สว.เอาคืนบี้ทวี-DSIแจงคดีฮั้ว

ออกอาการ! สว.สำรอง มอบดอกไม้ให้กำลังใจ "ทวี" และคณะผู้บริหารดีเอสไอทำคดีฮั้วเลือก สว. ด้าน รมว.ยุติธรรมตอบเหมือนชั้น 14 ข้อมูลหลักฐานเรื่องวิทยาศาสตร์เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่โกหกไม่ได้ ขณะที่   "อนุทิน" เชื่อความเห็นกฤษฎีกา กรมสอบสวนคดีพิเศษไร้อำนาจสอบเลือก สว. ยกเหมือน "ที่ปรึกษากฎหมายแห่งรัฐ"

เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2568 ที่บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)​ นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล ตัวแทนกลุ่ม สว.สำรอง และอดีตผู้สมัคร สว. รวมกว่า 20 คน เดินทางมาเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมทั้ง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ คณะผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ

นายอัครวัฒน์กล่าวว่า ตนในนามของสมาชิกวุฒิสภา (สำรอง) ตลอดจนผู้ที่เคยผ่านการสมัครสมาชิกวุฒิสภาด้วยกัน ได้เดินทางมาเพื่อมอบดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้บริหารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตลอดจนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการดำเนินการต่อสู้กับอำนาจที่ทำลายระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตย จนทำให้บ้านเมืองเกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อประเทศในด้านต่างๆ อีกทั้งทำให้ความเชื่อมั่นของประเทศจากนานาชาติถูกลดทอนลง

อีกทั้งกระบวนการซึ่งการได้มาของสภานิติบัญญัติ มองว่ามีความไม่สุจริตโปร่งใส แต่ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลับเพิกเฉย ซึ่งตนมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากข้าราชการระดับสูง

ส่วนที่วานนี้ (25 ก.พ.) มีการเลื่อนการพิจารณารับคดีการฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ มองว่าอาจจะมีเหตุผลในเรื่องข้อกฎหมาย เรื่องการมอบหน้าที่อำนาจว่าใครมีอำนาจในการตรวจสอบด้านใด ไม่ว่าจะเป็นทางอาญาหรือทางกฎหมายการเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ก็มีความคาดหวังว่าในวันที่ 6 มีนาคม ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษอีกครั้ง ทางดีเอสไอจะรับคดีการฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ

โดยเชื่อมั่นว่าดีเอสไอจะรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษอย่างแน่นอน เพราะมีประชาชนจำนวนมากที่อยากเห็นความยุติธรรม ตลอดจนพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวันเลือกตั้ง หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ หรือพยานบุคคลที่เข้ามาเป็นพยานในคดีนี้มากมาย เชื่อว่าพยานหลักฐานมากพอที่จะทำให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ แต่หากไม่สามารถรับเป็นคดีพิเศษได้ ทางเราก็มีแนวทางอยู่แล้ว

ขณะที่ตัวแทนประชาชนก็ได้มามอบดอกไม้ให้กำลังใจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและผู้บริหารดีเอสไอด้วยเช่นกัน โดยบอกว่า  จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้น เชื่อว่าผลสำรวจประชาชนกว่า 90% ก็เชื่อว่ามีการฮั้วเกิดขึ้น ตนที่เดินทางมาในนามประชาชน ที่เฝ้าดูการทำงานของ กกต. วันนี้มาเพื่อขอให้ทางดีเอสไอช่วยทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่า สว.ที่ผ่านการเลือกตั้งมาด้วยความสุจริตบริสุทธิ์ใจจริงหรือไม่

'ทวี' ขอบคุณ สว.สำรอง

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการเรื่องนี้ อยู่ในขั้นตอนที่คณะกรรมการคดีพิเศษเลื่อนการประชุมไปอีก 1 สัปดาห์ เนื่องจากพบว่ายังมีข้อมูลที่มากมาย จึงขอให้กรรมการคดีพิเศษที่ได้รับฟังข้อเท็จจริงเมื่อวานแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัยเรื่องข้อกฎหมาย และจะได้กลับไปทบทวนเพื่อจะมาประชุมกันใหม่ในวันที่ 6 มีนาคมที่จะถึงนี้

ส่วนอำนาจที่ใช้เรียก กกต.มานั้น ใช้วิธีการประสานงาน เพราะในบางประเด็นอาจจะเป็นเอกสารมาก็ได้ ซึ่งก็มีการประสานงานกับคณะกรรมการการเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่ได้มีความขัดแย้ง

ส่วนกรณีที่ สว.เตรียมจะอภิปรายทั่วไปนั้น พ.ต.อ.ทวีเผยว่า พร้อมจะชี้แจง ยืนยันว่าทำด้วยความยุติธรรม ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ซึ่งหากตอนชี้แจงมีคำถามที่ตนจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลที่เป็นความลับบางอย่าง หากทาง สว.รับได้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากการสืบสวน  ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อมูลหลักฐานเรื่องวิทยาศาสตร์เรื่องเทคโนโลยีเป็นเรื่องที่โกหกไม่ได้

ขณะที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ  เผยหลักการว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะต้องเข้าลักษณะที่เป็นคดีพิเศษเมื่อมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ ดีเอสไอก็ต้องมีการสืบสวน ซึ่งคดีนั้นจะเข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ตามหลักการกฎหมายถ้าเป็นความผิดตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับไว้ แต่ถ้าเข้าข้อกฎหมายอื่นที่ไม่ใช่ข้อกฎหมายท้ายพระราชบัญญัติ อันนี้ต้องใช้มติ คกพ.ที่จะรับเป็นคดีพิเศษ เมื่อสืบสวนแล้วเห็นว่าเรื่องนี้น่าจะเข้าเรื่องเป็นลักษณะคดีพิเศษ ก็จะต้องเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อให้มีมติ ซึ่งส่วนนี้เป็นกระบวนการปกติ ซึ่งอาจจะทำให้ประชาชนบางส่วนมองว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง แต่ตนมองว่าหากมีประชาชนมาร้องทุกข์กล่าวโทษ ดีเอสไอก็ต้องบังคับใช้กฎหมาย ทำตามหน้าที่ ซึ่งถ้าไม่ทำตามหน้าที่ทางดีเอสไอก็จะผิดเอง ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงกดดัน ดำเนินการตามหน้าที่เท่านั้น

เชื่อกฤษฎีกามากกว่า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเลื่อนการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ออกไป เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว. ว่า ได้ติดตามจากข่าวเท่านั้น เพราะไม่ได้เป็นคณะกรรมการ แต่มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นหนึ่งในกรรมการ และมาเล่าให้ตนฟังว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายให้เคร่งครัด เพื่อขจัดปัญหาต่างๆ ในภายภาคหน้า ซึ่งทั้งหมดก็แล้วแต่การพิจารณาของคณะกรรมการฯ เพราะทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการใช้ดุลยพินิจที่จะตัดสินใจ

เมื่อถามว่า มีรายงานว่านายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้ความเห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ เนื่องจากเป็นอำนาจของ กกต. นายอนุทินกล่าวว่า หากเป็นตนในฐานะรัฐมนตรี เวลาจะตัดสินใจอะไรในที่ประชุม ครม. จะต้องฟังเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหลักไว้ก่อน แต่ไม่ได้มีกฎว่าหากเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาพูดอะไร จะต้องปฏิบัติตาม  หรือต้องเชื่อ เพราะอยู่ที่ดุลยพินิจ แต่น้ำหนักของความเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า ที่ปรึกษากฎหมายแห่งรัฐ คงต้องทิ้งน้ำหนักไว้ตรงนั้นเยอะ

"อย่างเวลาผมต้องการตัดสินใจอะไรในการประชุม ครม. ถ้าจะต้องมีการตัดสินใจเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย คำแรกที่ทุกคนจะถามคือกฤษฎีกาว่าอย่างไร ก่อนย้ำว่าก็มีน้ำหนัก กฎหมายเป็นกฎหมายฉบับเดียวกันทั้งหมด แต่การตีความอาจไม่เหมือนกัน จึงขึ้นอยู่กับว่าใครจะให้น้ำหนักไปที่ตรงไหนมากกว่า แต่หากเป็นผมจะให้น้ำหนักกฤษฎีกา" รองนายกฯ กล่าว

ที่สำนักงาน กกต.​ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ นำกลุ่มอดีตผู้สมัคร สว. เดินทางมาที่หน้าสำนักงาน กกต. เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยนำคนที่แต่งกายเลียนแบบเป็น "หวังเฉา" กับ "หม่าฮั่น" ตัวละครดังในละครเปาบุ้นจิ้น โดยนำตัวนักโทษอั้งยี่ซ่องโจรมาประหารตามคำสั่ง

โดยนายภัทรพงศ์กล่าวว่า วันนี้ตัวเองไม่ได้มายื่นหนังสือใดๆ กับทาง กกต. อีกแล้ว เพราะถือว่าการสื่อสารระหว่างตัวเองกับ กกต.สิ้นสุดทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ดีเอสไอ​พิจารณากรณีฮั้วเลือก สว.ว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ผบ.ตร.แจงไปงานอื่นสำคัญกว่า

เขาเชื่อว่าสิ่งที่ผู้กระทำผิดกังวลตอนนี้คือ ถ้าคดีไปอยู่ในมือของดีเอสไอที่มีอำนาจสอบสวนเต็มก็จะเรียก สว. 138 คนรวมถึงพยานอีกกว่า 300 คนไปสอบ และท้ายที่สุดกลุ่มคนเหล่านี้อาจพูดถึงนายใหญ่ระดับสั่งการ ซึ่งตอนนี้ตัวเองมีข้อมูลว่าคนที่ร่วมอยู่ในขบวนการฮั้วเลือก สว.หลายคนก็กลับลำเข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ แล้วอย่างก่อนหน้านี้ก็เคยมี สว.สายใต้คนหนึ่งทำคลิปข้อมูลแฉเรื่องการฮั้ว สว. และขณะนี้ก็เข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยแล้ว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม กคพ.ว่า ขออย่าใช้คำว่าเท ในส่วนของ ผบ.ตร.ที่เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง มีการมอบหมายให้ผู้แทนหลัก ผู้แทนสำรอง เข้าประชุมตั้งแต่ปี 2562 แล้ว ซึ่งมีการมอบหมายให้รอง ผบ.ตร. หรือผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่อยู่ในฝ่ายกฎหมายเป็นผู้แทนหลักและผู้แทนสำรองมาโดยตลอด และที่ผ่านมาตนเองก็ไม่เคยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชุดนี้สักครั้ง ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) ตนติดภารกิจดูงานด้านความมั่นคงที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และช่วงบ่ายก็เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งมีการนัดหมายก่อนแล้ว

นายคารม พลพรกลาง ในฐานะนักกฎหมาย กล่าวว่า ถ้ารับไปคนที่ลงมติไปจะมีปัญหาว่าปฏิบัติหน้าที่ชอบไหม เพราะคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษมี 2 อย่างคือ คดีพิเศษโดยแท้ ตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัติ  กับคดีพิเศษ ที่ กคพ.มีมติให้รับ ถ้ามีมติให้รับโดยขาดหลักการเท่ากับมีการขยายความคดีพเศษ แต่คดีอาญานั้น หลักการห้ามขยายความและขยายอำนาจของคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ

เพราะฉะนั้นการที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษได้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไป จึงถูกต้อง และถ้าจะให้ถูกต้องและปลอดภัย ต้องมีมติไม่รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ไม่อย่างนั้นปัญหานี้จะเป็นหนังอินเดีย ไม่ใช่หนังจีน เพราะหนังอินเดียยาวกว่าหนังจีน" นายคารมกล่าว

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เห็นว่ามีคนไปล็อบบี้ มีอำนาจมากที่ไปล็อบบี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใคร แต่คิดว่าการทำแบบนี้เข้าข่ายการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ และคิดว่าการใช้ดุลยพินิจของดีเอสไอ ดำเนินการในการรับเป็นคดีพิเศษ เรื่องนี้ต้องเป็นอำนาจของกรรมการในระดับที่ต้องไปว่ากัน อย่างไรก็ตาม ขอเรียนตามตรงว่าในส่วนของการทำหน้าที่ของ กกต.ก็ต้องทำ แต่ในส่วนที่ดีเอสไอต้องดำเนินการ ซึ่งจะเป็นเรื่องของอั้งยี่ซ่องโจร ถ้ามีจริง ทางดีเอสไอก็สามารถรับทำคดีได้ แต่ปัญหาวันนี้เรื่องฮั้ว สว.ตนไม่อยากให้มองว่าเป็น สว.หรืออะไร แต่อยากให้มองว่าเป็นคดีคดีหนึ่งที่หน่วยงานรัฐจะต้องดำเนินการ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน

ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี

อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก

นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม