข้าวเหลือเพียง 6,000 บาทต่อตัน ชาวนาจึงได้ออกมาเรียกร้องในวันนี้" นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยกล่าว

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ  คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ภายหลังเสร็จสิ้นวาระรับทราบรายงานที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ปรากฏว่า สส.พรรคต่างๆ พากันเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่เพาะปลูกข้าว อันเนื่องมาจากราคาตกต่ำถึง 5 ญัตติ จาก 5 พรรคการเมือง ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคภูมิใจไทย, พรรครวมไทยสร้างชาติ, พรรคประชาชน, พรรคชาติไทยพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีญัตติที่บรรจุอยู่ในวาระแล้วและมีเนื้อหาคล้ายกันของพรรคไทยสร้างไทยและพรรคกล้าธรรม  นำมาพิจารณาพร้อมกันรวม 7 ญัตติ

7 พรรคยื่นญัตติถล่ม 'พิชัย'

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายเสนอหลักการเป็นไปด้วยความดุเดือดถึงการสะท้อนปัญหาของเกษตรกร และโจมตีไปที่มาตรการรองรับของกระทรวงพาณิชย์ ภายใต้การบริหารของนายพิชัย ที่แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลก็ซัดกันอย่างดุเดือด โดยคนแรกที่เสนอหลักการคือ นายนพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ราคาข้าวตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ปัจจัยการผลิตสูงขึ้น รวมถึงไม่มีทุนทรัพย์และไม่มีเงินชำระหนี้ ซึ่งชาวนาอยากให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าว

"คราวนี้เป็นการร้องขอครั้งแรกก็ว่าได้ในฤดูเพาะปลูกข้าวนาปรัง เพราะปกติแล้วพี่น้องแม้ราคาตกต่ำขนาดไหน เขาก็ไม่เคยขอร้องให้รัฐบาลช่วยเรื่องข้าวนาปรัง แต่เที่ยวนี้มันไม่ไหวจริงๆ ไม่เข้าใจจริงๆ ในเรื่องของราคาข้าวหรือมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องชาวนา ทำไมเลยเถิดมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะสิ่งที่ผมหรือแม้แต่ผู้แทนในหลายจังหวัดของพรรคเพื่อไทย เราได้พยายามบอกกล่าวให้ท่านเห็นว่าในสถานการณ์ข้าวโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบันมันสุ่มเสี่ยงต่อราคาที่จะเกิดขึ้นที่จะตกต่ำในอนาคต พวกเราได้บอกกันมาตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ตั้งแต่อินเดียประกาศส่งออกข้าว หลังจากงดส่งออกเป็นเวลา 2 ปี" นายนพดลกล่าว

ส่วนฝั่งฝ่ายค้าน ทั้งนายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และนายชัชวาล แพทยาไทย สส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย ก็ลุกขึ้นอภิปรายสอบถามมาตรการตามนโยบายตลาดนำนวัตกรรมเสริมเพิ่มรายได้ของนายกฯ

วันเดียวกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติถึงประธานรัฐสภาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับการทำประชามติว่า เป็นญัตติธรรมดา เมื่อเสนอไปประธานรัฐสภาสามารถบรรจุได้ เพื่อพิจารณาว่าจะบรรจุเมื่อไหร่ ซึ่งวิป 3 ฝ่ายต้องมาคุยกัน ตอนนี้ยังไม่รู้จะนัดคุยวันไหน

ถามว่า การที่ท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเปลี่ยนไป จะมาสนับสนุนญัตติของพรรคเพื่อไทย จะทำให้ไม่มีอะไรสะดุดเหมือนครั้งที่แล้วใช่หรือไม่  นายชูศักดิ์กล่าวว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น เมื่อถามว่าได้คุยกับ สว.บ้างหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า  ความจริงอันนี้เป็นเรื่องของการเลื่อนญัตติ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะจริงๆ แล้วมันไม่มีอะไร เป็นเพียงการเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาเท่านั้น 

ขณะที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มีความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล โดนนายกฯ มอบหมายให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตอบกระทู้ชี้แจงแทน

นายพริษฐ์กล่าวว่า แม้รัฐบาลยืนยันการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่เห็นพรรคร่วมรัฐบาลและ  สว.หัวใจเดียวกันสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อ้างข้อกังวลด้านข้อกฎหมายที่ยังไม่มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญ จึงอยากทราบเหตุผลที่พรรคร่วมรัฐบาลและ สว.ไม่ร่วมมือแก้รัฐธรรมนูญ เป็นเพราะความกังวลข้อกฎหมาย  ไม่ใช่ปัญหาจุดยืนทางการเมืองที่ไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ แม้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ   และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกภายหลังว่าพร้อมสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ หากสิ้นข้อสงสัยด้านข้อกฎหมาย แต่หาก สว.ไม่ร่วมแก้ไขด้วย ก็ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันจะสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ อีกทั้งคำพูดของนายกรัฐมนตรีระบุว่า ได้หารือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว แต่นายอนุทินบอกนายกฯ ไม่เคยมาคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้นคำพูดใครควรเชื่อถือกว่ากัน

หนูซัดไอติมอย่ามโนดีลแก้ รธน.

นายพริษฐ์กล่าวว่า ความเห็นต่างระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลอีกเรื่องคือ สถานบันเทิงครบวงจร ที่ล่าสุดร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรที่รัฐบาลรับหลักการ ไม่ได้แก้ไขข้อกังวลของพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหน้านี้ ได้แก่ 1.ไม่ได้แก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย 2.การเปิดประมูลแข่งขันการทำสถานบันเทิงครบวงจร และการเปิดรับฟังความเห็นประชาชน 3.ไม่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวในเมืองที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร 4.การสร้างงานแก่แรงงานไทย

"4 ข้อกังวลที่พรรคร่วมรัฐบาลเคยทักท้วง  ปรากฏว่าในร่างกฎหมายที่ ครม.รับหลักการมาไม่มีการแก้ไขข้อกังวลเหล่านี้เลย อยากถามนายกฯ ว่า จะทำอย่างไรให้พรรคร่วมรัฐบาลมาสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร โดยไม่ต้องไปตกลงหลังห้อง เรื่องสถานที่ตั้งกาสิโน หรือการนำเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องกัญชาไปแลกกับเรื่องกาสิโน"

นายประเสริฐชี้แจงว่า นายกฯ คุยกับหัวหน้าพรรคอื่นๆ ตลอดเวลาไม่มีเดินอ้อม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญเราก็ต้องดำเนินการต่อ ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น กัญชา ค่าแรง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญทั้งสิ้น

ด้านนายอนุทินให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายพริษฐ์ระบุรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญแบบเดินอ้อม  แต่สถานบันเทิงครบวงจรกับเดินหน้าเต็มสปีดว่า  คนไม่รู้เรื่อง พูดออกไปก็เสียหาย เขาคุยกันมากี่เดือนต่อกี่เดือนแล้วเรื่องก็ยังไม่จบ ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ยังไม่ผ่าน ยังไม่บรรจุเลย ส่วนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญมาถามตนไม่ได้ ต้องไปถามพรรคเพื่อไทย เพราะตนไม่ใช่คนเริ่ม

ถามว่า นายพริษฐ์มองมีการแลกดีลอะไรกันหรือไม่ ระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มี ต้องไม่มโน มโนไปเรื่อยๆ มันก็จะมีวาทกรรม เรื่องประเทศชาติและประชาชนไปแลกดีลอะไรกันได้ ประชาชนหรือเปล่า ถ้ารัฐธรรมนูญแก้ไขแล้วเป็นประโยชน์กับประชาชน อย่าว่าแต่ยกมือเดียว จะยกสองมือเลย แต่หากเป็นประโยชน์ต่อคนคนเดียว หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ยังไงก็ไม่ผ่านหรอก

ซักว่า หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการทำประชามติสามารถทำ 2 ครั้งได้ มองว่า ครม.จะต้องเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกบไปด้วยหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องไปถาม ครม.ว่าแต่ละพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลมีนโยบายอย่างไร แต่หากถามพรรคภูมิใจไทย เราบอกแล้วว่าต้องไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 รวมถึงมาตรา 112 ต้องไม่เปลี่ยนและไม่ปรับ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยมาหารือกัน

นายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีที่ดินเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่กระทรวงเกษตรฯ ระบุมีการทับซ้อนกับที่ดิน ส.ป.ก.ว่า ไม่มีอะไรต้องชี้แจง  เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นเรื่องของทางราชการกับราชการ ฉะนั้นไปว่ากัน 3 กระทรวง (เกษตรฯ, พัฒนาสังคมฯ, มหาดไทย) ก็ต้องไปพิสูจน์กัน เพราะประชาชนทั่วไปเข้าไม่ถึงข้อมูล

ที่รัฐสภา นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ อดีต สส.กทม. พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีลงชื่อแก้ไข ม.112 ว่า ได้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว แต่ตนไม่ได้ไปต่อกับพรรคก้าวไกล และไม่ได้กระทำการอย่างอื่นร่วมกับพรรคก้าวไกลต่อหลังจากนั้น  นอกจากนี้ตนก็ไม่ได้ไปเป็นพยาน เนื่องจากในเอกสารที่ส่งมาให้ตนรับทราบข้อกล่าวหานั้นมีหลายหน้า และมีการให้คำแนะนำว่าให้ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการเสนออะไรให้ตนเข้าไปเป็นพยาน และคิดว่าไม่เกิน 30 วันตนสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด

ถามว่า นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.พรรคก้าวไกล ระบุมีอดีต 4 สส.ไปขอให้ ป.ป.ช.กันเป็นพยาน นายสมเกียรติกล่าวว่า ต้องแยกก่อน เพราะ 44 คนคือคนที่ถูกกล่าวหา เป็นคนที่ลงชื่อ แต่คนที่ไปเป็นพยานรอบแรกเขาไปเป็นพยานในฐานะพยานแวดล้อมที่ไม่ได้ลงชื่อ และมั่นใจว่าใน 44 คนถูกตั้งข้อกล่าวหาเหมือนตน

ที่สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง (กกต.)​ มีรายงานว่า กรณี กกต.ได้มีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุวรรณา กุมภิโร ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.จังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 และสั่งให้มีการเลือกตั้ง สส.เขตเลือกตั้งที่ 2 ใหม่ และสั่งให้นายสุวรรณารับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งนั้น ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสุวรรณาเป็นเวลา 10 ปี และให้มีการเลือกตั้ง สส.เขต 2 ใหม่ รวมทั้งให้นายสุวรรณาชำระค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 เป็นเงิน 9,852,954.13 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว

ทั้งนี้ สำนักงาน กกต.มีหนังสือเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง สส.จังหวัดบึงกาฬ เขตเลือกตั้งที่ 2 ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อนำเรียนนายกฯ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป.