"สว.สีน้ำเงิน" โต้กลับยื่นประธาน สว.ชง ป.ป.ช.สอบ "รมว.ยุติธรรม-อธิบดีดีเอสไอ" ปม "คดีฮั้วเลือก สว." ซัดข้อกล่าวหาเลื่อนลอย ขัด รธน.-ข้ามแดนอำนาจ กกต. เชื่อเป็นการจงใจกลั่นแกล้ง ถามกลับรู้ได้อย่างไร อยู่ในกระบวนการตั้งแต่ต้นหรือ ลั่นสัปดาห์หน้าอภิปรายแน่ "จตุพร" จับตาทีเด็ด กกต.เรียกสำนวนมาทำเอง
ที่รัฐสภา วันที่ 27 กุมภาพันธ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล เข้ายื่นหนังสือต่อนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เนื่องจากเพื่อนสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ จึงเห็นว่าควรให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนและพิจารณาในประเด็นที่เราได้กล่าวหา
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า เราดูจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกคนทราบดีจากกรณีการเลื่อนพิจารณาการฮั้วการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาปี 2567 ของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ซึ่งประเด็นที่เราถูกกล่าวหานั้น กคพ.และดีเอสไอไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงขอเลื่อน โดยใช้ข้ออ้างว่า รอการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งสุดท้ายจะมาหรือไม่มา ก็ไม่มีปัญหากับ กคพ.ในการชี้แจง รวมถึงกรณีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก็ไม่มีอะไรที่มีความชัดเจน มีเพียงความเลื่อนลอย ไม่มีพยานหลักฐาน จึงอยากถามว่า ที่ไม่กล้าลงมติเพราะยังฮั้วกันไม่เสร็จใช่หรือไม่ เนื่องจากมีบุคคลภายนอกเข้าไปควบคุมการพิจารณาของ กคพ. หากไปดูตามภาพข่าวก็จะเห็นว่าเป็นใคร หรือคนของใคร
"ในฐานะ สว. จึงเห็นว่าการดำเนินการนั้นเป็นการกลั่นแกล้งจงใจให้สมาชิกวุฒิสภาซึ่งเป็นเสาหลักในการบริหารบ้านเมืองและเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเรานั้นได้มาตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญโดยชอบสุจริต เพราะผู้ที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดนั้นคือ กกต. แต่ไฉนเลยดีเอสไอจึงบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา และพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นการดำเนินการข้ามแดน เป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ถึงขั้นล้มล้างการปกครอง จึงต้องนำเรื่องยื่นต่อประธานวุฒิสภา เพื่อนำส่งต่อให้ ป.ป.ช. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่" พล.ต.ต ฉัตรวรรษระบุ
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวอีกว่า ในช่วงสัปดาห์หน้า สว.คงต้องมีการเปิดอภิปรายแน่นอน โดยขณะนี้มีการเตรียมญัตติไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อดำเนินการต่อไป ภายหลังการได้ดำเนินการกับ พ.ต.อ.ทวีและอธิบดีดีเอสไอแล้ว ยืนยันว่า สว.เราปฏิบัติราชการอย่างสุจริต แต่ถูกกล่าวหาว่ากระทำการก่อให้เกิดภัยความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ซึ่งอยากย้อนกลับไปถามว่า ดีเอสไอทำงานดีหรือยัง ที่ผ่านมามีกี่คดีที่รับไปทำแล้วไม่รับฟ้องบ้าง ศาลยกฟ้องบ้าง แล้วอ้างเป็นคดีพิเศษ ทั้งกรณีตู้ ห่าว และชั้น 14 ที่ทุกคนคงทราบดี
ส่วนการเลื่อนการลงมติออกไปอีกหนึ่งสัปดาห์นั้น จะทำให้เกิดการล็อบบี้หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษกล่าวว่า ดีเอสไอมีอำนาจทำได้แค่ไหน การทำหน้าที่ทำได้อย่างไร ความรับผิดชอบที่ดำเนินการก็ว่ากันไป ถ้าไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือขัดต่อกฎหมาย เราก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเฉพาะการให้ข่าว ยืนยันว่าต่อให้กล่าวหา สว.ทุกคนก็พร้อมรับการตรวจสอบ แต่กลับกล่าวหาลอยๆ เลือกปฏิบัติกับ สว.กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ากลุ่มอะไร แล้วมาตั้งฉายาพวกตนว่าสีน้ำเงิน ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นสีของสถาบันฯ ตนก็ยอมรับ
ส่วนข้อกล่าวหา สว.อีก 62 คนมีส่วนเกี่ยวข้องนั้น ตนขอถามกลับไปว่า ทั้ง พ.ต.อ.ทวีและ พ.ต.ต.ยุทธนา รู้ได้อย่างไร เข้าไปอยู่ในการเลือกตั้งตั้งแต่ระดับอำเภอตั้งแต่ต้นหรือไม่ สำหรับกรณีที่อ้างว่ามีโพยเยอะแยะมากเพียงพอนั้น วันที่ยื่นให้ กคพ.ก็คงรับไปแล้ว ไม่ต้องเลื่อนลงมติ สามารถดำเนินการได้ แต่อย่าลืมว่าอัยการต้องยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริตและชอบธรรม ไม่มีใครปกป้องท่านได้ตลอด
ด้านนายมงคลกล่าวว่า การยื่นของ สว.ในวันนี้ เป็นสิทธิ์ของท่านที่จะยื่นเรื่องเพื่อร้องขอความเป็นธรรม ตนในฐานะประธานวุฒิภา จะรับเรื่องไว้ไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งคงต้องมีการตรวจสอบต่อไป ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่ยังเป็นเรื่องอนาคต ตนยังไม่ทราบ จึงยังตอบไม่ได้ ปัจจุบันมีหน้าที่แค่นี้ ก็ทำแค่นี้ไปก่อน
"ยืนยันว่าเรายินดีให้ความร่วมมือ หากเป็นหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย แต่ผมเป็นประมุขของ สว. ก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ เพราะฉะนั้นจะมาบอกว่าคิดอย่างไรคงพูดไม่ได้ ย้ำว่าสิทธิ์ของทุกคนที่มีอยู่ จะไปละเมิดใครไม่ได้ ต้องทำอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม" ประธานวุฒิสภากล่าว
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า กรณีการเปิดประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษครั้งใหม่วันที่ 6 มี.ค.นี้ ที่จะให้ กกต.มาชี้แจงในที่ประชุมนั้น แต่ กกต.สวนกลับยังไม่ทันข้ามวันว่าใช้อำนาจอะไรเรียกให้มาชี้แจง เพราะขั้นตอน กกต.ขอความร่วมมือให้ดีเอสไอไปตรวจสอบ สว. เมื่อทำหน้าที่เสร็จต้องส่งเรื่องกลับมาให้ กกต.จึงจะถูกต้อง
"ถัดจากนี้ ให้จับตาดูลีลาของ กกต. ว่าก่อนถึงวันที่ 6 มี.ค.นี้ เขาอาจจะเรียกผลการสอบสวนจากดีเอสไอมาที่ กกต. เพราะถ้า กกต.ไปให้ปากคำ กคพ. ย่อมแสดงว่าเรื่องการจัดการเลือกตั้งต่อไปจะมีดีเอสไออยู่เหนือกว่าการทำหน้าที่ของ กกต."
นายจตุพรกล่าวว่า บรรดาข้าราชการที่เป็นกรรมการใน กคพ. คงมีอาการนกรู้ขึ้นมา แม้ผลการสอบสวนของดีเอสไอน่ารับฟังก็ตาม แต่เมื่อนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้ข้อกฎหมายจะเข้าข่าย ม.157 ดังนั้น กคพ.ที่มีข้าราชการเป็นกรรมการโดยตำแหน่งประมาณ 9-10 คน จาก 22 คน ย่อมหวั่นไหวกับ ม.157 และเหนืออื่นใด สะท้อนถึงไม่มีอะไรเบ็ดเสร็จไปทุกอย่างตามที่รัฐบาลต้องการจนเล่นเกมเปลืองตัว
"ถ้า กคพ.ให้ดีเอสไอรับดำเนินการข้อหาอาญา สว. โดยการสอบสวนนั้นมีหลัก 4 ฝ่ายคือ ฝ่ายโจทก์เป็นดีเอสไอ มีอัยการเป็นคู่หูปรึกษาคดี ส่วน สว.จำเลย ต้องมีทนายให้คำแก้ต่าง ซึ่งต้องสู้ตายเพราะเป็นคดีอาญา มีโทษติดคุกถึง 10 ปี เป็นเดิมพันชีวิต การสู้ของ สว.ต้องใช้อาวุธเสียงแค่ 20 เสียง ยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาส่งรื่องไปยังศาล รธน. (ตรวจสอบข้อหาสนามกอล์ฟอัลไพน์ครอบครองที่ธรณีสงฆ์ เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง) ดังนั้น การสู้ตายด้วยห้วงเวลาอาวุธของ สว.จะเร็วกว่าการทำหน้าที่ตามขั้นของดีเอสไอ"
อย่างไรก็ตาม นายจตุพรเชื่อว่า การเลือก สว.มีฮั้วกันแน่นอน เพราะมีโพยให้เลือก สิ่งสำคัญเป็นรูปแบบของ รธน.60 ที่ออกแบบให้กลุ่มสาขาอาชีพมาสมัครแล้วเลือกไขว้ โดยห้ามพูดคุยกัน ดังนั้น ผู้สมัครจึงกำหนดโพยให้เลือก ทั้งนี้ อย่าถามหาคุณภาพของ สว. เมื่อมีกำหนดกติกาแบบนี้ จึงต้องได้ สว.แบบโพยฮั้วกันเช่นนี้
"ดังนั้น ถ้า กกต.เรียกเอาผลการสอบสวนจากดีเอสไอกลับมา จะทำให้ดีเอสไอโล่งใจที่สุด จึงไม่มีเหตุให้ กคพ.ประชุมพิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ขณะเดียวกัน ถ้า กกต.ปล่อยให้ดีเอสไอเล่นงานคดีอาญาแล้ว สักวันหนึ่ง ม.157 ย่อมมาถึง กกต.ที่ไปรับรอง สว.ฮั้วได้อย่างไร ซึ่งหมายความว่าไม่มีใครจะยอมตายให้ใคร" นายจตุพรประเมินอาการติดกับงูกินหางที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รำลึกพ่อหลวงร.9 ในหลวง-พระราชินีทรงบำ เพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน
ในหลวง-พระราชินี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพรัชกาลที่ 9 และสถาปนาพระอิสริยศักดิ์เฉลิมพระนามพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี
นายกฯยังห่วงหาดใหญ่ ประเดิมพ.ย.เว้น‘ค่าไฟ’
"อนุทิน" รับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน นำประชาชนกลับบ้านแล้ว 90% “เท้ง” แซะบอร์ดมีไว้แค่ให้พาดหัว
อนุทินโวทำจริง/ปปง.จ่อฟันอีก
นายกฯ ลั่นรัฐบาลจริงจังปราบสแกมเมอร์ บอกแค่ 2 เดือนยึดอายัดทรัพย์หมื่นล้าน-เปิดชื่อเครือข่าย ถามมีใครกล้าทําหรือไม่ ตอกกลับ "เพื่อไทย" ถ้าทำงานห่วยจะให้ย้ายไปคุม
พสกนิกรทั่วไทย เข้าถวายสักการะ ‘พระพันปีหลวง’
พระราชวงศ์บำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ พสกนิกรทุกสารทิศหลั่งไหลเข้ากราบพระบรมรูปในหลวง ร.9 และสักการะพระบรมศพ
ปลุกชรบ.ชายแดนพร้อมรุกรบ
กรมพระศรีสวางควัฒนฯ พระราชทานเงิน 121,089,300 บาท
เปิดสภา10ธค. แก้รธน.วาระ2 แนะโหวตต้นมค.
"ปธ.วันนอร์” นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้ รธน.วาระสอง

